หนุ่มผู้รับเหมาต่อยกับพ่อค้าขายไก่ทอดหน้าร้านที่เชียงใหม่ เหตุไม่พอใจจอดรถล้ำบังหน้าร้าน คุยหลายครั้งแล้วตกลงไม่ได้ สุดท้ายซัดกันนัวต่างคนต่างเจ็บแล้วแยกย้ายกันไม่แจ้งความเอาเรื่อง พร้อมนำคลิปมาโพสต์เป็นอุทาหรณ์เตือนใจ การอยู่ร่วมกันของเพื่อนบ้าน

วันที่ 19 ต.ค. 65 กล้องวงจรปิดของร้านกาแฟห้องแถวแห่งหนึ่งในตำบลสัน ผีเสื้อ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ บันทึกภาพ ชายสวมเสื้อสีแดง ขณะที่อีกมุมหนึ่งเห็นชายคนหนึ่งหัวเกรียน สวมเสื้อสีดำกางเกงยีนส์ขายาว (พ่อค้าไก่ทอด) ชายทั้งสองคนยืนมีปากเสียงเถียงกัน ก่อนมีการท้าดวลกันหน้าร้าน ซึ่งใส่กันไม่ยั้งทั้งเตะและต่อย โดยมีหญิงสวมเสื้อสีเหลืองยืนดูและพยายามตะโกนห้ามชายทั้งสอง ก่อนที่ชายที่สวมกางเกงขาสั้นเสื้อหลักล้มลงไปโดนรถเก๋งของร้านกาแฟที่จอดอยู่อีกห้องหนึ่ง ท่ามกลางสายตาประชาชนที่ใช้รถถนนผ่านไปมาบนถนนเส้นนี้ ชายทั้งสองคนวิ่งไล่ต่อยกันไปจนถึงซอยข้างตึกแถวได้มีพลเมืองดีเข้ามาห้าม เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 15 กันยายน 2565 เวลาประมาณเที่ยงวัน

หลังเกิดเหตุมีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ APHICHAT Khanthawithi ได้นำคลิปดังกล่าวมาโพสต์ในกลุ่มโซเชียลจังหวัดเชียงใหม่ ว่ามวยมันๆ สันผีเสื้อ (Don Butterfly) มีชาวโซเชียลเข้าไปคอมเมนต์และให้ความสนใจจำนวนมาก ผู้สื่อข่าวจึงได้ลงพื้นที่ไปสอบถามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับนายอภิชาติ ขันธวิธิ หรือ แบงค์ อายุ 39 ปี (ผู้รับเหมา) ซึ่งเป็นชายสวมกางเกงขาสั้นที่อยู่ในคลิปเหตุการณ์ดังกล่าว เล่าว่าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 15 กันยายน เวลาประมาณเที่ยง ขณะนั้นตนเพิ่งกลับมาจากทำงานย่านประตูเชียงใหม่ เพื่อกลับมาทานข้าวเที่ยงกับภรรยาที่บ้าน ซึ่งเช่าเปิดเป็นร้านเสริมสวย เมื่อมาถึงก็จอดรถเดินเข้าร้านไปตามปกติตามที่คลิปที่เห็นแต่เพื่อนข้างห้องได้เรียกตนออกมาคุย กระทั่งมีปากเสียงกัน

...

"เป็นเรื่องการจอดรถกินพื้นที่ห้องเช่า ซึ่งเป็นปัญหามานานแล้วเนื่องจากห้องแถวที่เช่าติดกันนั้นมีรถสองคันเวลาจอดจะเลยมากินพื้นที่หน้าร้านผมประจำ ซึ่งก็เคยไปบอกกล่าวตักเตือนหลายครั้งแล้วซึ่งเพื่อนบ้านก็รับปากแต่ยังจอดเหมือนเดิมล้ำกินเลนมาที่บ้านและบังหน้าร้านเสริมสวย ซึ่งตัวเองไม่ต้องการมีปัญหา ครั้งแรกได้นำม้าหินอ่อนมาวางแบบไม่มีที่พิงหลัง เพื่อนบ้านก็ยังจอดกินเลนอีกจึงไม่ต้องการพูดอีกแล้วเพราะไม่ต้องการทะเลาะ ตัดสินใจกลับบ้านและไปยกม้าหินอ่อนแบบที่มีพนักพิงด้านหลังมาวางไว้ทำให้เวลารถยนต์กระบะมาจอดแล้วจะเปิดประตูลงไม่ได้ คิดว่าจุดนี้แหละ ทำให้เพื่อนข้างห้องฉุนหนักและดักรอ จนมีเรื่องชกต่อยกัน จนต่างฝ่ายต่างได้รับบาดเจ็บโดนต่อยใบหน้าฟกช้ำ รวมถึงที่แข้ง ขา และเท้าด้วย"

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะเกิดเหตุมีการโทรแจ้งตำรวจ สภ.แม่ปิง ซึ่งมีตำรวจสายตรวจมาระงับเหตุและสอบสวนทั้งสองฝ่าย ซึ่งต่างฝ่ายต่างต่อยกันจะนำตัวไปเปรียบเทียบปรับข้อหาร่วมกันก่อเหตุทะเลาะวิวาทแต่คู่กรณีขอไม่ไป ขอเลิกแล้วต่อกัน ก่อนที่ต่อมาภายหลังทางเจ้าของหอพักจะให้นายอภิชาติและภรรยาย้ายออก เพราะเกรงว่าจะมีเรื่องกันอีก ส่วนความเสียหายรถเก๋งของเพื่อนบ้านร้านกาแฟที่เป็นรอยบุบนั้นค่าซ่อม 3 พันบาท คู่กรณีต้องชดใช้คนละครึ่ง และต่อมานายอภิชาติ ได้นำคลิปมาโพสต์ เพื่อเป็นอุทาหรณ์ถึงการอยู่ร่วมกัน ที่ต้องมีน้ำใจต่อกัน