ชาวบ้านที่บ้านหัวฝาย จ.ลําปาง ขุดต้นผักหวานป่าเอามาลงดินมาปลูกในบ้าน ออกใบเขียวขจี รสชาติเหมือนผักหวานป่า โดยไม่ต้องเผาป่า แค่ตัดใบออกแล้วพรมน้ำให้ชุ่มก็แทงยอดใหม่เก็บกินโดยไม่ต้องซื้อ

เมื่อวันที่ 1 มี.ค. 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีชาวบ้านในพื้นที่บ้าน หมู่ที่ 4 บ้านหัวฝาย ต.กล้วยแพะ อ.เมือง จ.ลําปาง เก็บผักหวานป่า หรือปลูกผักหวานบ้านเก็บใบและยอดเอามาแกงกิน ลดรายจ่ายในครัวเรือน เพราะปกติราคาที่ขายในตลาดผักหวานป่าอยู่ที่ กิโลกรัมละ 400 บาท ในเรื่องนี้ได้เป็นที่กล่าวขานกันจนเรียกว่าเป็น "หมู่บ้านผักหวานป่า"

จึงเดินทางไปสอบถามนายตูน อินนันชัย และนางติ๋ม หอมแก่นจันทร์ ชาวบ้านหัวฝาย กล่าวว่า ความคิดนี้มาจากที่ในหมู่บ้านนี้ชาวบ้านนิยมขุดต้นผักหวานป่า เอากลับมาปลูกกันจํานวนมาก เนื่องจากหมู่บ้านอยู่ติดกับเชิงดอยพระบาท ซึ่งมีต้นผักหวานป่าชุก ปกติต้องเข้าป่าไปเก็บมาทำอาหาร โดยผักหวานป่าที่นี่รสชาติดี

...

นายตูน กล่าวว่า การขุดต้นผักหวานป่ามาปลูกในบ้าน ไม่ใช่ว่าอยากได้แล้วไปขุดเอามาปลูกได้เลยทันที ต้องมีเทคนิคขุดด้วย เพราะไม่เช่นนั้นต้นผักหวานจะตาย คือ ปลูกไม่ติด โดยเราจะต้องขุดต้นในฤดูฝนเท่านั้น หากปลูกติดต้นผักหวานก็จะเติบโต พร้อมที่จะผลิใบอ่อนใช้เวลาประมาณ 3-4 ปีเท่านั้น ส่วนการเร่งให้ผักหวานแตกยอดอ่อนหรือเร่งให้ผลิใบ หรือยอด ก็ใช้ภูมิปัญญาชาวบ้าน คือ เด็ดหรือริดใบผักหวานที่แก่ออกทิ้งจากนั้นก็รดน้ำให้ชุ่ม ประมาณ 15 วันก็จะแตกยอดทั่วต้น แม้ไม่พอขายแต่พอกินในครัวเรือน และลดรายจ่ายในครัวเรือน

นอกจากนั้น ไม่ต้องเสียเวลาเดินทางขึ้นไปหาผักหวานบนดอย ชาวบ้านไม่ต้องไปแอบจุดไฟเผาป่าให้มีมลภาวะอากาศเป็นพิษ สร้างหมอกควันอย่างทุกวันนี้ ทุกวันนี้ก็เก็บผักหวานป่าที่กลายเป็นผักหวานบ้านมีแกงกินแทบจะทุกวัน ลดรายจ่ายได้ดี อีกทั้งรสชาติผักหวานต้นที่บ้าน ก็เหมือนผักหวานป่าไม่ผิดแต่อย่างใด ส่งผลให้ ขณะนี้ ชาวบ้านหัวฝาย ต.กล้วยแพะ เลียนแบบขุดต้นผักหวานป่ากลับมาปลูกที่บ้านจำนวนมาก.