คนไทยจากท่าขี้เหล็ก ทยอยเดินทางกลับหนีโควิดฯ ในเมียนมา ล่าสุดประสานผ่านทีบีซี เข้ามาทางแม่สายอีก 13 คน มี 2 คน เป็นหญิงทำงานในโรงแรม 1G1 ตรวจพบผลเป็นบวก รวมติดชื้อแล้ว 9 คน ส่วนที่ตกค้างอยู่ฝั่งเมียนมา คาดมีอีกประมาณ 500 คน เตรียมหาที่กักตัวเพิ่ม   

เวลา 11.00 น. วันที่ 4 ธันวาคม ที่จุดฟ้าภิรมย์ สิงห์ปาร์คเชียงราย ถนนเชียงราย-ดงมะดะ ตำบลแม่กรณ์ อ.เมือง จ.เชียงราย นายวรวิทย์ ชัยสวัสดิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เป็นประธานคณะทำงานติดตามสถานการณ์โรคโควิด 2019 ร่วมประชุมคณะทำงานประเมินสถานการณ์ตรวจเยี่ยมพื้นที่สิงห์ปาร์ค โดยนำรถชีวนิรภัย พระราชทาน มาตรวจพนักงานในพื้นที่กว่า 320 คน และประชุมร่วมกันเพื่อประเมินสถานการณ์และวางแผนการรับมือ

นายวรวิทย์ แถลงผลการปฏิบัติงานภายหลังการประชุมว่า เมื่อวานนี้มีคนไทยที่ทำงานในประเทศเมียนมาได้แจ้งผ่านคณะกรรมการชายแดนส่วนท้องถิ่น ไทย-เมียนมา (TBC) เข้าประเทศไทยที่ด่านสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมาแห่งที่ 2 จำนวน 13 คน ผ่านขั้นตอนตรวจสอบโรคจากเจ้าหน้าที่ผลออกมาเป็นบวก 2 คน เป็นผู้หญิงอายุ 25 ปี และทำงานที่โรงแรมแห่งหนึ่งในเมียนมา (โรงแรม 1G1) ทั้งสองคน ได้กักตัวไว้ที่สถานที่ควบคุมโรคที่แม่สาย และกำลังนำส่งมายัง รพ.ศูนย์เชียงรายประชานุเคราะห์ในวันนี้ ดังนั้น ขณะนี้ มีคนที่ติดเชื้อโควิดในเชียงรายทั้งหมด 9 คน โดยเพิ่มอีก 2 คนจากยอดเดิมสะสม 7 คน

...

รอง ผวจ.เชียงราย กล่าวว่า ขณะนี้ยอดคนไทยที่ทำงานในเมียนมาได้มาลงทะเบียนประสานผ่านคณะกรรมการ TBC จำนวน 67 คน และแจ้งผ่านสถานทูตไทยประจำเมียนมา และสปป.ลาว จำนวน 42 คน คนลาว 13 คน และคนลาว 2 คน ซึ่งจะต้องเข้าตามระบบการควบคุมโรคตามปกติ จำนวนคนที่ตกค้างในเมียนมาตอนนี้คาดว่าไม่เกิน 500 คน

ส่วนความพร้อมสถานที่ควบคุมโรค ทั้งของเอกชนในเชียงรายจากเดิมที่มี 4 แห่ง ขณะนี้มีเอกชนพร้อมให้ความร่วมมือแจ้งเข้ามาอีก 6 แห่ง รวมเป็น 10 แห่ง เมื่อรวมทั้งของเอกชนและของหน่วยงานราชการแล้วสามารถรองรับผู้กักตัวได้ถึง 500 คน ขณะนี้อยู่ในการกักตัวจำนวน 86 คน

“การทำงาน ได้ทำแบบบูรณาการ มีการตรวจเยี่ยมพื้นที่เสี่ยงและชายแดนด่านแม่สาย ด่านท่าปลา จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งแม่ทัพภาคที่ 3 ผบ.ฉก.ม.3 สาธารณสุขจังหวัดเชียงราย ฝ่ายปกครอง รถชีวนิรภัย มี 3 คัน ใน อ.เมือง 1 คัน และแม่สายอีก 1 คัน พร้อมตรวจทุกคนที่มีความเสี่ยง สถานบันเทิงทั้ง 4 แห่งตอนนี้ทางผู้ประกอบการได้ทำความสะอาด เพื่อความปลอดภัยของพนักงานและลูกค้า หากดำเนินการแล้วเสร็จก็สามารถเปิดได้ ซึ่งทางจังหวัดไม่ได้มีคำสั่งปิด ประชาชนและผู้ประกอบการดำเนินกิจกรรมได้ตามปกติ แต่ต้องเข้มข้นในการล้างมือ ใส่แมสก์ และประเมินสถานการณ์ตัวเอง

นายวรวิทย์ กล่าวด้วยว่า ทางจังหวัดเชียงรายได้แจ้งทุกจังหวัดทั่วประเทศว่า การเข้ามาท่องเที่ยวหรือเข้ามาในพื้นที่จังหวัดเชียงรายยังสามารถมาได้ตามปกติ ไม่มีการล็อกดาวน์ปิดเมือง และการมาเที่ยวกลับไปไม่ต้องถูกสั่งกักตัว ซึ่งได้ชี้แจงสถานการณ์ให้ทางส่วนกลางและจังหวดอื่นทราบแล้วว่าเชียงรายอยู่สถานการณ์ที่ไม่น่ากังวล เพราะได้ทำทุกขั้นตอนอย่างเข้มข้น

ด้าน นพ.ทศเทพ บุญทอง นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงราย กล่าวว่า ในการควบคุมโรคขณะนี้ การติดเชื้อโควิด-19 ในวงที่สาม ที่เป็นการแพร่จากคนในประเทศสู่คนในประเทศ ยังไม่พบ มีเพียง 1 เคสที่เป็นการติดจากเคสที่จังหวัดพะเยา เมื่อสุ่มตรวจ 3 คนที่ใกล้ชิด ยังไม่พบเชื้อ จึงยังไม่มีวงรอบที่ 3 และได้สอบสวนโรคตามไทม์ไลน์และตรวจเข้มข้นในทุกสถานที่ที่ผู้ป่วยไป โดยทางจังหวัดเชียงรายได้ประสานกับทางเมียนมาและประชาสัมพันธ์ว่า จังหวัดพร้อมรับคนไทยทุกคนที่ต้องการกลับประเทศ พร้อมตรวจและรักษาทุกคน

ทั้งนี้ พบว่า ใน 2 วันที่ผ่านมา คนไทยจะผ่านเข้าประเทศที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองช่องทางปกติ ไม่มีการลักลอบ ทำให้ควบคุมได้ และจะเห็นคนที่กลับเข้ามารายที่ 2 และ 3 ที่เข้ามาก่อนรายแรกก็ได้มาแสดงตัวเมื่อทางจังหวัดได้ยืนยันว่าพร้อมดูแล ขอให้คนที่เข้าเมืองมาแสดงตัวเพื่อความปลอดภัยของทุกคน

ขณะที่ นพ.ไชยเวช ธนไพศาล ผอ.รพ.เชียงรายประชานุเคราะห์ กล่าวว่า คนไข้ที่เข้ารับการรักษารวมขณะนี้มี 9 คน ที่ผ่านมาผู้ป่วยทุกรายมีอากาศน้อยมาก และเคสแรกที่รักษาได้ครึ่งทางแล้ว 4 วันที่ผ่านมา โดยทางทฤษฎีก็ไม่มีความน่ากังวลที่จะสามารถรักษาให้หายและกลับบ้านได้ ส่วนที่เก็บตัวอย่างวันนี้มีแล้ว 360 คน ทั้งเสี่ยงต่ำและเสี่ยงสูง ก็จะพยายามตรวจให้รู้ผลให้เร็วที่สุด