แพร่ฝนถล่มหนักน้ำป่าทะลักท่วมหลายหมู่บ้าน ขณะที่แม่น้ำยมล้นตลิ่งท่วมสูง 1-2 เมตร ชาวบ้าน ต้องใช้เรือสัญจร เริ่มขาดแคลนอาหาร เชียงใหม่น้ำป่าทะลักแก่งกึ๊ด ซุ้มท่องเที่ยวชุมชนพัง 50 หลัง น่านยังวิกฤติจมบาดาล 6 อำเภอ บางจุดท่วมมิดหลังคาต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 อุตรดิตถ์สถานการณ์เริ่มคลี่คลายระดับน้ำลดต่อเนื่อง สุโขทัยคันดินกั้นแม่น้ำยมแตกมวลน้ำท่วมสูง 2 เมตร ชาวบ้านอพยพหนีอลหม่าน ส่วนพิษณุโลกผวาเร่งระบายน้ำรับมือมวลน้ำเหนือ กอนช.เผยน้ำเขื่อนขนาดใหญ่ยังคงมีปริมาณน้ำน้อย เน้นเก็บกักไว้ใช้แล้งหน้า

จากอิทธิพลร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ส่งผลให้หลายพื้นที่มีฝนตกหนักและน้ำป่าไหลหลากหลายพื้นที่ หลายหน่วยงานเร่งให้ความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน

แพร่น้ำป่าทะลัก 3 หมู่บ้าน

เมื่อวันที่ 23 ส.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ฝนยังคงตกหนักในพื้นที่ จ.แพร่ ส่งผลให้เกิดน้ำป่าไหลหลากท่วมพื้นที่บ้านห้วยไร่ หมู่ 4, 7, 10 ต.บ้านห้วยไร่ อ.เด่นชัย ระดับน้ำท่วมสูง 1 เมตร ชาวบ้านขนย้ายทรัพย์สินอย่างอลหม่าน บางรายขนข้าวของไม่ทันได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก ขณะเดียวกันน้ำในลำห้วยข่วงล้นทะลักไหลท่วมสถานีรถไฟห้วยไร่ และโรงเรียนห้วยไร่ ระดับน้ำท่วมสูงทางโรงเรียนต้องประกาศหยุดการเรียนการสอนชั่วคราวอย่างไม่มีกำหนด ส่วนปริมาณน้ำในแม่น้ำยมยังคงสูงขึ้น มวลน้ำยังล้นตลิ่งไหลท่วมพื้นที่ หมู่ 6 ต.สบสาย อ.สูงเม่น ระดับน้ำสูง 1-2 เมตร ประชาชนไม่สามารถเดินทางออกจากบ้านได้ เพราะถนนในหมู่บ้านน้ำท่วมสูงเกือบมิดหัวต้องใช้เรือในการสัญจร ขณะที่หลายครอบครัวเริ่มขาดแคลนอาหาร นอกจากนี้กระแสน้ำกัดเซาะคอสะพานข้ามลำห้วยบ้านแม่สูง หมู่ 6 ต.นาพูน อ.วังชิ้น จนประชาชนไม่สามารถสัญจรได้

...

ท่วมแก่งกึ๊ดซุ้มท่องเที่ยวพัง

จ.เชียงใหม่ เกิดน้ำป่าจากดอยสูงไหลทะลักลงสู่แม่น้ำแม่แตงผ่านบริเวณแก่งกึ๊ด แหล่งท่องเที่ยวเชิงผจญภัยชื่อดัง ต.กึ๊ดช้าง อ.แม่แตง ระดับน้ำเพิ่มสูงท่วมซุ้มอาหารริมน้ำของวิสาหกิจท่องเที่ยวชุมชนจนเสียหายมากกว่า 50 หลัง ขณะที่ อบต.กึ๊ดช้าง แจ้งเตือนผู้ประกอบการท่องเที่ยวงดให้บริการแพล่องแก่ง และแจ้งเตือนนักท่องเที่ยวให้ระมัดระวังอันตรายที่อาจเกิดขึ้นจากกระแสน้ำและน้ำป่าไหลหลากจนกว่าสถานการณ์จะปกติ ขณะที่นายกริชสยาม คงสตรี หน.อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ กล่าวว่า เช้านี้บนดอยอินทนนท์อุณหภูมิเย็นลงไม่มีฝนตก ทำให้นักท่องเที่ยวพากันชื่นชมความงดงามทางธรรมชาติ โดยเฉพาะหมอกสีขาวโพลน อุณหภูมิวัดได้ 13 องศาเซลเซียส ส่วนที่กิ่วแม่ปานวัดได้ 12 องศาเซลเซียส

น่านอ่วมจมบาดาล 6 อำเภอ

ส่วน จ.น่าน สถานการณ์น้ำท่วมยังไม่คลี่คลายน้ำยังคงท่วมพื้นที่ 6 อำเภอ 23 ตำบล มีประชาชนได้รับความเดือดร้อนกว่า 3 พันคน โดยเฉพาะพื้นที่บ้านต้นหนุน หมู่ 5 บ้านดอนแท่น หมู่ 2 และบ้านหนอง หมู่ 9 ต.กลางเวียง อ.เวียงสา ระดับน้ำยังคงท่วมสูง 1-2 เมตร เจ้าหน้าที่กู้ภัยและจิตอาสาลงพื้นที่สำรวจและให้ความช่วยเหลือต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 พบหญิงสาวพร้อมลูกน้อยวัย 4 เดือน ติดค้างอยู่ในบ้านนาน 2 วัน ทำการช่วยเหลืออพยพไปยังที่ปลอดภัย ขณะเดียวกัน พล.ต.ต.สัณห์ โพธิ์รักษา ผบก.ภ.จ.น่าน และคณะลงเรือท้องแบนสำรวจความเสียหายพร้อมแจกสิ่งของช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่ ต.กลางเวียง อ.เวียงสา เบื้องต้นพบว่าระดับน้ำท่วมสูงกว่า 2 เมตร ประชาชนต้องอาศัยบนบ้านชั้น 2 ส่วนผู้อยู่บ้านชั้นเดียวอพยพไปพักอาศัยชั่วคราว ที่ศูนย์ช่วยเหลือผู้อพยพ หอประชุมที่ว่าการอำเภอเวียงสา

เร่งค้นหาหนุ่มใหญ่พลัดตกฝาย

วันเดียวกัน จนท.หน่วยกู้ภัยสมาคมกู้ภัยลำปาง ชุดปฏิบัติการค้นหาและกู้ภัยใต้น้ำนทีลำปาง ยังคงค้นหาร่างนายประจวบ เทพปินตา อายุ 50 ปี ผช.ผญบ.หมู่ 11 ต.บ้านเป้า อ.เมืองลำปาง และนายอนันต์ แก้วมณีวรรณ อายุ 56 ปี พลัดตกน้ำสูญหายบริเวณหน้าฝายน้ำล้นบ้านเป้า-บ้านบ่อหิน ต.บ้านเป้า ขณะช่วยกันเอาผักตบชวาออกจากหน้าฝาย เมื่อวันที่ 22 ส.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่นำเรือท้องแบนพานักดำน้ำไปค้นหาตามจุดต่างๆ คาดว่าผู้สูญหายอาจติดอยู่ แต่การค้นหาเต็มไปด้วยความยากลำบากเพราะกระแสน้ำไหลเชี่ยวแต่ยังไม่พบ ขณะเดียวกันมีชาวบ้านมาให้กำลังใจครอบครัวผู้สูญหายอย่างไม่ขาดสาย เพราะชื่นชมในความเสียสละทำงานให้ชุมชนอย่างเต็มกำลังมาตลอด

แม่น้ำสาละวินเพิ่มสูงต่อเนื่อง

จ. ฝนตกหนักต่อเนื่องเป็นวันที่สาม มวลน้ำไหลลงลำห้วยแม่สะงีและลำห้วยแม่สะงา ส่งผลให้น้ำล้นตลิ่งไหลท่วมบ้านเรือนประชาชน ต.ห้วยผา ต.ปางหมู อ.เมืองแม่ฮ่องสอน มวลน้ำไหลท่วมพื้นที่นาข้าวที่กำลังแตกกอเขียวขจีจนได้รับความเสียหายเป็นวงกว้าง ขณะที่นายพงษ์พิพัฒน์ มีเบญจมาศ รองนายก อบต.แม่สามแลบ อ.แม่สามแลบ เปิดเผยว่า ฝนที่ตกลงมาอย่างหนักส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำสาละวินเพิ่มสูงขึ้นและท่วมถึงศาลาจุดชมวิว ชาวบ้านและผู้ประกอบการท่องเที่ยวเริ่มได้รับผลกระทบ ขณะที่ พ.อ.สมรรถชัย แปงสาย ผบ.ฉก.ทพ.36 ค่ายเทพสิงห์ จัดกำลังพลชุดเคลื่อนที่เร็วบรรเทาสาธารณภัย ลาดตระเวนตามสายลำน้ำ สาละวิน เพื่อให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน

...

อุตรดิตถ์น้ำท่วมเริ่มคลี่คลาย

นายณัฐวัฒน์ เกตุจันทร์ หน.สนง.ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดอุตรดิตถ์ เปิดเผยว่า ฝนที่ตกลงมาอย่างหนักส่งผลให้เกิดน้ำป่าไหลหลากท่วมพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อ.เมืองอุตรดิตถ์ อ.ท่าปลา รวม 13 ตำบล 73 หมู่บ้าน มีประชาชนได้รับความ เดือดร้อนกว่า 1,000 ครอบครัว มีการอพยพประชาชนในพื้นที่เสี่ยงไปอาศัยที่ศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัย ขณะนี้ระดับน้ำเริ่มลดลง 70-80 ซม. แต่ยังคงมีน้ำท่วมในพื้นที่ลุ่มสูงกว่า 1 เมตร ทั้งนี้ จะมีการเร่งสำรวจความเสียหายเพื่อให้ความช่วยเหลือต่อไป ขณะที่นายเล ซาซง กำนัน ต.น้ำริด อ.เมืองอุตรดิตถ์ กล่าวว่า หลังฝนเทกระหน่ำติดต่อกันทั้งวันทั้งคืนส่งผลทำให้ปริมาณน้ำในคลองน้ำริดเพิ่มสูง กระแสน้ำไหลเชี่ยวจนทะลักท่วมบ้านเรือนในพื้นที่หมู่ 1, 2 สั่งระดมกำลังผู้ใหญ่บ้านร่วมกับชาวบ้านจิตอาสา เร่งเปิดประตูน้ำฝายในท้องที่หมู่ 3 ต.น้ำริด เพื่อเร่งระบาย กระทั่งน้ำเริ่มลดลงแต่สถานการณ์ยังไม่น่าไว้วางใจ เนื่องจากยังมีฝนตกต่อเนื่อง ประกอบกับมีมวลน้ำจากพื้นที่ ต.ด่านนาขาม อยู่ทางด้านเหนือไหลทะลักลงมาด้านล่างเพื่อไหลลงแม่น้ำน่าน อาจทำให้มีน้ำท่วมอีกต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด โดยทาง พ.ต.อ.นนทวร สีอินทร์ ผกก.สภ.เมืองอุตรดิตถ์ นำกำลังตำรวจมาช่วยเหลือด้วย

...

สุโขทัยคันดินแตกอพยพวุ่น

จ.สุโขทัย ปริมาณน้ำในแม่น้ำยมเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง กระแสน้ำไหลแรงกัดเซาะคันดินบริเวณถนนเลียบแม่น้ำยม หมู่ 1 บ้านวังหิน และหมู่ 7 บ้านบางสงฆ์ ต.ปากแคว อ.เมืองสุโขทัย เป็นพื้นที่ก่อสร้างพนังกั้นแม่น้ำยมที่ยังก่อสร้างไม่เสร็จระยะทาง 1,300 เมตร คันดินพังทลาย 3 จุด ความกว้าง 10-30 เมตร ส่งผลให้มวลน้ำไหลบ่าเข้าท่วมพื้นที่บ้านเรือนราษฎรกว่า 200 หลัง และท่วมพื้นที่การเกษตร 1,500 ไร่ บางจุดน้ำท่วมสูง 1-2 เมตร ประชาชนที่อาศัยอยู่ในบ้านชั้นเดียวต้องอพยพไปอยู่ที่อื่นและมีการขนย้ายข้าวของกันอย่างทุลักทุเล นอกจากนี้ น้ำไหลท่วมถนนสุโขทัย-วังไม้ขอน (สายหลัง) จนรถเล็กไม่สามารถสัญจรไปมาได้ กระแสน้ำยังไหลซัดเสาไฟฟ้าแรงสูงริมถนนล้มระเนนระนาดกว่า 20 ต้น จนท.การไฟฟ้าสาขา สุโขทัยต้องเร่งตัดกระแสไฟฟ้าและติดตั้งใหม่พร้อมเสริมเสาค้ำยัน ขณะที่นายไมตรี ไตรติลานันท์ ผวจ.สุโขทัย ลงพื้นที่ตรวจสอบพร้อมสั่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งซ่อมแซมคันดินที่แตก รวมถึงให้ความช่วยเหลือประชาชนในเบื้องต้นแล้ว

พิษณุโลกผวาเร่งระบายน้ำ

นายชำนาญ ชูเที่ยง ผอ.โครงการชลประทานพิษณุโลก เปิดเผยว่า ฝนที่ตกหนักในพื้นที่ลุ่มน้ำยม จ.แพร่ ส่งผลให้ปริมาณน้ำในแม่น้ำยมเพิ่มสูงขึ้น โดยที่สถานี Y.1 C บริเวณสะพานบ้านน้ำโค้ง อ.เมืองแพร่ วัดปริมาณน้ำไหลผ่านได้สูงสุด 1,252 ลบ.ม./วินาที กรมชลประทานคาดการณ์ว่าน้ำจะเดินทางถึงสถานีวัดน้ำ Y.14 A อ.ศรีสัชนาลัย จ. สุโขทัย ในเกณฑ์สูงสุดที่ระดับ 9.30-9.35 เมตร ปริมาณน้ำไหลผ่านสูงสุด 1,050-1,060 ลบ.ม./วินาที เพื่อเป็นการลดผลกระทบต่อการเกิดอุทกภัย จ.สุโขทัย และ จ.พิษณุโลก กรมชลประทานจะบริหารจัดการน้ำในแม่น้ำยมบริเวณเหนือประตูระบายน้ำหาดสะพานจันทร์ ด้วยการผันน้ำส่วนหนึ่งเข้าสู่คลองหกบาท เพื่อควบคุมปริมาณน้ำในแม่น้ำยมไม่ให้เกิดภาวะน้ำเอ่อล้นตลิ่ง รวมทั้งวางแผนบริหารจัดการน้ำไม่ให้เกิดผลกระทบต่อประชาชน

...

ร้อยเอ็ดท่วมนาข้าว 2 พันไร่

ส่วนสถานการณ์ในภาคอีสาน นายมานิตย์ ไชยเม็ง กำนัน ต.บึงเกลือ อ.เสลภูมิ จ.ร้อยเอ็ด เปิดเผยว่า ฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก ส่งผลให้น้ำในลำน้ำยังมีปริมาณเพิ่มสูง เจ้าหน้าที่เร่งระบายน้ำลงสู่บึงเกลือและบึงบ่อแก ต.บึงเกลือ แต่ร่องระบายน้ำมีเพียงช่องเดียวทำให้น้ำไหลลงบึงเกลือช้ากว่าปกติ น้ำเอ่อท่วมนาข้าวเกษตรกรกว่า 2 พันไร่ จะมีการทำเรื่องประสานไปยังส่วนเกี่ยวข้องเร่งขยายทางน้ำให้ไหลลงสะดวกขึ้นเพื่อแก้ปัญหา หากน้ำท่วมนาข้าวเกิน 7 วัน จะทำให้ข้าวเน่าเสียหายได้ นอกจากนี้มีความเป็นห่วงเรื่องระดับน้ำ เพราะบึงบ่อแกและบึงเกลือ สามารถรองรับน้ำได้อีก 10 ซม. หากเกินปริมาณความจุ น้ำจะล้นและย้อนกลับมาท่วมพื้นที่ 10 หมู่บ้านใกล้เคียง

กอนช.เผยน้ำในเขื่อนยังน้อย

กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) ชี้แจงกรณีมีการส่งต่อข้อความในสื่อสังคมออนไลน์เกี่ยวกับการรายงานปริมาณน้ำในเขื่อนต่างๆ ที่เผยแพร่ประชาสัมพันธ์ไม่ถึงประชาชนทุกภาคส่วน เกรงซ้ำรอยเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ในปี 2554 เกิดประเด็นคำถาม “เขื่อนระบายน้ำมากเกินไป” หรือ “เขื่อนเก็บกักน้ำมากเกินไป” โดยระบุว่าปัจจุบันมีปริมาณน้ำในเขื่อนขนาดใหญ่ 35 แห่ง รวม 32,443 ล้านลูกบาศก์เมตร (46%) สามารถรองรับน้ำได้อีก 38,483 ล้านลูกบาศก์เมตร (54%) กอนช. ประเมินสถานการณ์น้ำปีนี้อยู่ในเกณฑ์น้ำน้อย คาดการณ์ว่าสิ้นสุดฤดูฝน ณ วันที่ 1 พ.ย.63 จะมีปริมาณน้ำในเขื่อนขนาดใหญ่ทั้งประเทศ 44,408 ล้านลูกบาศก์เมตร (62%) และจะไม่เกิดอุทกภัยรุนแรงเหมือนปี 2554 ต้องเร่งเก็บกักน้ำสำรองไปฤดูแล้งปีถัดไป จะจัดสรรน้ำให้เฉพาะการรักษาระบบนิเวศ การอุปโภคบริโภค และกิจกรรมอื่นๆที่กำหนดไว้ในแผนเท่านั้น

นายกฯห่วงน้ำท่วมเหนือ-อีสาน

น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม มีความห่วงใยอย่างยิ่งต่อความเป็นอยู่ของประชาชนในพื้นที่น้ำท่วม และได้สั่งการให้ข้าราชการทุกหน่วย รวมถึงตำรวจและทหาร เสริมกำลังคนและเครื่องมือในการช่วยเหลือเพื่อเคลื่อนย้ายประชาชนไปพื้นที่ปลอดภัย และเตรียมถุงยังชีพให้เพียงพอสำหรับการเข้าไปบรรเทาความเดือดร้อน นายกฯยังได้กำชับให้กระทรวงเกษตร และสหกรณ์ดูแลสัตว์เลี้ยงของเกษตรกร โดยกรมปศุสัตว์ ได้เตรียมความพร้อมด้านกำลังพล และอุปกรณ์ มีเสบียงสัตว์สำรอง 5,615 ตัน หญ้าแห้ง 335 ตัน ยานพาหนะ 201 คัน ถุงยังชีพสัตว์ 3,000 ชุด ทีมสัตวแพทย์ 119 ทีม ชุดปฏิบัติการเคลื่อนที่เร็วเพื่ออพยพสัตว์ 119 หน่วย 357 คน และเวชภัณฑ์ดูแลสุขภาพสัตว์ เกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์ที่ได้รับความเดือดร้อนจากภัยพิบัติสามารถติดต่อประสานขอความช่วยเหลือจากสำนักงานปศุสัตว์อำเภอ ทั้งนี้ นายกฯขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายรวมถึงอาสาสมัครภาคประชาชนที่ทุ่มเทในการเข้าช่วยเหลือประชาชน และขอให้ปฏิบัติงานด้วยความระมัดระวัง