ญาติเศร้ารับศพ “หนุ่มปกาเกอะญอ” จิตอาสาออกจากโรงพยาบาล นำกลับไปทำพิธีทางศาสนาที่บ้านเกิด หลังชวนภรรยาเข้าไปช่วยกันดับไฟป่าท้ายหมู่บ้าน เคราะห์ร้ายโดนไฟคลอกร่างย่างสดเสียชีวิต ขณะที่ภรรยาปลอดภัยแล้ว พ่อเมืองเชียงใหม่ยืนยันจุด “ฮอตสปอต” ในพื้นที่ 5อำเภอเฝ้าระวังลดลง ขู่จับกุมทันทีพร้อมเพิกถอนสิทธิหากพบผู้ครอบครองที่ดินทำกินจุดไฟเผาป่า

กลายเป็นเรื่องสะเทือนใจ กรณี 2 สามีภรรยาชาวปกากะญอเคราะห์ร้ายถูกไฟคลอกร่างย่างสด ระหว่างเป็นจิตอาสาช่วยทำแนวกันไฟป้องกันไฟป่า ที่ลุกลามไหม้เข้าไปในพื้นที่ป่าบ้านซิวาเดอร์ หมู่ 3 ต.แม่สามแลบ อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน ชาวบ้านเร่งนำส่งโรงพยาบาลในพื้นที่ ก่อนถูกส่งตัวมารักษาที่ จ.เชียงใหม่ ต่อมานายพงษ์นรินทร์ แพรชมภู อายุ 41 ปี สามีที่ถูกส่งรักษา รพ.นครพิงค์ อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ ได้เสียชีวิตลง ส่วน น.ส.วิลาวัลย์ สถาพรไพรวัลย์ ภรรยาถูกไฟลวกเท้าทั้ง 2 ข้าง และบริเวณมือ ขณะนี้อาการปลอดภัย แพทย์อนุญาตให้กลับบ้านได้

ความคืบหน้าเมื่อช่วงเที่ยงวันที่ 15 เม.ย. ที่แผนกรักษาศพ รพ.นครพิงค์ นายขจร แพรชมภู อายุ 53 ปี พี่ชายนายพงษ์นรินทร์ ผู้เสียชีวิต พร้อมกับญาติ เดินทางมาติดต่อขอรับศพน้องชายกลับไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีทางศาสนาที่บ้านเกิดใน อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน พร้อมรับตัว น.ส.วิลาวัลย์ น้องสะใภ้ ออกจากโรงพยาบาลกลับไปพักฟื้นที่บ้านด้วย ขณะเดียวกัน พ.อ.สมรรถชัย แปงสาย ผบ.ฉก.ทพ.ที่ 36 ค่ายเทพสิงห์ สั่งการให้ ร.อ.ธเนศ กันทา ผบ.ร้อย ทพ.ที่ 3606 บ้านแม่สามแลบ นำกำลังทหารพราน พร้อมรถยนต์เข้าไปสนับสนุนในการเคลื่อนย้ายศพออกจาก รพ.นครพิงค์ จ.เชียงใหม่ กลับไปยังบ้านเลขที่ 61/3 บ้านซิวาเดอร์ หมู่ 3 ต.แม่สามแลบ อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน และจัดเตรียมสถานที่ประกอบพิธีไว้อาลัยศพอย่างสมเกียรติ

...

นายขจร พี่ชายผู้ตายกล่าวว่า วันเกิดเหตุได้เกิดไฟป่าท้ายหมู่บ้านประมาณ 2 กม. รีบระดมชาวบ้านไปช่วยกันดับไฟป่า และจุดที่ 2 สามีภรรยาเข้าไปทำแนวกันไฟเพื่อดับไฟเป็นลำห้วยแห้ง ประกอบกับมีลมพัดกระโชกแรง ลมได้หอบไฟป่าโหมเข้าใส่ ทำให้ 2 สามีและภรรยาถูกไฟคลอกบาดเจ็บ กระทั่งมีเพื่อนชาวบ้านที่ไปช่วยกันดับไฟป่าไปพบ ช่วยกันหามร่างทั้ง 2 คนออกมาจากป่าด้วยความทุลักทุเล แต่น้องชายอาการสาหัสได้เสียชีวิตลง จะนำศพกลับไปฝังและประกอบพิธีทางศาสนาคริสต์ ณ สุสานบ้านซิวาเดอร์ ในวันที่ 16 เม.ย.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายพงษ์นรินทร์ แพรชมภู นับเป็นผู้เสียชีวิตรายที่ 6 ที่เข้าไปดับไฟป่าและถูกไฟคลอกเสียชีวิตในพื้นที่ภาคเหนือ ในส่วนการช่วยเหลือครอบครัวผู้เสียชีวิตที่เป็นชาวบ้านจิตอาสาและมีฐานะยากจน โลกโซเชียลได้แชร์ข้อความไว้อาลัย พร้อมโพสต์ถึงผู้มีจิตกุศลที่ประสงค์จะช่วยเหลือครอบครัวผู้ตาย สามารถโอนเงินผ่านบัญชีภรรยาผู้ตาย ชื่อบัญชี น.ส.วิลาวัลย์ สถาพรไพรวัลย์ ธนาคาร ธ.ก.ส. สาขาแม่สะเรียง เลขที่ 020047823681

ที่ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ นายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ ผวจ.เชียงใหม่ ประชุมคณะทำงานศูนย์บัญชาการป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 จ.เชียงใหม่ พร้อมเรียกประชุม 5 อำเภอ ที่เกิดจุดฮอตสปอตมากที่สุด ได้แก่ อ.แม่แจ่ม อ.กัลยาณิวัฒนา อ.แม่แตง อ.เชียงดาว และ อ.ฝาง เน้นย้ำการบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด ถึงแม้ว่าจุดฮอตสปอตจะลดลงแล้ว แต่ให้ทุกอำเภอบูรณาการกำลังทุกภาคส่วน ลงพื้นที่สร้างการรับรู้ความ เข้าใจกับชาวบ้านทุกหมู่บ้าน ควบคู่กับการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด โดยเฉพาะพื้นที่ผ่อนผันที่ทำกิน หรือพื้นที่ป่าบริเวณใกล้เคียงที่มีการแบ่งเขตความรับผิดชอบในการครอบครองไว้แล้ว หากพบมีการเผาเกิดขึ้นจะถูกเพิกถอนสิทธิ์ทันที และดำเนินคดีทุกจุด หากใครที่เข้าไปทำประโยชน์ในช่วงฤดูฝนนี้ ถือเป็นผู้ต้องสงสัยและจะเป็นผู้ต้องหาในที่สุด

วันเดียวกัน กรมควบคุมมลพิษ (คพ.) รายงานสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน 2.5 ไมครอน หรือ PM 2.5 ในพื้นที่ภาคเหนือ ตรวจวัดค่าฝุ่น 24สถานี พบค่าฝุ่นระหว่าง 30-75 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (มคก./ลบ.ม.) จากค่ามาตรฐานอยู่ที่ 50 มคก./ลบ.ม. พบพื้นที่ที่เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ (พื้นที่ส้ม) มี 2 สถานี คือ ต.จองคำ อ.เมืองแม่ฮ่องสอน 75มคก./ลบ.ม. และ ต.แม่ปะ อ.แม่สอด จ.ตาก 54 มคก./ลบ.ม.

เมื่อเวลา 13.20 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม กล่าวภายหลังประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงปัญหาไฟป่าว่า ได้กำชับในที่ประชุม ครม.แล้วให้เร่งจับกุมดำเนินคดีให้ได้ วันนี้เรื่องการลักลอบเผาป่าเรามีความเสี่ยงของเจ้าหน้าที่ มีบาดเจ็บ สูญเสีย เป็นเรื่องที่ไม่ควรจะเกิด ประเทศไทยจะต้องแก้ไขเรื่องเหล่านี้ให้ได้โดยเร็ว