ตำรวจแม่ริม เชียงใหม่ ตามรวบพ่อค้าขายอาหารที่ผันตัวเป็นโจร อ้างป่วยโรคเส้นเลือดในหัวใจตีบ ซ้ำเจอพิษโควิด 19 จนขายอาหารไม่ได้ เลยควงปังตอจี้ร้านสะดวกซื้อ ได้เงิน 3 พัน นำไปเป็นทุนซื้อวัตถุดิบมาทำอาหารขาย
จากเหตุชิงทรัพย์ เมื่อเวลา 01.17 น. วันที่ 25 กันยายน ที่ผ่านมา กล้องวงจรปิดภายในร้านเซเว่น อีเลฟเว่น สาขาริมเหนือ อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ บันทึกภาพคนร้ายเป็นชายสวมหมวกกันน็อกสีดำ สวมเสื้อแจ็กเก็ตสีดำ กางเกงขายาวสีดำ และสวมถุงมือ สะพายกระเป๋าข้างสีดำ เดินเข้ามาภายในร้าน ก่อนที่ชายคนดังกล่าวจะเดินอ้อมไปที่เคาน์เตอร์ และล้วงมีดปังตอจากกระเป๋าสะพาย จี้พนักงานสาวเพื่อบังคับให้เปิดลิ้นชักเงินส่งมาให้ หลังได้เงินคนร้ายรีบวิ่งออกจากรถขึ้นรถจักรยานยนต์ขี่หลบหนีไปทางแยกเหมืองผ่า และเลี้ยวซ้ายไปทางวัดเจดีย์สถาน
หลังเกิดเหตุพนักงานร้านสะดวกซื้อได้เข้าแจ้งความกับ ร.ต.อ. อภิรักษ์ เขื่อนพันธ์ รองสารวัตรสอบสวน สภ. แม่ริม เพื่อติดตามจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุ โดยทรัพย์สินที่คนร้ายได้ไป เป็นเงินสด 3,000 บาท
ต่อมาชุดสืบสวน ได้ลงพื้นที่เพื่อหาเบาะแสของคนร้าย โดยตรวจสอบภาพกล้องวงจรปิดตามจุดต่างๆ ที่คนร้ายใช้เป็นเส้นทางหลบหนี กระทั่งพบรถจักรยานยนต์ ฮอนด้า รุ่นเวฟ สีฟ้า ทะเบียน 2 กข 883 เชียงใหม่ ซึ่งเป็นรถต้องสงสัย ที่คาดว่าคนร้ายจะใช้เป็นยานพาหนะในการหลบหนี
จากการตรวจสอบพบว่ารถจักรยานยนต์คันนี้เป็นของผู้พักอาศัยในหอพักแห่งหนึ่ง ที่บ้านเหมืองผ่า หมู่ 1 ตำบลริมเหนือ อำเภอแม่ริม เจ้าหน้าที่จึงติดตามไป กระทั่งสามารถจับกุมนายสุนันทวัฒน์ ไชยปรุง อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 19 หมู่ 2 ตำบลยม อำเภอท่าวังผา จังหวัดน่าน คนร้ายที่ก่อเหตุ พร้อมของกลางหมวกกันน็อก กระเป๋าสะพายข้างสีดำ ถุงมือ รองเท้าผ้าใบ และเสื้อผ้าที่สวมใส่ในวันก่อเหตุ และมีดปังตอ ส่วนเงินที่จี้มา เหลืออยู่ 200 บาท ส่วนรถจักรยานยนต์ เป็นของเพื่อนข้างห้องที่คนร้ายยืมไปก่อเหตุ
...
สอบสวน นายสุนันทวัฒน์ ให้การรับสารภาพว่า เป็นคนร้ายที่ก่อเหตุจี้พนักงานร้านสะดวกซื้อจริง โดยอ้างว่า ป่วยเป็นโรคเส้นเลือดในหัวใจตีบ ที่ผ่านมาทำอาชีพพ่อค้าขายอาหารปรุงสุกในตลาดเทศบาลริมเหนือ แต่หลังไวรัสโควิด-19 แพร่ระบาดจนขายของไม่ได้ จึงต้องย้ายไปเปิดขายอาหารที่หน้าห้องพัก แต่ก็ยังขายไม่ดี จนไม่มีเงินจ่ายค่าห้องพัก และซื้อวัตถุดิบมาทำอาหารขาย สุดท้ายจึงคิดสั้นก่อเหตุจี้ร้านสะดวกซื้อ เพราะไม่มีเงินมาใช้จ่าย
โดยหลังก่อเหตุเสร็จได้นำเงินไปซื้อวัตถุดิบมาทำอาหารปรุงสุกขาย จนเหลือเงินอยู่เพียง 200 บาท ก่อนถูกตำรวจตามจับตัวได้