ภาคเหนือชาวบ้านยังคงลักลอบเผาป่าอย่างต่อเนื่อง เจ้าหน้าที่ระดมกำลังดับไฟป่าพร้อมทำแนวกันไฟ ส่วนพายุฤดูร้อนถล่มหลายพื้นที่ อ.แม่สาย จ.เชียงราย ลูกเห็บตกขนาดเท่าไข่นกกระทา สีขาวโพลนเต็มถนน กาฬสินธุ์พายุซัด 5 อำเภอ หลังคาบ้านปลิวว่อน บางรายต้องใช้ผ้าใบคลุมหลังคาบ้าน รอความช่วยเหลือจากหน่วยงานรัฐ “ประวิตร” เป็นห่วงฝึกทหารใหม่หวั่นวูบ เพราะอากาศร้อนจัดสั่งครูฝึกระมัดระวัง ขณะที่กรมอุตุฯ แจ้งระวังหลายพื้นที่เกิดพายุฤดูร้อนและลูกเห็บตก

ชาวบ้านยังจุดไฟเผาป่าบนดอย หลายพื้นที่เกิดพายุฤดูร้อน เปิดเผยเมื่อเวลา 20.00 น. วันที่ 23 เม.ย. พล.ต.บัญชา ดุริยพันธ์ รองแม่ทัพภาค 3 รับรายงานว่า เกิดเหตุไฟป่าในพื้นที่บ้านบ่อทอง ต.ท่าสุด อ.เมืองเชียงราย หลังโรงเรียนบ่อทอง ไฟไหม้อย่างรุนแรง หวั่นจะลุกลามเข้าหมู่บ้าน และโรงเรียนบ้านบ่อทอง สั่งการให้ พล.ต.สัชฌาการ คุณยศยิ่ง ผบ.มทบ.37 พ.อ.อุไร ศรีม่วงสุข รอง ผบ.มทบ.37 นำกำลังทหาร ร.7 พัน.3 ค่ายเม็งรายมหาราชประสานนายสมกิจ เกศนาคินทร์ นายอำเภอเมืองเชียงราย เจ้าหน้าที่ชุดดับไฟป่า และอาสาดับไฟป่า นำกำลังเข้าฉีดน้ำสกัดไฟ และทำแนวกันไฟไม่ให้ลุกลามเข้าหมู่บ้าน ใช้เวลากว่า 3 ชั่วโมง สามารถควบคุมเพลิงไว้ได้

นอกจากนี้ ยังมีชาวบ้านลักลอบจุดไฟเผาป่า เพื่อทำการเกษตรและเกิดลุกลามหลายจุดใน จ.เชียงราย ประกอบด้วยพื้นที่ป่าอุทยานแห่งชาติ บ้านดงเจริญ หมู่ 17 ต.ป่าอ้อดอนชัย อ.เมือง บ้านเมืองรวง หมู่ 5 ต.แม่กรณ์ อ.เมือง และพื้นที่หมู่ 2 บ้านรวมมิตร ต.แม่ยาว อ.เมือง ส่วนที่ อ.พญาเม็งราย อ.แม่สรวย และ อ.เชียงของ บ่อขยะขนาดใหญ่ไฟไหม้ติดต่อกันมาเป็นวันที่ 3 ยังไม่ดับ

...

เช่นเดียวกับในพื้นที่ อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน เกิดไฟไหม้ป่าต้นอ้อริมแม่น้ำสะเรียง นายธนกฤต ฉันทะจำรัสศิลป์ นายอำเภอแม่สะเรียง นำกำลังไปตรวจสอบและอำนวยการดับไฟ เพลิงโหมลุกไหม้อย่างรวดเร็วเป็นระยะทางยาวกว่า 400 เมตร ไปตามแนวลำน้ำแม่สะเรียง เจ้าหน้าที่ป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควัน เจ้าหน้าที่ชุดบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลตำบลแม่สะเรียง ร่วมกันจัดรถน้ำฉีดสกัดไฟ ไม่ให้ลุกลามข้ามไปยังอีกฝั่ง ส่วนเจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันดับไฟป่าแม่สะเรียงและเจ้าหน้าที่ชุดดับไฟประจำหมู่บ้าน จัดกำลังเดินลุยพื้นที่เพื่อเข้าช่วยดับไฟ มีพื้นที่เสียหายกว่า 20 ไร่

ช่วงเช้าวันที่ 24 เม.ย. ที่ จ.พะเยา เกิดไฟไหม้ป่าที่ อ.เชียงม่วน เป็นพื้นที่บริเวณเขตป่าสงวนแห่งชาติ เจ้าหน้าที่และชาวบ้านช่วยกันดับไฟเสียหาย 10 ไร่ ที่ อ.แม่ใจ ไฟไหม้ป่าบริเวณบ้านปางปูเลาะ หมู่ 13 ต.ศรีถ้อยที่ อ.จุน ชุดปฏิบัติงาน หน่วยดับไฟเคลื่อนที่ กำนันและผู้ใหญ่บ้าน ช่วยกันดับไฟป่าในพื้นที่ป่าอนุรักษ์บ้านพวงพยอม ต.ห้วยข้าวก่ำ พร้อมทำแนวกันไฟไม่ให้ลุกลาม

สำหรับสถานการณ์พายุฤดูร้อนซัดในหลายจังหวัด ที่ จ.เชียงราย บริเวณจุดชมวิวดอยสะโง้ ต.ศรีดอนมูล อ.เชียงแสน เป็นแหล่งท่องเที่ยวเกิดพายุและฝนตกหนัก ทำให้บ้านพักตากอากาศเสียหาย 10 หลังโรงครัว และบริเวณลานขันโตก จุดรับประทานอาหารพังเสียหาย นอกจากนี้ ต้นไม้ล้มทับสายไฟฟ้าขาด ส่งผลให้ไฟดับหลายชั่วโมง เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างแก้ไข ที่บ้านถ้ำ ต.โป่งงาม อ.แม่สาย เกิดพายุและลูกเห็บตกเป็นจำนวนมาก พื้นถนนมองเห็นเป็นสีขาวโพลน ชาวบ้านเก็บลูกเห็บขนาดใหญ่เท่ากับไข่นกกระทา ถ่ายรูปแชร์กันในโลกโซเชียลส่วนที่ตลาดแม่สาย ลมแรงซัดกิ่งไม้หักโค่นทับรถ จยย.หลายคัน หม้อแปลงไฟฟ้าระเบิดเสียงดังสนั่น ทำให้ไฟฟ้าดับเป็นบริเวณกว้าง ที่ อ.พาน ลมหอบหลังคาอาคารเรียนคอมพิวเตอร์ของโรงเรียนบ้านป่าบงปลิวลอยหายไป ส่วนโครงหลังคาพังลงมากองที่พื้นด้านล่าง

ส่วนพื้นที่ในภาคอีสาน ที่ จ.กาฬสินธุ์ เกิดพายุฤดูร้อนพัดถล่มเข้ามาในพื้นที่เป็นครั้งที่ 3 ในรอบเดือน เม.ย. มีบ้านเรือนได้รับความเสียหาย 5 อำเภอ ประกอบด้วย อ.เมือง อ.ร่องคำ อ.ฆ้องชัย อ.หนองกุงศรี และ อ.กุฉินารายณ์ ลมพายุแรงซัดต้นไม้หักโค่นหลายต้น หลังคาบ้านพัดปลิวได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมากที่บ้านโจด ต.ภูปอ อ.เมืองกาฬสินธุ์ ชาวบ้านช่วยกันซ่อมแซมบ้าน รื้อหลังคาสังกะสี บางรายต้องนำผ้าใบมาคลุมหลังคา เพื่อรอความช่วยเหลือจากหน่วยงานราชการ

จ.บึงกาฬ พ.ท.วีระวัฒน์ ท้าวพิมพ์ เสนาธิการกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยจังหวัดบึงกาฬ นำกำลังพลทหารในสังกัด ร่วมกับกำลังอาสารักษาดินแดน อ.เมืองบึงกาฬ ทหารพรานที่ 2109 และประชาชนจิตอาสา “เราทำความดีด้วยหัวใจ” ช่วยกันซ่อมแซมบ้านเรือนของประชาชนในพื้นที่บ้านดอนปอ หมู่ 5 ต.โนนสว่าง และบ้านโนนสา หมู่ 2 ต.โคกก่อง อ.เมืองบึงกาฬ หลังถูกพายุฤดูร้อนพัดถล่มเสียหายหลายหลัง เพื่อให้ประชาชนเข้าอยู่อาศัยได้ตามปกติ

นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผวจ.ขอนแก่น เปิดเผยถึงความคืบหน้าการตรวจสอบอาคารและโครงสร้างของโรงเรียนเพ็ญบุรี บ้านโคกฟันโปง ต.บ้านเป็ด อ.เมืองขอนแก่น แผ่นคอนกรีตถูกลมพายุพัดถล่มลงมาทับร่างเด็กนักเรียนหญิงชั้นอนุบาล เสียชีวิตคาที่ 1 ราย บาดเจ็บอีก 4 คน พร้อมกั้นอาคารจุดเกิดเหตุเป็นพื้นที่อันตราย ห้ามใช้อาคาร 60 วัน ว่า กรณีของโรงเรียนเอกชนแห่งนี้ต้องแยกการทำงาน และการตรวจสอบออกเป็น 5 ส่วน คือในเรื่องของคดีอาญาเป็นหน้าที่ของตำรวจ ส่วนที่ 2 เจ้าพนักงานท้องถิ่น ต้องตรวจสอบว่าการก่อสร้างเป็นไปตามรูปแบบและรายการที่อนุมัติหรือไม่ เบื้องต้นพบสิ่งความผิดปกติบางอย่าง ต้องตรวจสอบในประเด็นนี้

...

นายสมศักดิ์เปิดเผยอีกว่า ส่วนที่ 3 คือการระงับการใช้พื้นที่ เพราะตัวโครงสร้าง ถ้ามองด้วยสายตาแล้ว อาจจะมีการชำรุด ถ้ามีแรงลมหรือการสั่นสะเทือน อาจจะมีแผ่นคอนกรีตตกหล่นลงมาอีก พนักงานท้องถิ่นประกาศเป็นพื้นที่อันตราย และห้ามเข้าเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ส่วนที่ 4 และ 5 ศึกษาธิการจังหวัดขอนแก่น ทำหนังสือระงับการใช้พื้นที่ในการเรียนการสอน ระงับใช้พื้นที่เป็นสถานศึกษาแล้ว ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น ศึกษาธิการจังหวัด แรงงานจังหวัด ต้องเข้าไปดูเจ้าหน้าที่ที่ได้รับผลกระทบจากการหยุดประกอบกิจการ อาจจะต้องเป็นภาระที่ต้องช่วยเหลือดูแล เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ได้เกิดจากการกระทำ หรือข้อบกพร่องของลูกจ้าง หรือเจ้าหน้าที่ผู้ใช้แรงงานแต่อย่างใด ทุกคนยังคงมีสิทธิ์ได้รับความช่วยเหลือตามปกติ

ด้าน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม กล่าวถึงการฝึกทหารใหม่ในภาวะสภาพอากาศที่ร้อนจัดในช่วงนี้ว่า สั่งการให้ผู้ฝึกระมัดระวัง หากอากาศร้อนจัดต้องให้ไปพักในร่มเพื่อป้องกันโรคฮีตสโตรก หรือโรคลมแดด ส่วนการดูแลรักษายุทโธปกรณ์ของหน่วยทหาร มีวิธีการดูแลรักษาอยู่แล้ว

กรมอุตุนิยมวิทยารายงานว่า ช่วงวันที่ 26-28 เม.ย. ประเทศไทยตอนบนจะมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้นมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง กับมีลูกเห็บตกบางพื้นที่ รวมถึงฟ้าผ่า ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากพายุฤดูร้อนที่จะเกิดขึ้น หลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ และป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง รวมถึงระวังอันตรายจากฟ้าผ่า สำหรับเกษตรกรควรเตรียมการป้องกัน และระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย เกิดผลกระทบกับภาคต่างๆดังนี้ วันที่ 26 เม.ย. ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จ.บึงกาฬ สกลนคร นครพนม มุกดาหาร ขอนแก่น ชัยภูมิ นครราชสีมา มหาสารคาม กาฬสินธุ์ ร้อยเอ็ด ยโสธร อำนาจเจริญ บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี ภาคตะวันออก จ.นครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา จันทบุรี และตราด

...

ส่วนในช่วงวันที่ 27-28 เม.ย. ภาคเหนือ จ.เชียงใหม่ เชียงราย พะเยา แพร่ น่าน ลำพูน ลำปาง ตาก สุโขทัย อุตรดิตถ์ พิษณุโลก กำแพงเพชร พิจิตร และเพชรบูรณ์ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จ.เลย หนองบัวลำภู อุดรธานี หนองคาย บึงกาฬ ขอนแก่น ชัยภูมิ สกลนคร นครพนม มุกดาหาร มหาสารคาม กาฬสินธุ์ ร้อยเอ็ด ยโสธร อำนาจเจริญ นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี ภาคกลาง จ.นครสวรรค์ ลพบุรี สระบุรี อุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา สุพรรณบุรี กาญจนบุรี และราชบุรี รวมทั้งกรุงเทพฯ และปริมณฑล ภาคตะวันออก จ.นครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด