ชาวพุทธที่กำแพงเพชร นำดอกเข้าพรรษา ร่วมเวียนเทียนรอบพระบรมธาตุนครชุม แสงเทียนแวววับ ท่ามกลางแสงจันทร์ เป็นการออกมาร่วมทำบุญวันพระใหญ่ครั้งแรกหลังโควิด-19 ระบาด

ที่วัดพระบรมธาตุนครชุม พระอารามหลวง ต.นครชุม อ.เมือง จ.กำแพงเพชร คืนวันที่ 5 ก.ค. พระราชวชิรเมธี เจ้าอาวาส พร้อมพระเณร และประชาชนมาร่วมเวียนเทียนเนื่องในวันอาสาฬหบูชา โดยทุกคนสวมหน้ากากอนามัยมาด้วย ผู้ที่มาก่อนทางวัดได้ให้ ทยอยเวียนเทียนไปก่อน ส่วนทางวัดจะเริ่มเวียนเทียนในเวลา 19.30 น. ซึ่งปีนี้ฝนไม่ตก ท้องฟ้าเปิด โดยทางวัดได้นำดอกเข้าพรรษามาให้ประชาชนใช้ในการเวียนเทียน ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของวัดพระบรมธาตุนครชุม และเป็นแห่งเดียวของ จ.กำแพงเพชร เพื่อเป็นการสื่อให้ประชาชนทราบว่า วันพรุ่งนี้เป็นวันเข้าพรรษา เป็นเทศกาลแห่งการทำบุญตลอดระยะเวลา 3 เดือน

สำหรับดอกเข้าพรรษา มีลักษณะเป็นช่อ ซึ่งแทงออกมาจากยอดของลำต้นเทียม ช่อโค้ง และห้อยตัวลงอย่างอ่อนช้อยสวยงาม มีก้านดอกย่อยเรียงอยู่โดยรอบ ในท้องถิ่นอื่นๆ จะนิยมเรียกไม้ชนิดนี้ว่า “หงส์เหิน” ตามลักษณะของรูปร่างของดอก เพราะดอกและเกสรจะมีลักษณะเหมือนตัวหงส์ กำลังจะบิน มีลีลาสง่างาม มีกลีบประดับเรียงตามช่อดอก และดอกเข้าพรรษาหรือดอกหงส์เหิน หนึ่งปีจะออกดอกเพียงครั้งเดียว เฉพาะในช่วงเทศกาลวันเข้าพรรษาเท่านั้น เป็นที่นิยมของประชาชน

...

ก่อนเวียนเทียน พระราชวชิรเมธี ได้กล่าวถึงประวัติและที่มาของวันอาสาฬหบูชา ว่าองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ได้แสดงมนต์บทธัมมจักกัปปวัตตนสูตรเป็นครั้งแรกหลังจากที่ตรัสรู้แล้ว ให้กับปัญจวัคคีย์ทั้ง 5 ฟัง จนพระอัญญาโกณฑัญญะ เกิดดวงตาเห็นธรรมของบวชเป็นพระสงฆ์องค์แรก จึงบังเกิดมีพระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์ขึ้นครบพระรัตนตรัย ในวันอาสาฬหบูชา ดังนั้นเพื่อเป็นการรำลึกถึงองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า จึงมีการเวียนเทียนขึ้นในวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา

จากนั้น พระราชวชิรเมธี เจ้าอาวาส ได้นำพระภิกษุ สามเณร และประชาชนเวียนเทียนรอบพระบรมธาตุเจดีย์ 3 รอบ แสงเทียนแวววับท่ามกลางแสงจันทร์ที่เต็มดวง บรรยากาศเป็นที่น่าศรัทธาอย่างยิ่ง