การสู้รบชายแดนพบพระเข้าวันที่ 6 เมียนมาส่งเครื่องบินไอพ่นมา 2 ลำยิงถล่มฐานอูเกรทะ เสียงระเบิดและไอพ่นดังสนั่น ชาวบ้านหนีลงหลุมหลบภัย ด้าน เอฟ-16 ไทย 2 ลำบินประกบกระหึ่ม โดยไม่มีการล้ำน่านฟ้า

เมื่อวันที่ 1 ก.ค. 65 สถานการณ์ความตึงเครียดที่แนวชายแดนไทย-เมียนมา ที่เป็นการสู้รบระหว่างทหารเคเอ็นยูกับทหารเมียนมา ฐานบ้านอูเกรทะ อำเภอซูการี จังหวัดเมียวดี ประเทศเมียนมา ฝั่งตรงข้ามกับห้วยแม่หม้าย หมู่ที่ 2 บ้านวาเล่ย์ใต้ อำเภอพบพระ จังหวัดตาก ซึ่งมีการยิงปะทะกันอย่างหนักผ่านมาถึงวันที่ 6 และการปะทะยังคงดุเดือดอย่างต่อเนื่อง

โดยช่วงสายที่ผ่านมา ทหารเมียนมายังใช้ปืน ค.120 มม. ระดมใส่พื้นที่รอบฐานอูเกรทะ และเปิดปฏิบัติการทางอากาศโดยใช้เครื่องบินรบสองลำบินเลียบแนวชายแดนอำเภอพบพระ จังหวัดตาก ในระดับต่ำพร้อมยิงจรวดและปืนกลถล่มรอบฐานอูเกรทะ เสียงระเบิดดังไปทั่วหมู่บ้านแนวชายแดนอำเภอพบพระซึ่งภายหลังเครื่องบินเมียนมาบินเลียบแนวชายแดนอำเภอพบพระเป็นวันที่สอง เครื่องบินรบติดอาวุธ เอฟ-16 เอ็มแอลยูของกองทัพอากาศไทยจำนวน 2 ลำ ได้บินมาเหนือน่านฟ้าอำเภอพบพระ จังหวัดตาก โดยเสียงเครื่องบินรบและเครื่องบินรบของไทยดังคำรามไปทั่วท้องฟ้าสองประเทศ แต่ไม่มีการบินรุกล้ำน่านฟ้ากันแต่อย่างใด

...

ขณะเดียวกันหลังเครื่องบินของ ทอ.เมียนมา บินทิ้งระเบิดและยิงจรวดใกล้แนวชายแดนไทย ชาวบ้านวาเล่ย์เหนือและวาเล่ย์ใต้ หมู่ที่ 3 ตำบลวาเล่ย์ อำเภอพบพระ จังหวัดตาก ผู้ใหญ่บ้านทั้งสองหมู่บ้านวาเล่ย์ต้องรีบประกาศเสียงตามสายขอให้ชาวบ้านทุกคนให้หลบในหลุมหลบภัย และสิ้นเสียงประกาศเสียงตามสาย ชาวบ้านเกือบทั้งหมู่บ้านก็วิ่งไปในหลุมหลบภัยกันชุลมุน

ทางด้านโรงเรียนในพื้นที่เสี่ยงภัย ได้แก่ โรงเรียนบ้านวาเล่ย์ และโรงเรียนบ้านมอเกอร์ไทย ในพื้นที่ตำบลวาเล่ย์ ได้มีการสั่งปิดทำการเรียนการสอนเป็นวันที่สองเนื่องจากโรงเรียนเกรงว่านักเรียนจะไม่ปลอดภัยหลังเมื่อวานนี้มีเครื่องบินรบเมียนมาบินล้ำข้ามมาถึงหลังคาโรงเรียน จนต้องปิดโรงเรียนแบบฉุกเฉิน และเช้าวันนี้ก็ยังมีเครื่องบินหลายรอบ

ล่าสุดกองทัพอากาศไทยได้ส่งเครื่องบินรบเอฟ-16 จำนวนสองลำบินเข้าลาดตระเวนในพื้นที่อำเภอพบพระ จังหวัดตากหลายรอบ เพื่อป้องกันเครื่องบินต่างชาติล้ำอธิปไตยเหนือน่านฟ้าไทย สรุปในพื้นที่อำเภอพบพระ ต้องปิด 4 โรงเรียนชายแดนทั้งหมด.