“อรรถพล” นำทีมบุกตรวจดอยม่อนแจ่ม จ.เชียงใหม่ พบพื้นที่บุกรุกป่าเพิ่มกว่า 2,000 ไร่ เตรียมดำเนินคดี 50 ราย จากเดิมตกลงเป็นพื้นที่อยู่อาศัย และทำการเกษตรของชาวม้ง แต่กลับขยายรุกป่าสร้างบ้านพักและรีสอร์ต สั่งแจ้งจับนายทุนขุดบ่อขยะในพื้นที่ป่าต้นน้ำ พร้อมคาดโทษเจ้าหน้าที่ปล่อยปละละเลย

กรมป่าไม้ตรวจรุกป่า “ดอยม่อนแจ่ม” เมื่อ วันที่ 24 ธ.ค. นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมป่าไม้ พร้อมนายธเนศพล ธนบุณยวัฒน์ เลขานุการ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ลงพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ป่าแม่ริม อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ ตรวจพื้นที่โครงการหลวงหนองหอย บริเวณดอยม่อนแจ่ม แหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก ตั้งอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่ริมเนื้อที่ 13,500 ไร่ พบมีการบุกรุกพื้นที่ป่าเป็นวงกว้าง เปลี่ยนแปลงกลายเป็นบ้านพักและรีสอร์ตจำนวนมาก และพื้นที่ถูกบุกรุกป่าเพิ่มขึ้นกว่า 2,000 ไร่

นายอรรถพลกล่าวว่า พื้นที่ดังกล่าวกรมป่าไม้ เคยเข้าไปดำเนินการแก้ไขปัญหาการบุกรุกพื้นที่ป่า พูดคุยกับประชาชนที่อาศัยบริเวณในพื้นที่ม่อนแจ่ม มีชาวม้งสร้างเป็นที่พักอาศัยและทำการเกษตร แต่ภายหลังเปลี่ยนพื้นที่ทำการเกษตรเป็นรีสอร์ต และบ้านพักสำหรับรองรับนักท่องเที่ยว ชาวบ้านจำนวนหนึ่งขายที่ให้กับนายทุน ทั้งนี้ พื้นที่บริเวณนี้เดิมทีเจ้าหน้าที่ป่าไม้กำหนดเป็นข้อตกลงในการใช้พื้นที่ร่วมกันกับประชาชนจำนวน 53 ราย ขณะนี้พบว่า ขยายการรุกป่าเพื่อก่อสร้างเป็นรีสอร์ต และบ้านพักนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นจำนวนมาก

นายอรรถพลกล่าวอีกว่า เจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบผู้ที่เข้ามาบุกรุก ดำเนินการรายใหม่เพิ่มอีก 8 ราย ในพื้นที่ม่อนแจ่ม ดำเนินคดีไปแล้ว 1 ราย พบเพิ่มไม่ใช่เจ้าของเดิม 3 ราย เตรียมดำเนินคดีอีก 50 ราย ยังไม่พบหลักฐานว่าดำเนินการเองหรือขายให้นายทุน สั่งการให้เจ้าหน้าที่กรมป่าไม้ และประสานทุกภาคส่วนสกัดการบุกรุกพื้นที่เพิ่มอย่างเข้มงวด เร่งดำเนินคดีกับสถานประกอบการที่ตรวจสอบพบว่า เปลี่ยนแปลงการถือครองที่ดิน สำหรับในส่วนที่ก่อสร้างรีสอร์ต บ้านพักที่ไม่เหมาะสม และไม่ได้มาตรฐาน ประสานฝ่ายปกครองเข้าตรวจสอบสิ่งก่อสร้าง ต้องคำนึงถึงความปลอดภัย และต้องไม่กระทบต่อสิ่งแวดล้อม ทั้งนี้มีการควบคุมพื้นที่อย่างเข้มงวด ห้ามบุกรุกที่ดินเพิ่มเติม และไม่ให้มีการซื้อขายเปลี่ยนมือโดยเด็ดขาด

...

อธิบดีกรมป่าไม้กล่าวต่อว่า สั่งการให้นายภูมินพศ์ บุญบันดาร ผอ.สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 1 (เชียงใหม่) เร่งแก้ไขปัญหา ไม่ให้เกิดผลกระทบด้านมวลชน หากพบมีการปล่อยปละละเลยจะพิจารณาโทษตามลำดับชั้น และให้ขึ้นเฮลิคอปเตอร์ตรวจพื้นที่รับผิดชอบอย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้ง พร้อมรายงานเป็นภาพถ่ายทางไลน์ให้ตนทราบทุกเดือน นอกจากนี้ สั่งการให้เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษพยัคฆ์ไพรลงพื้นที่เพื่อเข้าไปตรวจสอบ ดำเนินการจัดระเบียบในพื้นที่ม่อนแจ่ม พร้อมตั้งกองอำนวยการเฉพาะกิจในพื้นที่ เพื่อแก้ไขปัญหาการบุกรุกในพื้นที่

เมื่อถามว่า ทำไมเจ้าหน้าที่ป่าไม้ในพื้นที่ถึงไม่รู้ หรือระแคะระคายว่ามีการขยายพื้นที่บุกรุกป่าสร้างบ้านพักและรีสอร์ตจำนวนมากขนาดนี้ อธิบดีกรมป่าไม้ตอบว่า การบุกรุกทำแบบค่อยเป็นค่อยไป ประกอบกับเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ปล่อยปละละเลยด้วย สั่งการและคาดโทษกับทุกคนเอาไว้แล้วว่าจะต้องไม่มีการรุกพื้นที่เพิ่มเติมอีกเด็ดขาด การรุกป่าขยายพื้นที่ทำให้มีนักท่องเที่ยวเข้ามาจำนวนมาก และพื้นที่ไม่สามารถจัดการปัญหาได้ โดยเฉพาะเรื่องการจัดการขยะ ล่าสุดพบว่าลักลอบขุดบ่อขยะในพื้นที่ป่าต้นน้ำ เพื่อขนขยะไปทิ้ง ตนสั่งเจ้าหน้าที่ไปแจ้งความดำเนินคดีกับนายทุนที่ทำเรื่องนี้แล้ว