ชาวบ้านรวมกลุ่มร้อง "ผู้การเชียงใหม่" หลังเข้าร่วมลงทุน "ฟาร์มกัญชา" โดยบริษัทลวงสร้างความน่าเชื่อถือปันผลให้ต่อเนื่อง ก่อนปิดบริษัทบล็อกทุกช่องทางติดต่อ โดยมีผู้เสียหาย 100 ราย จำนวนกว่า 100 ล้านบาท 

เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 29 มี.ค. 66 ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ ได้มีกลุ่มชาวบ้าน กว่า 30 คน ที่ เดือดร้อนจากการถูกหลอกลวงลงทุนทำฟาร์มกัญชา ส่งผลิตภัณฑ์ส่งออกนอกประเทศ นำโดย นายกิตติชนม์ อายุ 36 ปี เจ้าของร้านอาหาร อ.เมือง จ.เชียงใหม่ เป็นตัวแทนชาวบ้านเข้าร้องเรียนต่อ พล.ต.ต.ธวัชชัย พงษ์วิวัฒนชัย ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่

โดยกลุ่มผู้เสียหายให้การว่า เมื่อประมาณเดือน มกราคม 65 ได้มีการประกาศทางเพจ เฟซบุ๊ก และไลน์กลุ่ม ว่ามีบริษัท แห่งหนึ่งเปิดลงทุนทำฟาร์มกัญชา ระดมทุนหาผู้ทำธุรกิจร่วมกัน โดยได้ผลตอบแทนสูง โดยมีการเริ่มลงทุนตั้งแต่หลัก 1 พันไปจนถึงหลัก 1 ล้านบาท ซึ่งมีทั้งการลงทุนกัญชาแบบเป็นต้น ต้นละ 2,000 บาท / ลงทุนฟาร์มเป็นหน่วย หน่วยละ 1 แสนบาท และลงทุนตู้กัญชาตู้ละ 1.5 ล้าน ซึ่งการลงทุนเป็นหน่วยนั้น 1 หน่วย เป็นเงิน 1 แสนบาท จะได้รับเงินปันผลเดือนที่ 7-14 เป็นเงินเดือนละ 12,500 บาท เดือนที่ 15-60 ได้รับเดือนละ 4,000 บาท รวมยอดได้ 28,400 บาท เท่ากับลงทุน 1 หน่วยกำไรเกือบเท่า

...

โดยบริษัทดังกล่าว ได้ลงภาพ คลิปโฆษณาที่น่าเชื่อถือตลอดจนพานักลงทุน ไปศึกษาดูงาน การทำเอ็มโอยู กับบริษัทผลิตกัญชารายใหญ่ของเชียงใหม่ สร้างความน่าเชื่อถือ รวมถึงผลิตภัณฑ์ ที่จะส่งออกตลาดยุโรป และอเมริกา โดยชาวบ้านก็หลงกล เข้าไปศึกษาดูงานของบริษัท และตัดสินใจร่วมลงทุนกับบริษัทดังกล่าว ซึ่งเกือบทุกคนลงทุนไปแล้ว ได้รับผลตอบแทนจริง แค่ 1-2 เดือนก่อนบริษัทดังกล่าวปิดบริษัทหนี บล็อกทุกช่องทางติดต่อไม่ได้


นายกิตติชนม์ เผยว่า ลงทุนไปกว่า 1.2 ล้านบาท แรกๆ ก็ได้รับเงินปันผลคืนมากว่า 2 แสน ก่อนที่จะติดต่อบริษัทดังกล่าวนี้ไม่ได้ ซึ่งพวกตนก็รวมกลุ่มกันปรากฏว่า มีผู้เสียหายเฉพาะในจังหวัดเชียงใหม่กว่า 100 คน มูลค่าความเสียหายรวมทุกคนแล้วกว่า 100 ล้านบาท นี้ยังไม่รวมของกลุ่มผู้เสียหายจังหวัดอื่นๆ ทั่วประเทศ บางรายเข้าไปแจ้งความที่ สภ.ต่างๆ แล้วคดีก็เงียบหาย วันนี้ทุกคนจึงมารวมตัวกันเพื่อเข้าร้องเรียนขอความเป็นธรรมกรณีที่เกิดขึ้น

ด้าน พล.ต.ต.ธวัชชัย พงษ์วิวัฒนชัย ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ เปิดเผยว่า เรื่องที่เกิดขึ้นได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนขึ้นมาโดยจะเรียกสำนวนจาก สภ.ต่างๆ มารวมกัน และเริ่มสอบสวน ให้ผู้เสียหายใหม่เข้าแจ้งความเพิ่ม และเร่งดำเนินการติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีและนำเงินมาคืนให้แก่ประชาชนให้ได้มากที่สุด ในเรื่องนี้ก็ถือเป็นการหลอกลวงอีกวิธีหนึ่ง จึงอยากเตือนประชาชนของที่ลงทุนแล้วกำไรมากนั้นไม่มีอยู่จริง