ฮือฮา! คุณตาวัย 76 ชาวเพชรบูรณ์ หลับจากสูบน้ำเกิดรู้สึกเจ็บที่หน้าอก ก่อนจะวูบหมดสติ แล้วหัวใจหยุดเต้น โชคดี 2 สาวพลเมืองดีจอดรถช่วยทำ CPR ปั๊มหัวใจ จนรอดชีวิต ขณะที่หยุดหายใจไป คุณตา เผยได้ฝันเห็นยมทูตมารับตัว พร้อมถามชื่อ นามสกุล แต่มารับตัวคนผิด จึงส่งกลับ เลยฟื้นจากความตาย...

วันที่ 16 ต.ค.62 จากกรณีกระแสโซเชียลฮือฮาคุณตาตายแล้วฟื้นที่เพชรบูรณ์ ล่าสุดผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ตรวจสอบ พบว่าบุคคลที่ถูกกล่าวถึงว่าตายแล้วฟื้นคือ นายประเกียบ ขุนแก้ว หรือ คุณตาแต๋ อายุ 76 ปี บ้านเลขที่ 15/3 ถ.คลองสานพัฒนา ต.ในเมือง อ.เมืองเพชรบูรณ์ โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 9 ต.ค.ที่ผ่านมา ขณะที่ น.ส.ศศพรรณ สวรรค์ตรานนท์ อายุ 48 ปี ผู้ช่วยโทรศัพท์จังหวัดเพชรบูรณ์ด้านบริการ และนางชัยรัตน์ ทิมทอง อายุ 46 ปี ผู้จัดการศูนย์บริการลูกค้าทีโอที สาขาเพชรบูรณ์ ขับรถออกไปพบลูกค้านอกพื้นที่ พบชาวบ้านโบกมือเรียกให้จอดรถอยู่ริมถนนเลียบคลองชลประทาน พร้อมแจ้งว่า นายประเกียบ ขุนแก้ว หรือ คุณตาแต๋ นอนไม่หายใจ และหัวใจหยุดเต้นประมาณ 5-6 นาทีแล้ว สองสาวจึงสวมวิญญาณกู้ชีพช่วยกันปั๊มหัวใจ พร้อมกับโทรศัพท์เรียกหน่วยกู้ชีพโรงพยาบาลเพชรบูรณ์ไปด้วย กระทั่งรถกู้ชีพมาถึงและทำการช่วยเหลือนำส่งโรงพยาบาลเพชรบูรณ์ จนรอดพ้นจากความตายอย่างเหลือเชื่อ

...

โดย คุณตาแต๋ ที่รอดพ้นจากความตาย ได้เล่าให้ฟังว่า วันเกิดเหตุนั้นตนเองได้ไปสูบน้ำจากคลองเข้านากับชาวบ้าน จู่ๆ ได้เกิดรู้สึกเจ็บเล็กน้อยที่หน้าอกบริเวณหัวใจ แต่ก็คิดว่าคงไม่เป็นอะไรมาก จึงไม่ใส่ใจ สักพักเริ่มปวดหัวใจมากขึ้นเรื่อยๆ จึงเดินมาพักผ่อนที่ริมทางและวูบหมดสติไป รู้สึกตัวอีกครั้งก็พบความฉงนใจ ที่ในความรู้สึกนั้นพบว่าตนเองไปอยู่ที่สถานที่แห่งหนึ่งกับผู้หญิง 1 คน และผู้ชายอีกสองคน โดยผู้ชายทั้งสองคนมีหน้าตาเคร่งขรึม แต่งกายแปลกๆ คือ มีผ้าโพกหัวสีแดง และผ้าพาดที่หน้าอกไม่สวมเสื้อและนุ่งโจงกระเบนสีแดง ชายคนที่หนึ่งได้สอบถามชื่อนามสกุลตน จึงได้บอกไปว่าชื่อ นายประเกียบ ขุนแก้ว(แต๋) ส่วนผู้ชายอีกคนได้เขียนอะไรบางอย่างลงในสมุดที่ถืออยู่ในมือ พร้อมกับหันไปถามผู้หญิงที่อยู่ข้างตนว่าชื่ออะไร ซึ่งหญิงคนนั้นบอกว่าชื่อแต๋ แต่เขียนไม่เหมือนกัน ชายคนที่จดชื่อจึงพูดว่าคนที่ตายเป็นผู้หญิงชื่อแต๋ ส่วนตนเองเป็นผู้ชายนั้นยังไม่ถึงที่ตาย เอามาผิดคน ให้รีบนำตนกลับไปส่งคืน สักครู่ตนจึงรู้สึกตัวเองอีกครั้ง และลืมตาขึ้นมาเห็นหน้าแพทย์และพยาบาลที่กำลังรักษาตนเองที่ห้องไอซียู ซึ่งตนเองมีความเชื่อว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น ตนเองได้เสียชีวิตไปแล้ว และไปพบกับยมทูต แต่ตนเองยังไม่ถึงที่ตาย เพราะยมทูตมารับผิดคน นำกลับมาส่งจึงฟื้นจากความตาย ซึ่งได้ไปเล่าให้ลูกหลานฟัง โดยตอนนี้ตนร่างกายแข็งแรงปกติดีแล้ว มีอาการเจ็บหน้าอกเล็กน้อย คาดว่าเกิดจากการปั๊มหน้าอก ปั๊มหัวใจ

โดยนางชัยรัตน์ ทิมทอง เล่าว่า วันนั้นเวลาประมาณ 11.00 น. ขณะที่ตน และ น.ส.ศศพรรณ ได้กลับจากการไปดูแลลูกค้าคือ อบต.ป่าเลา ขับรถผ่านมาทางถนนเลียบคลองชลประทาน ต.ป่าเลา ขณะนั้นได้มีการปล่อยน้ำมาตามคลองชลประทานชาวบ้านจึงมาช่วยกันลอกเศษวัชพืชออกจากคลอง เพื่อให้น้ำไหลสะดวก และจะได้นำน้ำเข้านา ก็พบกลุ่มชาวบ้านที่ตัวเปียกน้ำหามร่างคุณตาแต๋ลักษณะหามแขนและขาข้ามถนนมา พร้อมโบกมือเรียกให้จอด และบอกว่าช่วยโทรศัพท์เรียกรถพยาบาลให้ด้วย คุณตาไม่หายใจและหัวใจหยุดเต้นแล้ว ตนทั้งสองจึงรีบลงจากรถ พบว่าคุณตาแต๋แขนขาอ่อนปวกเปียก จึงจับชีพจรและหัวใจพบว่าหยุดหายใจแล้ว จึงบอกให้นำร่างคุณตาแต๋นอนราบกับพื้น ผลัดกันทำซีพีอาร์ หรือปั๊มหัวใจ พร้อมกับโทรศัพท์เรียกรถพยาบาล และใช้แอปแจ้งพิกัดเพื่อระบุให้ชัดเจนเพื่อให้รถพยาบาลมารับให้ถูกตำแหน่ง

โดยการปั๊มครั้งแรกประมาณ 5 นาที สังเกตเห็นว่าตาเริ่มเปิดประมาณ 2 มิล และฟังเสียงเหมือนมีสเลดอยู่ในลำคอ จึงให้ชาวบ้านช่วยนำร่างคุณตานั่งและตบหลังเพื่อให้สเลดออกมา และทำการปั๊มอีกครั้งนานประมาณ 10 กว่านาที พบว่าคุณตาเริ่มหายใจแผ่วเบา และเป็นเวลาที่รถพยาบาลมาถึงพอดี ซึ่งจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น รถพยาบาลใช้เวลาเดินทางพอสมควร เพราะอยู่ห่างจากที่เกิดเหตุราว 10 กิโลเมตร คงไม่ทันเหตุการณ์และคุณตาอาจไม่ฟื้นได้ ซึ่งการทำซีพีอาร์ครั้งนี้ ตนทั้งสองคนรู้สึกภูมิใจมาก ที่ได้ใช้วิชาที่เรียนรู้จากอินเทอร์เน็ตมา และเป็นครั้งแรกในชีวิต ดีใจกับคุณตาที่รอดตาย และอยากบอกว่าแอปแจ้งพิกัดที่ได้ใช้แจ้งกับโรงพยาบาลนั้น มีประโยชน์มากในการช่วยชีวิตหรือช่วยเหลือคนอื่น.