ผัวเมียมาอาศัยบ้านญาติที่กำแพงเพชร ตั้งวงก๊งกันทุกวัน กับแกล้มอาศัย"ไก่"ในเล้ายายข้างบ้าน เมาแล้วมักทะเลาะตบตี จนสุดท้ายผัวหนักมือไปหน่อย เมียสลบไม่ฟื้น อุ้มลูกจะหนีแต่อยากกลับมาดูเมียอีกที เลยโดนรวบ
เวลา 08.30 น. วันที่ 1 ธ.ค. ร.ต.อ.เทอดภูมิ สังข์ทอง รองสารวัตรสอบสวนสภ.ทรงธรรม อ.เมือง จ.กำแพงเพชร ไปตรวจสอบที่บ้านเลขที่ 78 หมู่ 3 ต.ทรงธรรม อ.เมือง จ.กำแพงเพชร เป็นบ้าน 2 ชั้นครึ่งตึกครึ่งไม้ ชั้นล่างพบร่างของ น.ส.เกวลิน ยอดโฉมฉิน อายุ 37 ปี ที่อยู่ตามบัตรประชาชนอยู่บ้านเลขที่ 9/1 หมู่ 5 ต.ทางพระ อ.โพธิ์ทอง จ.อ่างทอง เสียชีวิตอยู่กับพื้นซึ่งเป็นที่นอน มีผ้าห่มคลุมตัวไว้ รอบๆ ตัวไม่พบอาวุธใดๆ เมื่อเจ้าหน้าที่เปิดผ้าห่มออกพบว่าผู้ตายใส่เสื้อเชิ้ตลายสก๊อตแขนสั้น ถูกถลกขึ้นไปจนเห็นเสื้อชั้นใน กางเกงขาสั้นสีน้ำตาล ซิปถูกรูดลงเปิดจนเห็นหน้าท้อง
จากการตรวจสอบ พบที่บริเวณใบหน้ามีรอยเขียวช้ำและบวมหลายแห่ง ลำตัวก็มีรอยเขียวช้ำอยู่ทั่ว และพบเสื้อยืดสีขาวเปื้อนเลือด 1 ตัว สอบถาม นายธนนท์ อินทรังศรี อายุ 51 ปี เจ้าของบ้านได้ความว่า คนที่ลงฆ่าชื่อ นายพฤกษา ภู่สิน หลานของตนเองซึ่งทั้งคู่เพิ่งเดินทางจากต่างจังหวัด มาอาศัยพักที่บ้านได้ประมาณ 1 อาทิตย์ เพื่อมาทำธุระเรื่องลูกสาววัย 1 ขวบเศษ โดยก่อนเกิดเหตุ นั่งดื่มเหล้าด้วยกันจนดึก ตนเองเข้านอนก่อนเพราะเมามาก และไม่ทราบว่ามีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้น ตื่นมาตอนเช้าจะมาปลุกเห็นคนตายนอนอยู่ในมุ้ง เมื่อเข้าไปปลุกจึงทราบว่าเสียชีวิตไปแล้ว
ส่วนสาเหตุน่าจะเกิดจากมีปากเสียงทะเลาะกัน เพราะตั้งแต่มาอยู่ที่บ้าน พอกินเหล้าแล้วก็ทะเลาะกันทุกวัน และผู้ตายก็จะถูกซ้อมทุกวันด้วย
ด้านนายอดิรุจ อุ่นกัลยา อายุ 24 ปี ซึ่งเป็นเพื่อนบ้านใกล้กัน เปิดเผยว่า นายธนนท์ เจ้าของบ้านที่เกิดเหตุ มาบอกกับยายของตนว่ามีคนตายในบ้าน ตอนแรกก็ไม่ค่อยเชื่อเพราะนายธนนท์ ยังอยู่ในอาการเมาสุรา เนื่องจากที่บ้านหลังนี้มีคนมาตั้งวงกินเหล้าแทบทุกวัน แต่ด้วยความสงสัยเพราะเมื่อคืนที่ผ่านมามีเสียงทะเลาะกันที่บ้านเกิดเหตุ ตนจึงไปบอกกำนันให้มาดู พบว่า น.ส.เกวลิน เสียชีวิตไปแล้ว จึงแจ้งตำรวจมาที่เกิดเหตุ
...
"ส่วนซากขนไก่ที่หน้าบ้านผู้ก่อเหตุคงไปอุ้มไก่ของยาย ที่มีบ้านใกล้กัน มาเชือดทำกับแกล้ม เนื่องจากที่บ้านเกิดเหตุไม่ได้เลี้ยงไก่ ซึ่งสัตว์เลี้ยงบ้านยายหายบ่อย บางครั้งก็เป็ด บางครั้งก็ไก่"
หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบเหตุจึงวิทยุสกัดจับ ในที่สุดก็พบตัวนายพฤกษา อุ้มลูกสาววัยขวบเศษ นั่งซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์กำลังจะหนี แต่ยังอยู่ในอาการเมา จึงควบคุมตัวมาสอบสวน พูดจาวกวน จับใจความได้ว่าทะเลาะกันในเรื่องที่ไม่เป็นเรื่องเหมือนทุกวันที่ผ่านมา จึงลงมือทำร้ายภรรยา แต่พลั้งมือหนักไปจนเงียบ จากนั้นก็เข้านอนตามปกติ ตื่นมารู้ตัวตอนเช้าพบว่าภรรยาเสียชีวิตแล้วจึงอุ้มลูกหนี โดยครั้งแรกโบกรถจักรยานยนต์ของชาวบ้านที่ผ่านมาให้ไปส่งที่สถานีขนส่งแล้ว แต่ได้ย้อนกลับมาเพื่อดูที่เกิดเหตุอีกครั้ง แต่เห็นมีรถอยู่ใกล้บ้านจึงไม่กล้าเข้าบ้าน จึงขอชาวบ้านวนรถกลับไปส่งที่ขนส่ง แต่ถูกตำรวจจับได้ก่อน ซึ่งตำรวจจะต้องรอให้นายพฤกษา สร่างเมาก่อนจะได้สอบสวนในรายละเอียดต่อไป