ร้านเด็ดที่ถือเป็นอีกหนึ่งซิกเนเจอร์ เลืองชื่อที่ชาวบ้านรักไทย อ.เนินมะปราง จ.พิษณุโลก ยาวนานกว่า 30 ปี คือ "ร้านก๋วยเตี๋ยวกระเพาะหมูลุงจิตร" หากมีโอกาสไปเที่ยวพิษณุโลกไม่อยากให้พลาดแวะชิม
เมื่อถามถึงร้านก๋วยเตี๋ยวเลืองชื่อ ที่ชาวบ้านรักไทย 1 ถึงบ้านรักไทย 3 รวมทั้งบ้านซำต้อง 4 หมู่บ้านของตำบลชมพู อ.เนินมะปราง จ.พิษณุโลก ต้องไปนั่งทานกันเป็นประจำมากว่า 30 ปี คือ ร้านก๋วยเตี๋ยวกระเพาะหมูลุงจิตร ที่เป็นร้านธรรมดาที่ขายก๋วยเตี๋ยว อยู่ที่บริเวณชั้นล่างหน้าบ้านสองชั้น ใจกลางหมู่บ้านเผ่าไทย หรือบ้านรักไทย 2 นักท่องเที่ยวที่มีโอกาสได้ไปทาน ไม่ยอมพลาดโอกาสหากได้กลับไปเที่ยวที่บ้านรักไทยกันอีกครั้ง
ที่ร้านก๋วยเตี๋ยวกระเพาะหมูลุงจิตร เปิดขายอยู่ชั้นล่างหน้าบ้านเลขที่ 81 หมู่ 8 บ้านเผ่าไทย ต.ชมพู อ.เนินมะปราง จ.พิษณุโลก ซึ่งอยู่ใจกลางของหมู่บ้านเส้นทางผ่านไปบ้านร่มเกล้า หมู่ 11 ต.ชมพู ที่เป็นทางขึ้นทุ่งโนนสน ในเขตอุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง มีนักท่องเที่ยวและชาวบ้านพากันแวะไปรับประทานก๋วยเตี๋ยวกันจำนวนมาก โดย นายสมจิตร ขุนจำนวน อายุ 78 ปี หรือลุงจิตร จะเปิดขายก๋วยเตี๋ยวกระเพาะหมูตั้งแต่เวลา 08.00-16.00 น. ทุกวันไม่มีวันหยุด ในราคาชามละ 30 บาท
...
นายสมจิตร หรือที่ชาวบ้านเรียกกันจนติดปากว่า “ลุงจิตร” เปิดเผยว่า ตนเป็นคน จ.พิจิตร ย้ายภูมิลำเนาขึ้นมาอยู่ที่บ้านรักไทย 2 หรือปัจจุบันใช้ชื่ออย่างเป็นทางการว่าบ้านเผ่าไทย ตั้ง 40 กว่าปีที่ผ่านมา เริ่มแรกตนกับภรรยาปลูกขิง และเผาถ่าน หารายได้ยังชีพแต่ก็ไม่เพียงพอต่อค่าใช้จ่ายในครอบครัว จึงตัดสินใจเปิดร้านขายก๋วยเตี๋ยว แต่ต้องให้แปลกกว่าร้านอื่นที่ใช้หมูสับ หมูแดง เนื้อเปื่อย ภรรยาจึงเสนอให้ใช้กระเพาะหมู เพราะที่อื่นไม่มีใครนำมาใส่ก๋วยเตี๋ยวขายกัน
เจ้าของร้าน ก๋วยเตี๋ยวกระเพาะหมูลุงจิตร กล่าวต่อว่า หลังจากนั้นก็ขายก๋วยเตี๋ยวกระเพาะหมูเป็นหลัก เรื่อยมา ควบคู่ไปกับก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นเนื้อเปื่อย ในราคาชามละ 5 บาท ก่อนขยับราคาขายสูงขึ้นเนื่องจากต้นทุนวัตถุดิบสูงขึ้น กระทั่งฝ่านไปกว่า 30 ปี ปัจจุบันขายในราคาชามละ 30 บาท โดยกระเพาะหมู ที่ทำขายจะเน้นความสด สะอาด ไม่มีกลิ่นของกระเพาะหมู เพื่อให้ลูกค้ากินแล้วติดใจกลับมารับประทานกันอีก แต่ปัจจุบันเมนูเนื้อเปื่อยไม่ได้ทำแล้วเพราะเนื้อวัวราคาสูงมาก
ลุงจิตร เปิดเผยต่อว่า หลังจากภรรยาเสียชีวิต ตนจึงต้องขายก๋วยเตี๋ยวกระเพาะหมูเพียงลำพัง เนื่องจากลูก ๆ มีครอบครัวแยกย้ายกันไปอยู่ที่อื่นกันหมด แต่ถ้าเป็นวันหยุดเสาร์อาทิตย์หรือวันหยุดยาว บุตรสาวก็จะมาช่วยตน เพราะจะมีลูกค้ามากกว่าปกติ สำหรับกระเพาะหมูตนจะสั่งซื้อจากแม่ค้าในตลาดสด อ.วังทอง วันละ 10 - 15 กิโลกรัม ส่วนน้ำซุปก็จะเคี่ยวเองกับกระดูกหมู
...
เมนูหลักที่ลูกค้าสั่ง คือ กระเพาะหมู ไม่ว่าเส้นเล็กกระเพาะหมู เส้นใหญ่กระเพาะหมู เส้นหมี่กระเพาะหมู มาม่ากระเพาะหมู และมีเสริมด้วยเมนูลูกชิ้นเนื้อ แต่ละชนิดลูกค้าต่างยืนยันว่าอร่อยถูกปาก ในช่วงฤดูหนาวทุกปีจะมีนักท่องเที่ยวแวะมารับประทานก๋วยเตี๋ยวกระเพาะหมูที่ร้านตนจำนวนมาก หากมาไม่ทันกระเพาะหมูหมดก่อน ก็จะบ่นด้วยความผิดหวังไปตาม ๆ กัน
เอกลักษณ์อย่างหนึ่งของร้านก๋วยเตี๋ยวกระเพาะหมูลุงจิตร คือ ลุงจิตรจะใช้เตาฟืนในการต้มน้ำซุป และน้ำลวกเส้นก๋วยเตี๋ยว ไม่ใช้ถ่านหรือเตาแก๊สเหมือนร้านก๋วยเตี๋ยวทั่วไป สอบถามแล้วลุงจิตรบอกว่า ถ่านไม้ปัจจุบันราคาแพง ดังนั้นการใช้ไม้ฟืนจะง่ายกว่า ต้นทุนแทบไม่มีเพราะบ้านเผ่าไทยแห่งนี้ รวมทั้งบ้านร่มเกล้า หมู่ 11 หรือบ้านรักไทย หมู่ 7 ที่เป็นหมู่บ้านที่อยู่ติดกันมีสวนผลไม้จำนวนมาก เจ้าของไร่เจ้าของสวนจะมีการตัดแต่งกิ่งไม้ผลกันประจำ บางคนก็ขนใส่รถนำมาฝากให้ลุงจิตรถึงที่ร้าน จึงไม่ขาดแคลนฟืนที่จะใช้แต่อย่างใด
สำหรับผู้ที่ต้องการไปชิมก๋วยเตี๋ยวกระเพาะหมูร้านลุงจิตร ที่บ้านเผ่าไทย หรือบ้านรักไทย 2 หมู่ 8 ต.ชมพู อ.เนินมะปราง จ.พิษณุโลก สามารถแวะไปชิมกันได้ตั้งแต่เวลา 08.00 - 16.00 น.ทุกวัน.
...