จังหวัดน่าน พบหญิงลาวติดเชื้อโควิด-19 กลับจากกรุงเทพฯ มีผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 10 คน โดยทางการเริ่มดำเนินการปิดโรงเรียนบางแห่งแล้ว

เมื่อวันที่ 4 มกราคม 2564 เวลา 16.00 น. ที่ห้องประชุมพระเจ้าสุริยพงษ์ ศาลากลางจังหวัดน่าน โดยมี นายนิพันธ์ บุญหลวง ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน, นายวิบูรณ์ แววบัณฑิต รองผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน, นายวิศิษฐ์ ทวีสิงห์ ปลัดจังหวัดน่าน, แพทย์หญิง อัจฉรา ละอองนวลพานิช ผอ.โรงพยาบาลน่าน และนายแพทย์พงศ์เทพ วงศ์วัชรไพบูลย์ รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลน่าน สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดน่าน ร่วมกันแถลงข่าวดำเนินรายการโดย ประชาสัมพันธ์จังหวัดน่าน (ทีมโฆษกฯ โควิด-19 จังหวัดน่าน)

โดยจังหวัดน่านได้รับรายงานเมื่อวันที่ 3 มกราคม 2564 เวลา 17.30 น. จากทางห้องปฏิบัติการโรงพยาบาลน่าน ว่าพบผู้ป่วยสงสัยติดเชื้อโควิด-19 เป็นเพศหญิงชาวลาว อายุ 23 ปี ไม่ได้ประกอบอาชีพ โรงพยาบาลน่านได้ส่งตัวไปตรวจยืนยันที่ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์เชียงรายทันที และได้รับรายงานผลว่า “พบสารพันธุกรรมของเชื้อไวรัสโควิด-19” ทำให้ในวันที่ 4 มกราคม เวลา 13.00 น. นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดน่าน ได้สั่งการให้ทีมเฝ้าระวังสอบสวนเคลื่อนที่เร็ว (SRRT) เข้าควบคุมการแพร่ระบาดในพื้นที่ ซึ่งผลการสอบสวนพบว่า

วันที่ 26 ธันวาคม 2563 ผู้ป่วยหญิงรายนี้ได้สัมผัสกับผู้ป่วยโควิด-19 เป็นพนักงานส่งอาหารในกรุงเทพมหานคร

วันที่ 30 ธันวาคม 2563 เดินทางจากกรุงเทพมหานคร โดยรถยนต์ส่วนบุคคล มายังบ้านพี่สาวที่บ้านนาหมอ หมู่ที่ 3 ตำบลเมืองลี อำเภอนาหมื่น จังหวัดน่าน มีผู้โดยสารรวมผู้ป่วยทั้งสิ้น 5 คน ขณะเดินทางผู้ป่วยเริ่มมีอาการเคืองในคอ

วันที่ 31 ธันวาคม 2563 และ 1 มกราคม 2564 ผู้ป่วยอยู่บ้านกับลูกสาวตลอดไม่ได้ออกไปไหน โดยไม่ได้พูดคุยกับใครนอกจากคนในครอบครัว

...

วันที่ 2 มกราคม 2564 เดินทางไปเลือกซื้อเครื่องซักผ้าที่ห้างโลตัส เวลา 11.09–11.27 น และไปซื้อเครื่องซักผ้าที่ห้างบิ๊กซี เวลา 11.34-11.58 น. หลังจากนั้นได้เดินทางกลับอำเภอนาหมื่น ระหว่างเดินทางกลับผู้ป่วยและพี่สาวมีอาการไข้ เจ็บคอ มีเสมหะ จึงได้ไปเข้ารับบริการตรวจรักษาที่โรงพยาบาลนาหมื่น ในเวลา 14.18 น. ซึ่งแพทย์ได้รับไว้รักษาในโรงพยาบาลทั้ง 2 ราย

สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดน่าน ได้ดำเนินการเข้าสอบสวนและควบคุมโรคในพื้นที่ โดยพบผู้สัมผัสเสี่ยงสูงในครอบครัวและชุมชน จำนวน 10 ราย ซึ่งได้รับไว้รักษาในโรงพยาบาล 5 ราย และกักตัวที่บ้านของตนเอง (Home Quarantine) จำนวน 5 ราย โดยทั้งหมดได้รับการป้ายจมูกตรวจหาไวรัสโควิด ผลตรวจไม่พบสารพันธุกรรม ส่วนที่เหลือ 5 รายรอผลการตรวจ

การสอบสวนการเดินทางไปห้างสรรพสินค้า พบว่า จากกล้องวงจรปิดผู้ป่วยและญาติสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา พนักงานในห้างสวมหน้ากาตลอดเวลาเช่นกัน รวมทั้งเวลาในการพูดคุยกับพนักงานประมาณ 5-10 นาที จึงถือว่าเป็นผู้สัมผัสเสียงต่ำ ทั้งนี้ ได้แนะนำให้พนักงานทั้งหมดที่สัมผัสผู้ป่วย เฝ้าระวังสังเกต จากการสอบสวนและควบคุมโรค สามารถค้นหาผู้ป่วยผู้สัมผัสเสี่ยงสูงและเสี่ยงในครอบครัวและชุมชนได้ทั้งหมด จึงคาดการณ์ว่าจะสามารถควบคุมการระบาดในครั้งนี้ ไม่ให้ขยายเป็นวงกว้างในพื้นที่จังหวัดน่านได้

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่จำเป็นต้องให้ความรู้ประชาชนในการเฝ้าระวังสังเกตอาการของตนเอง และปฏิบัติตัวในการสวมหน้ากากอนามัย และหลีกเลี่ยงกิจกรรมที่พบปะผู้คนรักษาระยะห่าง ล้างมือ เป็นประจำต่อไป

หลังจากที่มีการแถลงข่าวในครั้งนี้แล้ว จังหวัดน่านเริ่มทำการปิดโรงเรียน เช่น โรงเรียนราชานุบาล, โรงเรียนเนติวิทย์ และ โรงเรียนสตรีศรีน่าน เป็นต้น