การสู้รบชายแดนไทย-เมียนมา ที่ อ.พบพระ สงบลงชั่วคราวทั้ง 2 ฝ่ายสูญเสียหนัก กะเหรี่ยงเคเอ็นยูถอนกำลัง ขณะที่ทหารเมียนมาเข้ายึดฐานบ้านอูเกรทะคืนสำเร็จ ผวจ.ตาก รุดเยี่ยมชาวบ้านคนไทยและผู้อพยพ
เมื่อเวลา 12.00 น.วันที่ 3 ก.ค.65 สถานการณ์ความตึงเครียดที่แนวชายแดนไทย-เมียนมา ซึ่งเป็นการสู้รบระหว่างทหารทหารเคเอ็นยู กองพัน 27 หน่วยจู่โจมที่ 201 และ 103 กองพลน้อยที่ 6 สู้รบกับทหารเมียนมา ฐานบ้านอูเกรทะ อำเภอซูการี จังหวัดเมียวดี ประเทศเมียนมา ฝั่งตรงข้ามกับห้วยแม่หม้าย หมู่ที่ 2 บ้านวาเล่ย์ใต้ อำเภอพบพระ จังหวัดตาก เพื่อแย่งชิงพื้นที่ยุทธศาสตร์ที่สำคัญในพื้นที่รัฐกะเหรี่ยง ประเทศเมียนมา
หลังจากทั้ง 2 ฝ่ายมีการยิงปะทะด้วยอาวุธหนักนาน 7 วัน 7 คืน ล่าสุดเสียงปืนและเสียงระเบิดได้สงบลงชั่วคราว หลังทหารกะเหรี่ยงเคเอ็นยูได้ถอนกำลังออกจากพื้นที่รอบฐานอูเกรทะ และทหารเมียนมาหน่วยเสริมได้เข้าไปยึดฐานอูเกรทะ คืนจากทหารกะเหรี่ยงเคเอ็นยูได้สำเร็จ โดยมีรายงานเบื้องต้นว่าทหารกะเหรี่ยงเคเอ็นยูเสียชีวิตไป 17 นาย บาดเจ็บ 48 นาย ส่วนทหารเมียนมาเสียชีวิตไม่ต่ำกว่า 70 นาย และได้รับบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก จากศึกชิงฐานอูเกรทะ แต่หลายฝ่ายยังคงต้องเฝ้าติดตามสถานการณ์ต่อไปอีกตลอดสัปดาห์นี้
...
ขณะเดียวกัน แม้ว่าเสียงปืนจากการยิงปะทะจะสงบลง และทำให้สถานการณ์เริ่มคลี่คลายลง หลังตึงเครียดมาตลอดนับสัปดาห์นั้น ชาวกะเหรี่ยงในเมียนมาซึ่งอพยพหนีภัยสงครามเข้ามาอยู่ในพื้นที่ปลอดภัยชั่วคราวสามแห่ง คือที่ 1. บ้านมอเกอร์ไทย 2. บ้านวาเล่ย์เหนือ 3. บ้านหมื่นฤาชัย ซึ่งพื้นที่ทั้งสามแห่งนั้นอยู่ในอำเภอพบพระ จังหวัดตาก ซึ่งจัดเป็นศูนย์รองรับผู้หนีภัยจากการสู้รบชั่วคราว
ขณะนี้มียอดผู้หนีภัยรวมทั้งสามแห่งจำนวน 595 คน จากเดิมที่มีมากกว่าหนึ่งพันคน ซึ่งผู้หนีภัยซึ่งเป็นผู้ชายได้สมัครใจทยอยกันเดินทางกลับบ้านในฝั่งเมียนมา เพื่อเข้าไปตรวจสอบทรัพย์สินของตนเองในหมู่บ้าน ซึ่งบ้านเรือนส่วนใหญ่เสียหายอย่างหนักจากการทิ้งระเบิดจากเครื่องบินรบเมียนมา ส่วนผู้อพยพหนีภัยสงครามส่วนที่เหลือซึ่งเป็นเด็กและผู้หญิง ยังคงพักอาศัยอยู่ในพื้นที่ปลอดภัยชั่วคราวที่ทางฝ่ายความมั่นคงอำเภอพบพระจัดไว้นั้น ผู้หนีภัยทั้งเด็กและผู้หญิงยังคงรอดูสถานการณ์ต่อสักระยะ เพื่อความปลอดภัย
ช่วงเที่ยงที่ผ่านมา นายสมชัย กิจเจริญรุ่งโรจน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก ได้เดินทางพร้อมกับ นางวรรณฤดี กิจเจริญรุ่งโรจน์ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดตาก ได้เดินทางไปมอบสิ่งของเพื่อช่วยเหลือผู้หนีภัยจากการสู้รบทั้งสามแห่งในพื้นที่ชายแดนอำเภอพบพระ จังหวัดตาก โดยผู้ว่าราชการจังหวัดตากได้สั่งการเน้นให้เจ้าหน้าที่ดูแลผู้อพยพทุกคนอย่างดีที่สุด โดยเฉพาะเด็กเล็ก มีการสั่งนมมามอบให้เด็กเล็กได้รับประทานเป็นพิเศษ จนสร้างรอยยิ้มให้ผู้อพยพทุกคนเป็นอย่างมากที่ผู้ว่าราชการจังหวัดตากเข้ามาดูแลเป็นอย่างดี
...
นายสมชัย กล่าวว่า ขณะนี้พื้นที่ปลอดภัยทั้งสามแห่งในพื้นที่ชายแดนอำเภอพบพระ จังหวัดตาก ได้ช่วยเหลือผู้หนีภัยการสู้รบจากประเทศเมียนมา โดยมีการระดมสิ่งของเป็นน้ำดื่ม นมเด็ก และวัตถุดิบอาหารสด มาประกอบอาหารจัดเลี้ยงแก่ผู้หนี้ภัยทั้งสามแห่งเป็นอย่างดีตามหลักมนุษยธรรม และมีการติดตั้งห้องน้ำสุขาเคลื่อนที่ประจำพื้นที่ทั้งสามแห่ง ส่วนบ้านเรือนประชาชนในหมู่บ้านหมื่นฤาชัย ซึ่งได้รับผลกระทบจากสะเก็ดระเบิดลอยข้ามชายแดนมาตกในบ้านจำนวน 3 หลัง ขณะนี้ ฝ่ายความมั่นคงอำเภอพบพระได้เข้าไปช่วยเหลือ ซ่อมแซมบ้าน พร้อมมอบถุงยังชีพ เป็นกำลังใจให้ชาวบ้านทั้งสามหลัง
...
ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก กล่าวด้วยว่า ในส่วนของการส่งกลับผู้หนีภัยจากการสู้รบทั้งสามแห่งนั้น จะขึ้นอยู่กับความสมัครใจในการเดินทางกลับ และคาดว่าภายในสองวันนี้หากสถานการณ์เข้าสู่ภาวะปกติ ผู้หนีภัยชาวเมียนมาทุกคนจะเดินทางกลับมาตุภูมิตามความสมัครใจ ซึ่งขณะนี้ทั้งฝ่ายปกครองจังหวัดตากและฝ่ายที่เกี่ยวข้อง มีขั้นตอนการปฏิบัติในการอำนวยความสะดวกในการส่งกลับแล้ว.