ไม่น่าเชื่อว่าจากความคิดแค่เพียงต้องการหาอะไรทำแก้เหงาในชีวิตหลังเกษียณราชการของ อ.สุทัศน์ คำเขียว และ อ.คณิตชนก คำเขียว ทำไปทำมาเพียงไม่กี่ปีกลับกลายเป็นอาชีพหลักที่สร้างรายได้มากกว่ารับเงินบำนาญ
“ผมเออร์ลี่จากครูมาตั้งแต่ปี 2552 แรกๆยังไม่มีปัญหาอะไร แต่พอมาปี 2560 ภรรยาเกษียณตามมาอีกคน คราวนี้อยู่บ้านกันสองคน ไม่รู้จะทำอะไรแก้เหงากันดี ด้วยครอบครัวเราชอบทานน้ำผึ้งกันเป็นประจำ และได้ไปเยี่ยมหลานที่พัทลุง เห็นเขาเลี้ยงชันโรงกัน เลยเกิดความคิดที่จะเลี้ยงเองบ้าง จึงเริ่มลงมือทำกล่องเลี้ยงชันโรง และผึ้งโพรงตามที่หลานแนะนำ”
อ.สุทัศน์ ข้าราชการครูบำนาญ ที่วันนี้ผันตัวเองมาเป็นประธาน วิสาหกิจชุมชนกลุ่มเลี้ยงผึ้งโพรงและชันโรงบ้าน-ป่าเป้า ต.ทรายมูล อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ เล่าถึงจุดเริ่มต้นของอาชีพใหม่หลังทิ้งชอล์ก... แรกๆไปเสาะหาซื้อรังชันโรง ผึ้งโพรงจากชาวบ้านที่เลี้ยงไว้ตามที่ต่างๆ มาเลี้ยงไว้ในกล่องไม้เพื่อขยายพันธุ์
แต่ด้วยไม่มีความรู้เรื่องธรรมชาติของแมลงพันธุ์นี้...จุดเริ่มต้นครั้งแรกจึงล้มเหลวไม่เป็นท่า
...
เพราะไม่รู้ว่าแมลงเหล่านี้เป็นสัตว์ที่อยู่อาศัยประจำถิ่น ไปเอาชันโรง ผึ้งโพรงต่างถิ่นมาเลี้ยงไว้ข้างบ้านตัวเอง สุดท้าย ถ้ามันไม่ตาย ก็จะทิ้งรังบินหนีหายไปหมด
ล้มเหลวครั้งแรก เลยมาตั้งหลักใหม่ สมัครเข้าอบรมการเลี้ยงผึ้งโพรง ชันโรงกับมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และมหาวิทยาลัยแม่โจ้ จนรู้เทคนิคการเลี้ยงและการเสาะหาแม่พันธุ์ผึ้งโพรง ชันโรง ประจำถิ่นมาเลี้ยงที่บ้านตัวเอง
พบเจอรังผึ้งโพรง ชันโรง ในละแวกบ้าน จะใช้สายยางไปปิดรูบินเข้าบินออก บังคับให้ผึ้งโพรง ชันโรงบินเข้ามาสร้างรังในกล่องเลี้ยงที่เตรียมไว้...เมื่อได้มาแล้ว เลี้ยงต่อไปแค่อีก 2-3 เดือน จนรังขยายเต็มกล่อง จากนั้นเอากล่องใหม่มาล่อให้ผึ้งโพรง ชันโรง บินเข้าไปสร้างรังใหม่ ขยายอาณาจักร เพิ่มจำนวนกล่องเลี้ยงไปเรื่อยๆ
“ลองเลี้ยงทำเล่นๆได้ไม่กี่เดือน ปรากฏว่า ได้น้ำผึ้งชันโรงที่สามารถขายได้ราคาถึงขวดละ 1,800 บาท เพราะเป็นน้ำผึ้งที่หาได้ยากและมีสรรพคุณทางยาสูง ส่วนน้ำผึ้งโพรงนั้นขายได้แค่ขวดละ 330 บาทเท่านั้น เมื่อชาวบ้านเห็นเข้า สนใจที่จะเลี้ยงกันบ้าง ปลายปี 2561 เราเลยรวมกลุ่มกันจดทะเบียนจัดตั้งวิสาหกิจชุมชนขึ้นมา
ล่าสุดปีนี้ได้รวมตัวจัดตั้งเป็นกลุ่มผู้เลี้ยงชันโรงแปลงใหญ่เป็นแห่งแรกของภาคเหนือ ปัจจุบันมีสมาชิกอยู่ด้วยทั้งหมด 36 คน มีกล่องเลี้ยงชันโรง 300 กว่ากล่อง เฉพาะในส่วนของผมกับภรรยานั้น เลี้ยงชันโรงไว้ทั้งหมด 40 กล่อง ผึ้งโพรงอีก 12 กล่อง เลี้ยงไว้รอบๆบ้านนี่แหละ ต้นทุนแทบไม่มีอะไร อาหารไม่ต้องไปซื้อหามาให้ เพราะแมลงพวกนี้จะบินออกไปหากินกันเอง”
และผลจากการรวมกลุ่มเป็นแปลงใหญ่ วันนี้ วิสาหกิจชุมชนกลุ่มเลี้ยงผึ้งโพรงและชันโรงบ้านป่า-เป้า ไม่ได้มีผลิตภัณฑ์ที่ขายเป็นน้ำผึ้งใส่ขวดขายเท่านั้น ยังมีการพัฒนาต่อยอดนำน้ำผึ้งชันโรงที่ได้ชื่อว่ามีสรรพคุณทางยาอเนกอนันต์มาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์อย่างอื่น...ไม่ว่าจะเป็น เซรั่มบำรุงผิว แชมพู สบู่ก้อน สบู่เหลว โลชั่น ลิปสติก ยาหม่อง ฯลฯ
ที่ช่วยเพิ่มมูลค่าน้ำผึ้งชันโรงจากขวดละ 1,800 บาท ขึ้นมากว่า 5,000 บาท
สนใจผลิตภัณฑ์แปรรูปจากชันโรงติดต่อได้ทาง ID Line : khanitchanok หรือ FB : สวนผึ้งสันกำแพง.
...
ชาติชาย ศิริพัฒน์