ฝ่ายค้านอัดแหลกปล่อยเครื่องบินรบ เมียนมารุกแดน จี้กลาโหม-ทอ.ต้อง มีคำตอบ “เต้” ขย่มซ้ำเสนอประธาน กมธ.ทหาร เรียกนายกฯ ผบ.ทอ.ชี้แจง ตีกันเป็นแผนซื้อเอฟ-35 หรือไม่ นายกฯตู่เผยเมียนมาขอโทษแล้ว ย้ำไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไร “บิ๊กป้อง” เปิดใจรู้สึกเดือดเหมือนกัน ประสานกองทัพเมียนมา อย่าล่วงล้ำอีก ยืนยันระบบป้องกันดี ลั่นอย่าขัดขาจัดซื้อเอฟ-35 ส่วนโฆษก ทอ.แจงบินรบเมียนมาไม่มีแนวโน้มเป็นภัยคุกคาม อ้างการดำเนินการต้องระวังความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ขณะที่สถานการณ์ชายแดนยังดุเดือด ทหารเมียนมายิงปืน ค.ถล่ม และเครื่องบินรบยิงปืนกลและจรวดถล่มอย่างหนัก ชาวบ้าน 2 หมู่บ้านวิ่งลงหลุมหลบภัยชุลมุน สั่งปิดโรงเรียน 4 แห่ง
ยังเป็นปัญหาที่อยู่ในกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักกรณีที่ทหารเมียนมาส่งเครื่องบินมิก-29 บินถล่มทหารกะเหรี่ยงเคเอ็นยู และฝ่ายพันธมิตรสามฝ่าย ทหารเคเอ็นแอลเอ ทหารกะเหรี่ยงเคเอ็นดีโอ และกลุ่มพีดีเอฟ ด้วยปืนกลอากาศและจรวดอย่างหนัก บริเวณบ้านอูเกรทะ อ.วาเล่ย์ใหม่ จ.เมียวดี ด้านตรงข้ามบ้านวาเล่ย์ใต้ ต.วาเล่ย์ อ.พบพระ จ.ตาก แล้วเครื่องบินมิก-29 บินล้ำแดนเข้ามาถึง อ.พบพระ สร้างความแตกตื่นกับชาวบ้าน รวมทั้งครูและนักเรียนโรงเรียนบ้านวาเล่ย์ต้องวิ่งหนีลงหลุมหลบภัยชุลมุน นอกจากนี้ยังมีกระสุนปืนกลอากาศและสะเก็ดระเบิดตกฝั่งไทย มีรถกระบะได้รับความเสียหาย ขณะที่ชาวกะเหรี่ยงหลบหนีภัยการสู้รบเข้าประเทศไทยร่วม 1 พันคนแล้ว
...
ศูนย์สั่งการชายแดนแจงสถานการณ์
ความคืบหน้าวันที่ 1 ก.ค. ศูนย์สั่งการชายแดนไทย-เมียนมา จ.ตาก ออกเอกสารชี้แจงสถานการณ์ชายแดนพื้นที่ จ.ตากว่า วันที่ 30 มิ.ย. เกิดการปะทะกันระหว่างทหารเมียนมากับกองกำลังชนกลุ่มน้อยเชื้อสายกะเหรี่ยง บริเวณบ้านอูเกรทะ อ.วาเล่ย์ใหม่ จ.เมียวดี ลึกเข้าไปในฝั่งเมียนมา ประมาณ 1 กม. โดยทหารเมียนมาได้ใช้อากาศยานสนับสนุนการปฏิบัติการทางทหารในพื้นที่ ปัจจุบันการปะทะได้ยุติลงแล้วเมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 30 มิ.ย.ทั้งนี้การปะทะของทั้งสองฝ่าย มีกระสุนไม่ทราบชนิด และไม่ทราบฝ่ายข้ามมาตกยังฝั่งไทย บริเวณไร่ปาล์มบ้าน วาเล่ย์เหนือ หมู่ 3 ต.วาเล่ย์ อ.พบพระ ส่งผลให้ยานพาหนะของประชาชนได้รับความเสียหาย
ลั่นพร้อมตอบโต้หากรุกอธิปไตย
เอกสารชี้แจงดังกล่าวระบุอีกว่า เมื่อเวลา11.59น. วันที่ 30 มิ.ย. กองทัพอากาศไทยตรวจพบอากาศยานไม่ทราบฝ่ายบินล้ำแดนเข้ามายังฝั่งไทย บริเวณ
อ.พบพระ จ.ตาก มีคำสั่งให้เครื่องบินขับไล่แบบที่ 19 หรือ เอฟ-16 จำนวน 2 ลำ ขึ้นบินลาดตระเวนรบในบริเวณดังกล่าว เพื่อปฏิบัติภารกิจป้องกันภัยทางอากาศ ทั้งนี้จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น กองกำลังนเรศวรได้แจ้งเตือน และทำหนังสือประท้วงไปยังคณะกรรมการชายแดนส่วนท้องถิ่น ไทย-เมียนมา (TBC) และกองทัพอากาศได้สั่งการให้ผู้ช่วยทูตฝ่ายทหารอากาศ ประจำสถานเอกอัครราชทูต ณ ย่างกุ้ง ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในเมียนมา แจ้งเตือน และหาทางป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นอีกในอนาคต กองกำลังนเรศวร และกองทัพอากาศ พร้อมตอบโต้หากมีการรุกล้ำอธิปไตย หรือมีสถานการณ์ที่ส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยของประชาชนไทย
ผู้หนีภัยสู้รบทะลักเกือบพัน
รายงานแจ้งว่า ปัจจุบันมีผู้หนีภัยความไม่สงบชาวเมียนมา ได้เดินทางเข้ามายังฝั่งไทย 855 คน ในพื้นที่ปลอดภัยชั่วคราว ต.วาเล่ย์ อ.พบพระ 2แห่ง คือ 1.บ้านมอเกอร์ไทย ผู้หนีภัยยอดเดิม 281 คนเดินทางเข้ามาฝั่งไทย 26 คน และสมัครใจเดินทางกลับเมียนมา 2 คน ยอดคงเหลือ 305 คน 2.บ้านวาเล่ย์เหนือเดินทางเข้ามาฝั่งไทย 550 คน ศูนย์สั่งการชายแดนจ.ตาก ได้ติดตามสถานการณ์ในฝั่งเมียนมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อเตรียมพร้อมรองรับสถานการณ์ที่อาจส่งผลกระทบต่อประชาชนไทย ในการนี้ขอความร่วมมือประชาชน งดการเดินทางเข้าไปยังพื้นที่ดังกล่าวเพื่อความปลอดภัย รวมถึงขอความร่วมมือสื่อมวลชน และทุกภาคส่วน ตรวจสอบข่าวสาร ข้อเท็จจริงก่อนที่จะนำไปเผยแพร่ ประชาชนสามารถรับฟังข้อมูลข่าวสารข้อเท็จจริงได้จากการแถลงข่าวประจำวัน ของศูนย์สั่งการชายแดน จ.ตาก
โฆษก ทอ.อ้างบินเมียนมาไม่ “คุกคาม”
พล.อ.ต.ประภาส สอนใจดี โฆษกกองทัพอากาศ กล่าวถึงเสียงวิพากษ์วิจารณ์ ทอ. ส่งเอฟ-16 ขึ้นสกัดมิก-29 พม่าล่าช้าว่า ยืนยัน ทอ.ปฏิบัติตามขั้นตอนวิธีการที่มีอยู่ เมื่อได้รับแจ้งเตือนจากระบบเรดาร์ภาคพื้นนักบินพร้อมวิ่งขึ้นภายใน 5 นาที ระยะทาง 100 กว่าไมล์ ประมาณ 10 กว่านาทีถึงเป้าหมาย แต่การไปด้วยเครื่องรบทางอากาศ นักบินต้องระมัดระวัง แต่เครื่องที่เข้ามาเข้ามาแป๊บ เดียวแล้วออกไปในลักษณะการใช้อาวุธ และโอเวอร์ชู้ต เข้ามาในพื้นที่ภูมิประเทศที่เป็นเขาและมีต้นไม้ ดูไม่รู้หรอกว่าตรงไหนเป็นชายแดน ตนก็เห็นใจนักบินที่อยู่ข้างบน เขาบินอยู่แนวชายแดนในพื้นที่ของเขาไม่ได้มีกระทบไม่ได้มีแนวโน้มเป็นภัยคุกคามกับเรา ต้องเข้าใจว่าไทยกับเพื่อนบ้านความสัมพันธ์ดีมากเราพูดคุยกันทุกระดับอยู่แล้ว เจตนาจริงๆ เขาไม่ได้ต้องการมารุกล้ำบ้านเรา
แจงต้องระวังความสัมพันธ์
โฆษก ทอ.กล่าวว่า ส่วนที่วิพากษ์วิจารณ์ว่าทำไมช้า ขอย้ำว่าถ้าเครื่องบินนั้นมีทิศทางความเร็วสูง เป็นเครื่องบินแบบไฟเตอร์ ไม่มีแผนการบิน รับรองได้ว่าเราสกัดกั้นที่ชายแดนทันที แต่ตรงนี้ไม่ใช่คนละสถานการณ์กัน ต้องแยกแยะไม่ใช่วิเคราะห์รวมกันไปหมด ขอให้ดูข้อเท็จจริงด้วย ยืนยันว่า ผบ.ทอ.ไม่ได้นิ่งนอนใจ การดำเนินการต้องเป็นไปตามความสัมพันธ์ระหว่างประเทศและแจ้งเตือนไปยังผู้นำของกองทัพอากาศพม่า ผ่านผู้ช่วยทูตทหารอากาศว่าต้องไม่มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีก ขอให้ประชาชนมั่นใจ เราพร้อมปกป้องประเทศชาติเต็มที่
ฝ่ายค้านหวดปล่อยรุกล้ำน่านฟ้า
ที่รัฐสภา มีการประชุมร่วมรัฐสภา ที่มีนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธาน ส.ว. ในฐานะรองประธานรัฐสภา ทำหน้าที่ประธานการประชุม เพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ (ฉบับที่...) พ.ศ. ...เป็นครั้งที่ 6 นายณัฐพล สืบศักดิ์วงศ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ขอหารือก่อนเข้าสู่ระเบียบวาระ กรณีมีเครื่องบินรบประเทศเพื่อนบ้านบินรุกล้ำน่านฟ้าไทยบริเวณ อ.พบพระ จ.ตาก ว่า อยากถามว่าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นได้อย่างไร รัฐบาลไทยมีมาตรการรองรับปัญหาอย่างไร ขณะที่นายนิยม เวชกามา ส.ส.สกลนคร พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเล็กกระทรวงกลาโหมในฐานะกำกับดูแลต้องไม่ปล่อยให้กองทัพอากาศออกมาแก้ตัวว่าเขาบินมาไม่นาน เพราะชาวบ้านในพื้นที่บอกว่าทหารเพื่อนบ้านใช้เวลานาน ขณะที่เจ้าหน้าที่เราได้แต่ยืนดู ดังนั้น การประสานงานต้องดีกว่านี้ เขาเข้ามาในน่านฟ้าไทย กระทรวงกลาโหมต้องมีคำตอบให้ประชาชน เพื่อความปลอดภัยของบ้านเมือง
...
ด้านนายพรเพชรกล่าวว่า ตนรับทราบเรื่องนี้จากสื่อเท่านั้น แต่จะมอบหมายให้สำนักงานเลขาธิการทั้ง 2 สภา หาข้อมูลเรื่องนี้ เพื่อแจ้งให้ประธานรัฐสภาทราบต่อไป ตนเห็นด้วยว่าเป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วง ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องดูแล
นายกฯเผยเมียนมาขอโทษแล้ว
เมื่อเวลา 09.50 น. ที่หอประชุมคุรุสภา กระทรวงศึกษาธิการ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม กล่าวถึงกรณีกองทัพอากาศตรวจพบอากาศยานไม่ทราบฝ่าย โจมตีกองกำลังชนกลุ่มน้อยบริเวณแนวชายแดนและบินล้ำแดนเข้ามายังพื้นที่ประเทศไทยว่า ได้ประสานไปยังเมียนมาแล้ว เขายอมรับแล้วว่ารุกล้ำพร้อมขอโทษมาแล้ว ระบุว่าไม่ได้ตั้งใจจะมีปัญหา แต่เขาต้องตีวงเลี้ยวจึงล้ำเข้ามาในเขตประเทศไทยเล็กน้อย ขณะที่เครื่องบินของเราได้ทำการขึ้นบินเพื่อผลักดัน ทุกอย่างเป็นไปตามมาตรฐาน วันนี้ทูตทหารเองก็ได้พูดคุยกันแล้ว เขาก็ขอโทษมา และตนก็คุยแล้ว เป็นเรื่องที่มองดูอาจเป็นเรื่องใหญ่ แต่ขึ้นอยู่กับว่าเราจะทำให้เรื่องใหญ่ขึ้นกว่าเดิมอีกหรือไม่ วันนี้เราก็มีความสัมพันธ์ที่ดีกันอยู่แล้ว ฉะนั้นมีอะไรก็พูดคุยหารือกัน สิ่งสำคัญที่สุดคือเรามีสมรรถนะพอเพียงที่จะป้องกันอธิปไตยของเราไว้ได้ แต่วันหน้าก็ต้องดูว่าเรามีความเข้มแข็งทันสมัยเพียงพอหรือไม่ในอนาคต ฝากเอาไว้ด้วยแล้วกัน และย้ำว่าไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไร
...
เลขาฯ สมช.จับตาเหตุปะทะ
ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.สุพจน์ มาลานิยม เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) กล่าวว่า หน่วยงานผู้รับผิดชอบในเรื่องนี้ได้ดำเนินการตามบทบาทหน้าที่และขั้นตอน กองทัพและกระทรวงกลาโหมเฝ้าติดตามสถานการณ์และความเคลื่อนไหวอย่างใกล้ชิดตลอดเวลา กองทัพอากาศได้ชี้แจงรายละเอียดชัดเจนแล้ว แต่สิ่งที่เราต้องกำชับเพิ่มเติมคือมาตรการให้ทุกหน่วยเฝ้าระวังมากขึ้น เหตุการณ์ความขัดแย้งดังกล่าวไม่ได้เกิดขึ้นระหว่างไทยกับพม่า เป็นเรื่องภายในประเทศเขา เราจึงต้องประท้วงไปตามขั้นตอนของหน่วยงานทุกระดับชั้น เมื่อถามว่า เหตุการณ์นี้ทำให้มีผู้หนีภัยสงครามทะลักเข้ามาในไทยอีก มีแผนการรับมืออย่างไร พล.อ.สุพจน์กล่าวว่า มีการเตรียมรับมืออยู่แล้ว เพราะเรื่องนี้ไม่ได้เกิดขึ้นครั้งเดียวในสัปดาห์นี้ แต่เกิดขึ้นมาแล้ว 4-5 ครั้งในรอบปี เราได้ดำเนินการไปตามมาตรการ และทุกหน่วยได้ปรับการปฏิบัติให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ส่วนการประสานกับพม่าไม่ให้รุกล้ำเข้ามาอีกนั้น มีการประสานทุกระดับ เข้าใจว่ากระทรวงการต่างประเทศดำเนินการเรื่องนี้ด้วย รวมถึงหน่วยงานระดับพื้นที่ กองทัพภาค ระหว่างกองทัพอากาศด้วยกัน และระหว่างทูตกับทูต ทั้งทูตทหารและทูตปกติ มีการพูดคุยกันชัดเจน
...
“เต้” บี้นายกฯ–ผบ.ทอ.แจง กมธ.
ที่รัฐสภา นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ โฆษกคณะกรรมาธิการการทหาร สภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า เครื่องบินมิก-29 ของกองทัพพม่าบินรุกล้ำเข้ามาในเขตประเทศไทยถึง 5 กม. ถือว่าไม่ใช่เรื่องเล่นๆ ทำให้ประชาชนในพื้นที่ตื่นกลัว การบินในระดับต่ำถือว่ามีความผิดในด้านความมั่นคง ขอเสนอให้ พล.อ.สมชาย วิษณุวงศ์ ส.ส.กาญจนบุรี พรรคพลังประชารัฐ ประธาน กมธ.ทหารฯ เรียก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม รวมถึง พล.อ.อ.นภาเดช ธูปะเตมีย์ ผบ.ทอ. มาชี้แจงต่อ กมธ.ทหารฯภายในสัปดาห์หน้า แม้ความสัมพันธ์ด้านทหารจะมีความสำคัญ แต่เรื่องอธิปไตยของประเทศสำคัญยิ่งกว่า ถ้าเราไม่เตือนเขาเขาจะทำอีก ถือเป็นภัยความมั่นคง ทราบมาว่า เมื่อวันที่ 29 มิ.ย. มีผู้ใหญ่ของไทยไปคุยกับผู้นำเมียนมา มีการตกลงเจรจาอะไรกันหรือไม่ หรือต้องการเปิดทางให้กองทัพเมียนมาเข้ามาปล่อยจรวดมิสไซล์ใส่กองกำลังชนกลุ่มน้อย รวมถึงขณะนี้กองทัพอากาศกำลังจัดซื้อเครื่องบินขับไล่เอฟ-35
ก้าวไกลซัด ทอ.ปล่อยรุกอธิปไตย
ต่อมาเวลา 11.20 น. นายมานพ คีรีภูวดล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล แถลงกรณีที่มีเครื่องบินรบมิก-29 ของกองทัพอากาศเมียนมาบินรุกล้ำน่านฟ้าไทยเมื่อวันที่ 30 มิ.ย.ว่า ทางเครือข่ายในพื้นที่ให้ข้อมูลกับตนว่า เครื่องบินดังกล่าวไม่ได้บินเข้ามารอบเดียว แต่บินเข้ามาถึง 3 ครั้ง ภายในเวลา 20 นาที ก่อนทำการโจมตีในเวลา 17.00 น. ด้วยการใช้อาวุธจากอากาศยาน ทำให้ประชาชนในพื้นที่ได้รับความเสียหายทั้งรถยนต์ และพื้นที่การเกษตร แต่ทางกองทัพอากาศกลับปล่อยให้เกิดเหตุการณ์รุกล้ำถึง 3 ครั้ง การโจมตีของกองทัพอากาศเมียนมาในรอบนี้ ทางเครือข่ายในพื้นที่บอกว่ากองทัพเมียนมาไม่สามารถบินในน่านฟ้าของเมียนมาได้ เพราะเป็นพื้นที่ภูเขา และมีต้นไม้ จึงต้องอ้อมเข้ามาบินในไทย ถามว่ารู้เห็นเป็นใจจากกองทัพไทยหรือไม่ที่เปิดให้บินรุกล้ำโจมตีชนกลุ่มน้อย
กังขา มทภ.3 เพิ่งตั้งโต๊ะถก
นายมานพกล่าวว่า อีกทั้งเมื่อวันที่ 29 มิ.ย.ทราบว่าทางแม่ทัพภาคที่ 3 (มทภ.3) ได้ไปพูดคุยเรื่องการบริหารจัดการชายแดนไทย-เมียนมากับ พล.อ.อาวุโส มิน อ่อง หล่าย ผู้บัญชาการทหารสูงสุด และผู้นำรัฐประหารเมียนมา ที่กรุงเนปิดอร์ ทำให้เกิดความสงสัยว่าเหตุการณ์ครั้งนี้มีการรู้เห็น เป็นใจกันหรือไม่ อีกทั้งมีการรุกล้ำน่านฟ้าถึง 3 ครั้ง ทำไมจึงไม่มีการตอบโต้ทันที เพราะเป็นเรื่องภัยความมั่นคงจริง หรือจะใช้เป็นเงื่อนไขในการรอเครื่องบินเอฟ-35 ขอให้กองทัพและฝ่ายบริหารตัดสินใจด้วยความรอบคอบในการปกป้องอธิปไตย
“บิ๊กป้อง” เผยรู้สึกเดือดเหมือนกัน
ต่อมาเวลา 13.00 น. พล.อ.อ.นภาเดช ธูปเตมีย์ ผบ.ทอ. กล่าวถึงเสียงวิจารณ์ว่าส่งเครื่องบินขึ้นตอบโต้ล่าช้า และมีเครื่องบินไว้เฉพาะแค่วันเด็กว่า ที่แสดงความเห็นมีส่วนถูกต้อง ระบบป้องกันทางอากาศของเราดีมาก ไม่ได้อ่อนด้อยอย่างที่หลายคนสงสัย เรามีเครื่องบินที่ดี นักบินดี ผู้บังคับบัญชาระดับสูงของ ทอ.ก็มีการตัดสินใจที่ดี บางครั้งไม่ได้วัดกันที่ความรวดเร็ว แต่วัดกันที่ความสุขุมรอบคอบ คำนึงถึงสถานการณ์เล็ก-ใหญ่ ที่สำคัญคือการตัดสินใจที่พอเหมาะพอควรกับสถานการณ์ “ผมก็เดือดเหมือนกัน บางทีอาจจะเดือดกว่าพี่น้องประชาชนอีกด้วย สิ่งที่เราดำเนินการไปแล้ว เราได้ประสานติดต่อกับผู้บังคับบัญชาระดับสูงของกองทัพอากาศเมียนมา เพื่อขอให้กำกับดูแล ให้การปฏิบัติการอะไรก็แล้วแต่ในเขตแดนของท่าน ขอให้อยู่ในขอบเขต อย่าได้ล่วงล้ำเข้ามา และรับทราบถึงคำขอโทษ”
ถามเพื่อนเดินตัดสนามยิงเลยหรือ
ผบ.ทอ. กล่าวต่อว่า ทางผู้บังคับบัญชาระดับสูงของกองทัพอากาศเมียนมาให้เหตุผลว่า สภาพอากาศไม่ดี และเป็นการเกิดขึ้นครั้งแรก ประกอบกับภูมิประเทศหากมองจากคนที่อยู่บนฟ้าอาจจะมองไม่เห็นว่าได้ผ่านล้ำ หรือตัดผ่านเข้ามาในบ้านของคนอื่น เขตแดนไทย-เมียนมาไม่ใช่สั้นๆ เรามีระบบเรดาร์ตรวจจับและมีสายข่าวที่ดี สามารถรู้ได้ว่าเขาจะปฏิบัติการเมื่อใด ในพื้นที่ไหน หากรู้ล่วงหน้าจะส่งเครื่องบินขึ้นไป ปฏิบัติการ Combat air patrol เพื่อแสดงท่าทีว่า พื้นที่นี้เป็นพื้นที่ของเรา หรือหากตรวจพบก็จะส่งเครื่องบินขึ้นไปลาดตระเวนรบ รักษาเขต และ air interception ผู้สื่อข่าวถามว่าหากมีอีกครั้งจะดำเนินการอย่างไร พล.อ.อ.นภาเดชกล่าวว่า การป้องกันภัยทางอากาศมี 3 ลำดับ 1.พิสูจน์ฝ่าย 2.สกัดกั้น และ 3.ทำลาย แต่เมียนมาคือเพื่อน ถ้าเพื่อนพลั้งเผลอเดินตัดสนามหน้าบ้านแล้วเราจะไปยิงเขาตายเลยหรือ นั่นก็เกินไป เพราะฉะนั้นการปฏิบัติการที่เหมาะสม ขอให้อยู่บนพื้นฐานเพื่อนปฏิบัติต่อเพื่อน ตนเชื่อว่าขณะนี้เขาตระหนักในความผิดพลาดที่เกิดขึ้นแน่นอน
ลั่นอย่าขัดขาจนพลาดต่อสู้ยกแรก
พล.อ.อ.นภาเดชกล่าวอีกว่า ส่วนเสียงวิจารณ์เรื่องการจัดหาเครื่องบินขับไล่เอฟ-35 นั้น ไม่อยากให้เอามาโยงกับเรื่องนี้ ภัยคุกคามกองทัพอากาศคือความล้าสมัย ในอีก 10 ปีข้างหน้าจะเกิดอะไรขึ้นหากไม่มีการเปลี่ยนแปลง จะส่งผลให้ในอนาคตกองทัพอากาศเป็นอย่างที่ทุกคนค่อนแคะว่าไม่มีประสิทธิภาพ ขอย้ำว่าโครงการจัดซื้อเครื่องบินขับไล่เอฟ-35 เป็นโครงการที่จะนำให้เกิดความทันสมัยในกองทัพอากาศ ไม่อยากให้คนไทยขัดขากันเอง ช่วยกันสนับสนุน แม้จะพลาดไม่ได้มาก็ขอให้เป็นขั้นตอนที่เขาไม่ขายให้เรา ไม่ใช่มาขัดขาจนพลาดการต่อสู้ในยกแรกแทนที่จะเป็นยกสุดท้าย อยากให้คนไทยสมัครสมานสามัคคีกันทุกเรื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องดีๆในบ้านเมือง
สาธยายคุณสมบัติเด่น “เอฟ–35”
ผบ.ทอ. กล่าวต่อว่า สำหรับคุณสมบัติเด่นของเครื่องบินยุค 5 อย่างเอฟ-35 กับเครื่องบินยุค 4 ที่เรามีใช้อยู่ มีคุณสมบัติที่ต่างกันสำคัญ 5 ประการ คือ 1.ระบบล่องหน (Stealth) เปรียบเสมือนมีผ้าคลุมวิเศษ เรดาร์มองไม่เห็น 2.การบินด้วยท่วงท่าพิสดาร หรือขีดความสามารถทางการบินที่หลากหลาย 3.มีเซ็นเซอร์รอบตัว 4.การบินด้วยความเร็วเสียง เครื่องบินยุคที่ 4 ก็ทำได้แต่ทำได้แค่ช่วงเวลาสั้นๆ แต่เครื่องบินยุคที่ 5 อยู่ในภาวะนี้ได้นานมาก ความเร็วเป็นปัจจัยของเครื่องบินรบ และ 5.การเชื่อมโยงข้อมูลในอนาคต เป็นเสมือนยานอวกาศที่เป็นยานแม่ และมียานลูกที่ไม่มีคนขับ ทั้ง 5 คุณสมบัตินี้ ทอ.ไทยไม่มี
ถล่มกะเหรี่ยงอีกแต่ไม่ล้ำแดน
ขณะที่สถานการณ์การสู้รบระหว่างทหารเคเอ็นยูกับทหารเมียนมา ฐานบ้านอูเกรทะ อำเภอวาเล่ย์ใหม่ จังหวัดเมียวดี ประเทศเมียนมา ดำเนินอย่างต่อเนื่องเป็นวันที่ 6 ทหารเมียนมายังใช้ปืน ค.120 มม. ระดมใส่พื้นที่รอบฐานอูเกรทะ และใช้เครื่องบินรบสองลำบินเลียบแนวชายแดนอำเภอพบพระ ในระดับต่ำพร้อมยิงจรวดและปืนกลถล่มรอบฐานอูเกรทะ เสียงระเบิดดังสนั่นไปทั่วแนวชายแดน หลังเครื่องบินเมียนมาบินเลียบแนวชายแดนอำเภอพบพระเป็นวันที่สอง เครื่องบินรบเอฟ-16 ของกองทัพอากาศไทยจำนวน 2 ลำได้บินมาเหนือน่านฟ้าอำเภอพบพระ เสียงเครื่องบินรบดังกระหึ่มทั่วท้องฟ้าสองประเทศแต่ไม่มีการบินรุกล้ำน่านฟ้าระหว่างประเทศแต่อย่างใด
สั่งปิด 4 โรงเรียนชายแดน
ขณะเดียวกันที่วาเล่ย์เหนือและวาเล่ย์ใต้ ตำบลวาเล่ย์ อำเภอพบพระ จังหวัดตาก ผู้ใหญ่บ้านทั้งสองหมู่บ้านรีบประกาศเสียงตามสายขอให้ชาวบ้านทุกคนให้หลบในหลุมหลบภัย ชาวบ้านเกือบทั้งหมู่บ้านวิ่งไปในหลุมหลบภัยกันชุลมุน ส่วนโรงเรียนในพื้นที่เสี่ยงภัยโรงเรียนบ้านวาเล่ย์และโรงเรียนบ้านมอเกอร์ไทย ปิดทำการเรียนการสอนเป็นวันที่สอง เนื่องจากเกรงว่านักเรียนจะไม่ปลอดภัย หลังจากเมื่อวานนี้มีเครื่องบินรบเมียนมาบินล้ำข้ามมาถึงหลังคาโรงเรียนจนต้องปิดโรงเรียนแบบฉุกเฉินและ เช้าวันนี้ก็ยังมีเครื่องบินรบบินวนหลายรอบ ล่าสุดโรงเรียนชายแดนทั้ง 4 โรงเรียนสั่งปิดแล้ว
ผบ.กกล.นเรศวร ตรวจแนวปะทะ
ต่อมา พล.ต.ประสาน แสงศิริรักษ์ ผบ.กองกำลังนเรศวร พร้อมทหาร ฉก.ร.14 และฝ่ายปกครองตรวจแนวชายแดนหมู่บ้านวาเล่ย์เหนือและวาเล่ย์ใต้ ต.วาเล่ย์ อ.พบพระ จ.ตาก เพื่อตรวจดูสถานการณ์การสู้รบในประเทศเมียนมา โดยได้เข้าไปตรวจจุดสังเกตการณ์ของทหารไทย อยู่ตรงข้ามกับแนวยิงปะทะ ซึ่งยังมีการยิงปะทะระหว่างทหารกะเหรี่ยงเคเอ็นยูและทหารเมียนมา สลับกับเสียงระเบิดและการทิ้งระเบิดจากเครื่องบินรบทหารเมียนมาตลอดทั้งวัน แต่ไม่มีกระสุนข้ามมาตกในเขตไทย
ย้ำกระสุนข้ามแดนยิงเตือนทันที
ผบ.กกล.นเรศวรกล่าวว่า ยังมีการสู้รบในประเทศเพื่อนบ้าน ตนได้ย้ำให้ทหารดูแลรักษาความปลอดภัยให้กับชาวบ้านอย่างดีที่สุด ส่วนผู้หนีภัยการสู้รบชาวเมียนมา ขณะนี้มีจำนวน 500 คนหลายคนกำลังทยอยเดินทางกลับบ้าน ทหารและฝ่ายปกครองเข้าไปดูแลตามหลักมนุษยธรรมเป็นอย่างดี และได้ย้ำให้ทหารป้องกันแนวชายแดนให้ดี หากมีกระสุนล้ำมาตกแนวชายแดนฝั่งไทยจะยิงเตือนด้วยกระสุนควันทันที ส่วนพื้นที่รองรับราษฎรไทยหากมีสถานการณ์บานปลาย เตรียมไว้แล้วที่ อบต.วาเล่ย์ ส่วนอากาศยานที่ล้ำแนวชายแดนทางการเมียนมาได้ประสานขอโทษและจะไม่ให้เกิดเหตุการณ์ลักษณะดังกล่าวและจะเพิ่มความระมัดระวังในการยิงเครื่องยิงลูกระเบิดไม่ให้ล้ำมาตกฝั่งไทย