ชาวบ้านชาติพันธุ์คนรุ่นใหม่ แม่ฮ่องสอน ทวงไฟฟ้า อยู่มืดมาตลอดชีวิต ไม่เคยเห็นแสงสว่างจากไฟฟ้า ยันรอความหวัง กฟภ.ปักเสามา 8 ปี แต่ยังไร้ซึ่งกระแสไฟ ชี้เป็นความเหลื่อมล้ำด้านคุณภาพชีวิตคนกับป่า ขีดเส้น 15 วันต้องชี้แจง

เมื่อวันนี้ 4 ส.ค. 66 นายอัครพันธุ์ พูลศิริ นายอำเภอสบเมย จ.แม่ฮ่องสอน เปิดเผยว่า กลุ่มชาติพันธุ์คนรุ่นใหม่จังหวัดแม่ฮ่องสอน เดินทางมาขอพบ ณ ที่ว่าการอำเภอสบเมย จ.แม่ฮ่องสอน โดยมีกลุ่มคนรุ่นใหม่ชาติพันธุ์กะเหรี่ยงโปว์และปกาเกอะญอ ใน ต.แม่สวด อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน ร่วมกับสหพันธ์เกษตรกรภาคเหนือ (สกน.) ในนามสมาชิกขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (พีมูฟ) ได้เคลื่อนไหวเรียกร้องการพัฒนาระบบสาธารณูปโภคในพื้นที่ชุมชน โดยใช้โอกาสครบรอบ 13 ปี มติคณะรัฐมนตรี วันที่ 3 ส.ค. 2553 ว่าด้วยแนวนโยบายและหลักปฏิบัติในการฟื้นฟูวิถีชีวิตชาวกะเหรี่ยง ในการผลักดันข้อเรียกร้องดังกล่าวต่อ นายอำเภอสบเมย และนายกองค์การบริหารส่วนตำบลแม่สวด อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน โดยนายอำเภอสบเมย รับเรื่องดำเนินการแล้ว พร้อมย้ำปีนี้มีไฟฟ้าใช้และรับฟังปัญหา ความเดือดร้อน และความต้องการ ด้านการพัฒนาระบบไฟฟ้า เพราะเห็นว่าเป็นความเหลื่อมล้ำด้านคุณภาพชีวิตคนกับป่า

...

นายเอกราช วิมานตระการ ตัวแทนสหพันธ์เกษตรกรภาคเหนือ (สกน.) จ.แม่ฮ่องสอน กล่าวว่า แม่ฮ่องสอนเป็นจังหวัดที่มีพื้นที่ป่ามากถึง 86 เปอร์เซ็นต์ แต่ไม่สามารถพัฒนาคุณภาพชีวิตได้ เพราะไม่ว่าจะทำโครงการอะไรหน่วยงานก็จะอ้างว่าติดเขตป่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งโครงการขยายไฟฟ้าเข้าไปในชุมชนบ้านกองอูมและบ้านแม่คะ หมู่ที่ 3 และบ้านแม่หลุย หมู่ที่ 4 ต.แม่สวด อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน ที่มีความคืบหน้าครั้งสุดท้ายเมื่อปี 2558 โดยการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคได้นำเสาไฟฟ้าไปปักในชุมชนแล้ว แต่ผ่านมา 8 ปีไม่มีความคืบหน้า นี่คือความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นกับชาวแม่ฮ่องสอนที่มีป่าถึง 86 เปอร์เซ็นต์ แต่คุณภาพชีวิตของเราไม่ได้ดี จะพัฒนาอะไรก็ติดเขตป่า ถ้าใครอยากจะเห็นว่าการที่มีเสาไฟตั้งหน้าบ้าน แต่ไม่มีสายไฟมันเป็นยังไง ให้มาดูที่นี่ แม่สวด สบเมย แม่ฮ่องสอน ถามผู้นำคนไหนไปก็บอกแต่ว่าไม่รู้ๆ

ด้าน น.ส.มัลลิกา ศิริโสภาวัฒนา เยาวชนจากบ้านแม่คะ หมู่ที่ 3 ต.แม่สวด อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน กล่าวว่า ตลอด 8 ปีที่ผ่านมาที่มีเสาไฟฟ้าตั้งอยู่หน้าบ้าน แต่ไม่สามารถใช้ไฟฟ้าได้ เป็น 8 ปีที่ชาวบ้านรอคอยอย่างมีความหวัง ในขณะที่ระหว่างการรอคอยนั้นมีชาวบ้านต้องสูญเสียโอกาสในการพัฒนาคุณภาพชีวิตเป็นจำนวนมาก โดยที่ไม่มีผู้นำทางการคนไหนสามารถชี้แจงได้ว่าความคืบหน้าไปถึงไหน ติดปัญหาอุปสรรคอะไรจึงไม่ดำเนินการต่อ ต่อไปนี้คนในพื้นที่จะไม่ทนรออีกแล้ว ให้เวลาหน่วยงานชี้แจงภายใน 15 วันเท่านั้น 

"ถ้าแก้ไขปัญหาได้ คุณภาพชีวิตของพี่น้องจะดีขึ้นแน่นอน ทุกวันนี้มีบางบ้านที่พี่น้องซื้อตู้เย็นไปแล้ว แต่ไม่สามารถใช้ได้ หลายครั้งได้ประสานงานไปถามความคืบหน้า แต่ประชาชนไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลข่าวสารได้ ซึ่งเป็นผลกระทบที่พวกเราคนในชุมชนต้องเจอ"

หลังจากนั้นชาวบ้าน ต.แม่สวด ได้ยื่นหนังสือถึงนายก อบต.แม่สวด และนายอำเภอสบเมย โดยนายอำเภอสบเมย ยืนยันว่า ที่ผ่านมาไม่ได้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรีบดำเนินการ เพื่อให้พี่น้องจะกินดีอยู่ดี คิดว่าปีนี้จะได้ใช้ไฟ ตนจะดำเนินการเร่งรัดให้.