ผักตบชวาวัชพืชที่ชอบขวางทางน้ำ เคยนำไปแปรรูปอัดเม็ดทำเป็นปุ๋ย ล่าสุดชาวบ้าน ต.หนองปลิง จ.กำแพงเพชร นำมาทำเป็นอาหารพื้นบ้าน แกงส้มไหลผักตบชวาใส่เนื้อปลา กินกับข้าวสวยอร่อยมาก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 3 ตำบลหนองปลิง อำเภอเมือง จังหวัดกำแพงเพชร พร้อมด้วยลูกบ้าน สร้างสรรค์นำวัชพืชผักตบชวามาทำเป็นแกงส้ม อาหารพื้นบ้านครบรสกลมกล่อม ใส่ปลาตัวโตๆ อร่อยถึงเครื่องแกง เปรี้ยวหวานเข้มข้น ทานกับข้าวสวยร้อนๆ รับรองว่าอร่อยถูกใจ เริ่มจากการหาวัตถุดิบผักตบชวา ที่ลอยอยู่ในน้ำหนาแน่นริมตลิ่งแม่น้ำปิง โดยผักตบชวาเป็นวัชพืชน้ำ ประเภทใบเลี้ยงเดี่ยวลอยน้ำ ทรงพุ่ม จะขยายพันธุ์ด้วยเมล็ด ไหล ส่วนใหญ่มักจะพบว่า นำไปใช้เป็นอาหารเลี้ยงสัตว์ ทำปุ๋ยหมัก
...
ในส่วนของก้านใบอ่อน ไหล รวมถึงดอก สามารถนำมารับประทานได้ ชาวบ้านจึงได้นำขึ้นมาเพื่อคัดเอาส่วนที่กินได้ มาทำเป็นวัตถุดิบในการแกงส้ม มื้อนี้ได้ทีผักตบชวามีเยอะ วันนี้จึงแกงส้มไหลผักตบชวากันหม้อใหญ่ๆ เลยทีเดียว เมื่อได้แล้วจึงนำไปล้างน้ำให้สะอาด พร้อมกับหั่นให้เป็นชิ้นให้พอดีคำ ระหว่างนั้นโขลกพริกแกงรวมกับเนื้อปลา เพื่อให้ได้น้ำแกงที่มีความเข้มข้นมากขึ้น สามารถใช้เนื้อปลาช่อน ปลาดุก ปลาทับทิม ปลานิล แล้วแต่ชอบ ไม่เว้นแม้แต่ปลากระป๋อง
ต่อด้วยตั้งหม้อบนเตาไฟ ใส่น้ำลงไป พอน้ำเดือดนำเครื่องพริกแกงละลายลงไป ตามด้วยพระเอกของเมนูวันนี้ ก้านอ่อน ไหล และดอกผักตบชวาที่หั่นเป็นชิ้น แล้วใส่ลงไปคนให้เข้ากัน ตามด้วยปลาดุกสับเป็นชิ้นใส่ลงไปด้วย ปิดฝาหม้อทิ้งไว้รอจนเดือด ถ้าชอบเปรี้ยวจะปรุงรสด้วยน้ำมะขามเปียก เท่านี้ก็สามารถตักใส่ถ้วยกินกับข้าวสวยร้อนๆ อร่อยถูกใจ ลืมบอกไปเลยว่า ส่วนที่มีความอร่อยที่สุดคือไหลของผักตบชวา ซึ่งจะมีความกรอบ ไม่เหนี่ยว ถือว่าเป็นส่วนที่มีความอร่อยที่สุด
นางเบ็ญจมาส สมบูรณ์ทรัพย์ เปิดเผยว่า ผักตบชวาเป็นอาหารพื้นถิ่นของที่บ้าน กินกันมานานแล้ว คนรุ่นใหม่มักจะไม่ทราบว่านำมาทำเป็นอาหารได้ จะรู้เพียงแต่ว่าเป็นวัชพืชที่ก่อความรำคาญให้กับคนที่อยู่ริมน้ำ ลำคลอง ทำให้เกิดน้ำเสีย จึงใช้โอกาสตรงนี้นำมาแกงส้มไหลผักตบชวา เพื่อให้รู้ว่าส่วนที่เป็นก้านอ่อน ดอก และไหล สามารถนำมาเป็นอาหารได้ และเป็นการกำจัดผักตบชวาไปอีกทางหนึ่งด้วย สำหรับเมนูแกงส้ม ไม่ว่าจะแกงส้มใส่ผักอะไรลงไป เป็นเมนูยืนหนึ่งในอาหารไทยกินได้บ่อยๆ ครบรสทั้งความหอม เผ็ด เค็ม เปรี้ยว หวาน รสชาติจัดจ้าน
...
ปัจจุบัน ผักตบชวาพบได้ในแหล่งน้ำเมื่อมีจำนวนมากขึ้น ก่อให้เกิดปัญหาด้านระบบนิเวศ ทั้งปัญหาด้านการเกษตร ระบบชลประทาน เป็นพืชสามารถขยายพันธุ์ได้รวดเร็ว ทำให้ทุกภาคส่วนตระหนักถึงปัญหา ได้รณรงค์กำจัดผักตบชวา ด้วยการเก็บผักขึ้นมาแปรรูปเป็นวัตถุดิบ ใช้เป็นอาหารสัตว์ ทำปุ๋ย สานตะกร้า เป็นต้น สร้างจิตสำนึกรักแหล่งน้ำ แต่ชาวบ้านหมู่ที่ 3 ตำบลหนองปลิง นำมาประกอบเป็นอาหาร และกำลังคิดต่อยอดนำผักตบชวามาทำเป็นปุ๋ยอัดเม็ด โดยแกนนำ นายทศพล เพิ่งสูงเนิน ผู้ใหญ่บ้าน ส่งเสริมให้ลูกบ้านมีอาชีพ มีรายได้เสริมสู่ภาคครัวเรือนเพิ่มต่อไป.
...