เดิมที “หนูนา” หลายคนคงรู้ดีว่าเป็นศัตรูตัวฉกาจของเกษตรกร แต่ปัจจุบันปริมาณหนูนาตามธรรมชาติเริ่มมีจำนวนน้อยลง เกษตรกรหลายพื้นที่เริ่มหันมาเพาะเลี้ยง เพื่อนำไปขายสร้างรายได้มหาศาล

โดยเฉพาะที่ วิสาหกิจชุมชนหนูพุกใหญ่พรหมพิราม หมู่ 9 บ้านเขาปรัง ต.ดงประคำ อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก เกษตรกรได้รวมตัวกันแลกเปลี่ยนความรู้ และแปรรูเพื่อเพิ่มมูลค่าส่งขายทั่วประเทศ

นายมนตรี ชูกำลัง อายุ 41 ปี ประธานกลุ่มวิสาหกิจฯ เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ประกอบอาชีพรับเหมาตกแต่งคอนโดอยู่ที่กรุงเทพฯ กระทั่งเจอวิกฤติโควิด กลับบ้านเริ่มศึกษาการเลี้ยงหนูนา เพราะหนูนาตามธรรมชาติเริ่มหายาก

กระทั่ง ตัดสินใจทำฟาร์มหนูพุกใหญ่ เพราะมีขนาดใหญ่น้ำหนักดี เป็นที่ต้องการของตลาด การเลี้ยงไม่ยุ่งยากใช้เวลาประมาณ 3 เดือน นำไปขายได้ราคากิโลกรัมละ 250 บาท

ต่อมา มีแนวคิดเพิ่มมูลค่าคิดค้นทำ “หนูอบโอ่ง” พร้อมน้ำจิ้มรสเด็ด ภายใต้แบรนด์ Deecota ขายก่อนอบราคากิโลกรัมละ 250-300 บาท เริ่มขายในพื้นที่ จ.พิษณุโลก และส่งขายออนไลน์ทั่วประเทศ มิติใหม่ของอาหารพื้นถิ่น ผลตอบรับดีเกินคาด

ล่าสุด คิดค้นผลิตภัณฑ์ใหม่ “หนูอบแห้ง” หรือเนื้อ Jerky ได้ขึ้นทะเบียนเป็นสินค้าโอทอป มีหลายหน่วยงานมาสนับสนุน เช่น สนง.พัฒนาชุมชน จ.พิษณุโลก ศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 2 ม.เทคโนโลยีราชมงคลล้านนา

ปัจจุบันได้เลี้ยงหนูพุกใหญ่มากว่า 2 ปี พบว่ากระแสการขายดีมาก จัดตั้งกลุ่มวิสาหกิจฯ เริ่มต้นจาก 7 ครอบครัวผู้เลี้ยงหนูพุกใหญ่ อ.พรหมพิราม ปัจจุบันมีสมาชิก 20 ราย ในพื้นที่ 5 จังหวัดภาคเหนือ

สมาชิกจะส่งผลผลิตมามีการรับประกันราคารับซื้อ กิโลกรัมละ 130-200 บาท พร้อมทำตลาดส่งขาย หากมีองค์ความรู้ใหม่ๆ จะมีการนำไปสอนแลกเปลี่ยนความคิดเห็น เพื่อให้การผลิตเป็นมาตรฐานเดียวกัน

...

สำหรับ ผู้สนใจอยากซื้อสินค้า หรืออยากเป็นลูกฟาร์ม ศึกษาการเลี้ยงหนูพุกใหญ่ สามารถเดินทางมาชมได้ที่วิสาหกิจชุมชนหนูพุกใหญ่พรหมพิราม โทร. 09–9359–6131 รับรองไม่ผิดหวัง.

ยุทธ์ ไกรโชค