ระดับน้ำในแม่น้ำยมเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ไหลเข้าท่วมหลายพื้นที่ของจ.สุโขทัย ประชาชนเดือดร้อนหลายหลังคาเรือน แต่หลังบ่าย 3 โมง ระดับน้ำในแม่น้ำยมเริ่มลดลงแล้ว...
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตั้งแต่เวลา 23.30 น. ของคืนวันที่ 28 มิ.ย.ที่ผ่านมา ระดับน้ำในแม่น้ำยมซึ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว เนื่องจากมีฝนตกทางตอนเหนือของจังหวัด บริเวณจุดวัดน้ำหน้าบ้านพักผู้ว่าราชการจังหวัด วัดได้ 7.45 เมตร ซึ่งสูงเกินกว่าจุดวิกฤติคือ 6.48 เมตร แล้ว ทำให้กระแสน้ำบางส่วนไหลทะลักเข้าท่วมในเขตเทศบาลเมืองสุโขทัยธานี บริเวณถนนคูหาสุวรรณ และถนนราชธานี ซึ่งอยู่ติดกับแม่น้ำยม ระดับน้ำ 30 เซนติเมตร เจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยของเทศบาลฯ ตำรวจตระเวนชายแดนจากค่ายรามคำแหง นักศึกษาจากสถาบันการพลศึกษาสุโขทัย และเจ้าหน้าที่ป่าไม้ จำนวน 200 นาย ต้องช่วยกันขนกระสอบทรายมาวางเสริมแนวผนังกั้นน้ำเดิมกันจ้าละหวั่น เพื่อป้องกันมิให้กระแสน้ำไหลทะลักเข้าท่วมพื้นที่เศรษฐกิจ เช่น ตลาดสดเทศบาล และร้านค้าต่างๆ นอกจากนี้ ถนนจรดวิถีถ่อง (สุโขทัย-ศรีสำโรง) ช่วงหลักกม.ที่ 1-2 ม.4 ต.ปากแคว มีน้ำท่วมขัง 30-50 เซนติเมตร ระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตร ยังสามารถสัญจรไปมาได้ ถนนบายพาส (แยกโตโยต้า-แยกคลองโพ) น้ำท่วมสูง50-80 เซนติเมตร ตลอดทั้งสาย รถไม่สามารถผ่านได้
หลังจากนั้น เมื่อเวลา 01.30 น. 29 มิ.ย. กระแสน้ำจากแม่น้ำยมได้ไหลเข้าท่วมในพื้นที่ ม.2 และม. 5 ต.ยางซ้าย อ.เมือง ชาวบ้านซึ่งส่วนใหญ่มีอาชีพทำไร่ยาสูบ ต้องเร่งบรรจุกระสอบทรายเพื่อนำไปเรียงกั้นตลอดแนวตลิ่ง เพื่อป้องกันมิให้น้ำไหลเข้าท่วมพื้นที่การเกษตร ถนนสาย 1293 (สุโขทัย-บางระกำ) ต.ยางซ้าย มีน้ำท่วมสูง 30-50 เซนติเมตร เป็นระยะทางกว่า 3 กิโลเมตร ทำให้การสัญจรไปมาด้วยความยากลำบาก นอกเหนือจากนี้ บริเวณบ้านลัดทรายมูล พื้นที่ ม.2 และ ม.6 ต.ปากพระ ซึ่งเป็นจุดที่ได้รับความเสียหายมากที่สุด บ้านเรือนราษฎรกว่า 20 หลังคาเรือน ต้องจมอยู่ใต้น้ำความสูงประมาณ 1 เมตร ทางจังหวัดต้องจัดเวรยามเฝ้าระวังตลอด เนื่องจากบริเวณนี้มีจุดเปราะของตลิ่งคันดินอีกหลายจุด ซึ่งเป็นจุดโค้งของน้ำ และเมื่อเวลา 09.00น.ที่ผ่านมา นายจักริน เปลี่ยนวงษ์ ผวจ.สุโขทัย ได้เรียกประชุมนายอำเภอ และหัวหน้าส่วนที่เกี่ยวข้อง เร่งให้ความช่วยเหลือ จัดอาหาร น้ำสะอาด และเต็นท์เตรียมรับสถานการณ์ อีกทั้งประสานขอกำลังจากจทบ.พิษณุโลก อีกจำนวน 500 นาย ลงพื้นที่ที่ประสบภัยน้ำท่วมแล้ว เพื่อรอรับน้ำอีกระลอกปริมาณ 1,300 ล้านลูกบาศก์เมตร ในช่วง 1-2 วันนี้
และเมื่อเวลา 13.00 น. วันเดียวกัน บริเวณบ้านปากแคว ม.4 ต.ปากแคว เกิดแนวผนังกั้นน้ำยุบตัวลง เนื่องจากความแรงของกระแสน้ำที่กระแทกเป็นระยะทางยาวเกือบ 1 กิโลเมตร ทำให้ชาวบ้านในละแวกดังกล่าว ต้องรีบขนย้ายข้าวของที่จำเป็นหนีน้ำกันจ้าละหวั่น ชาวบ้านบางส่วนต้องช่วยกันขนกระสอบทรายที่จังหวัดนำมาเทไว้ให้ริมถนนจรดวิถีถ่อง ขนเข้าไปวางเสริมแนวผนังกั้นน้ำ ชาวบ้านบางคนต้องกระโดดลงไปในกระแสน้ำอันเชี่ยวกรากฝ่าอันตราย เพื่อขึงผ้าใบขนาดใหญ่กั้นแนวกระสอบทรายอีกชั้นหนึ่ง
โดยในช่วงนั้น ดร.พรรณสิริ กุลนาถศิริ และน.ส.ณัฐธิดา เทพสุทิน ลูกสาวของนายสมศักดิ์ เทพสุทิน ผู้สมัครปาร์ตี้ลิสต์ของพรรคภูมิใจไทย นั่งรถกลับจากหาเสียงผ่านมาพอดี จึงขอเข้าไปดูในพื้นที่น้ำท่วม ได้พบกับนายทวี อินธูป อายุ 82 ปี บ้านเลขที่ 282/5 ม.4 ต.ปากแคว ซึ่งกำลังดูแลนายณรงค์ อินธูป อายุ 37 ปี ลูกชายซึ่งป่วยพิการทางสมองและร่างกายมาแต่กำเนิด มีบ้านอยู่ติดกับแนวตลิ่งที่กำลังจะพัง ห่างเพียง 5 เมตรเท่านั้น ไม่ยอมหนีไปไหน แม้น้ำกำลังจะทะลักท่วมบ้าน สอบถามถึงความเดือดร้อนจากน้ำท่วม และอาการของนายณรงค์ พร้อมประสานสาธารณสุขจังหวัด และรพ.สุโขทัย นำรถพยาบาลมารับตัวนายณรงค์ไปดูแลก่อน เนื่องจากไม่มั่นใจว่า ผนังกั้นน้ำจะพังลงอีกหรือไม่ หากพังบ้านหลังดังกล่าวต้องจมอยู่ใต้น้ำแน่นอน
ล่าสุดเมื่อเวลา 15.00น. ทางป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.สุโขทัย รายงานว่า ระดับน้ำในแม่น้ำยม เริ่มลดลงแล้ว เหลือที่ 7.15 เมตร ส่วนความคืบหน้าจะนำเสนอต่อไป
...