ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา "พายุฤดูร้อนบริเวณประเทศไทย (มีผลจนถึงวันที่ 22 มีนาคม 2564)" ฉบับที่ 11 ลงวันที่ 22 มีนาคม 2564
ประเทศไทยมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น โดยมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง กับมีลูกเห็บตกบางพื้นที่ รวมถึงฟ้าผ่า โดยจะมีผลกระทบในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก ภาคเหนือ ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคใต้ตอนบน ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากพายุฤดูร้อนที่จะเกิดขึ้น โดยหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ ป้ายโฆษณาและสิ่งปลูกสร้างที่ไม่แข็งแรง สำหรับเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย
โดยจะมีผลกระทบดังนี้
วันที่ 22 มีนาคม 2564
ภาคเหนือ: จังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา แพร่ น่าน อุตรดิตถ์ ตาก สุโขทัย พิษณุโลก พิจิตร กำแพงเพชร และเพชรบูรณ์
ภาคกลาง: จังหวัดอุทัยธานี นครสวรรค์ ลพบุรี ชัยนาท อ่างทอง สระบุรี สิงห์บุรี พระนครศรีอยุธยา สุพรรณบุรี นครปฐม กาญจนบุรี ราชบุรี สมุทรสงคราม และสมุทรสาคร รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล
ภาคตะวันออก: จังหวัดชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด
ภาคใต้: จังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ และชุมพร
ทั้งนี้ เนื่องจากบริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังแรงจากประเทศจีนได้แผ่ลงมาปกคลุมถึงประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ในขณะที่ประเทศไทยตอนบนยังคงมีอากาศร้อนถึงร้อนจัด
ประชาชนสามารถติดตามข้อมูลที่เว็บไซต์กรมอุตุนิยมวิทยา http://www.tmd.go.th หรือสายด่วนพยากรณ์อากาศ 1182 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
ประกาศ ณ วันที่ 22 มีนาคม พ.ศ. 2564 เวลา 17.00 น.
ขณะเดียวกันที่ จ.ตาก นายสมพงษ์ ฟุ้งทวีวงศ์ นายอำเภอพบพระ สั่งการปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคงลงพื้นที่ตรวจสอบเหตุฝนถล่มอย่างหนักในพื้นที่ตำบลช่องแคบ อำเภอพบพระ สร้างความเสียหายหลายจุด
...
จุดแรก อยู่ในพื้นที่หมู่ที่ 12 ต.ช่องแคบ เกิดพายุฝนฟ้าคะนองและเกิดลูกเห็บตกเป็นบริเวณกว้างต้นไม้ขนาดใหญ่ล้มทับสายไฟทำให้เสาไฟล้มหลายต้นกีดขวางการจราจร เจ้าหน้าที่ต้องนำเครื่องจักรขนาดใหญ่มาดำเนินการตัดและเปิดช่องทางการจราจร
นอกจากนี้ แรงลมยังพัดหลังคาบ้านประชาชนปลิวเสียหายไปหลายหลัง พัดถล่มศาลาการเปรียญวัดช่องแคบ อำเภอพบพระ ที่กำลังก่อสร้างแทนหลังเก่าที่ถูกเพลิงไหม้ไปเมื่อวันที่ 4 มีนาคมที่ผ่านมา ทำให้ศาลาการเปรียญครึ่งตึกครึ่งไม้ที่กำลังมุงหลังคาเพิ่งเสร็จ เมื่อช่วงบ่าย ถูกพายุพัดถล่มลงมาทั้งหลัง คนงานต่างวิ่งหนีเอาตัวรอด ไม่มีใครบาดเจ็บหรือเสียชีวิต
อย่างไรก็ตาม หลังเกิดเหตุพายุพัดถล่มศาลาการเปรียญวัดช่องแคบ หลังใหม่ที่สร้างแทนหลังเก่าที่ถูกเพลิงไหม้ไปเมื่อวันที่ 4 มีนาคม พระสมุห์การันต์ คุณสวโร เจ้าอาวาสวัดช่องแคบ หลังพบศาลาถูกพายุพัดพังถล่ม ถึงกับเสียใจจนเป็นลมหมดสติไป กู้ชีพกู้กู้ภัยพายัพพบพระ ต้องรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลพบพระในทันที