ในเวลานี้คงมีท่านผู้อ่านหลายคน นั่งนับวันอยากให้ถึงช่วงหยุดยาวเทศกาลปีใหม่เต็มที
แน่นอนนั่นเป็นเพราะช่วงเวลานั้นเป็นเวลาแห่งความสนุกสนานที่เราจะได้พบปะคนในครอบครัวพร้อมหน้า เจอเพื่อนฝูง และรวมตัวนัดหมายเดินทางไปท่องเที่ยวกัน ซึ่งปัจจุบันการเลือกเดินทางไปเที่ยวในต่างประเทศก็เป็นที่นิยมกันมาก
วันนี้หากมีสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ ที่สามารถเนรมิตกลิ่นอายบรรยากาศ และยกสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของประเทศหนึ่งในโซนเอเชีย ที่คนไทยนิยมไปเที่ยวอันดับต้นๆ อย่าง “ญี่ปุ่น” มาไว้ในเมืองไทยมันจะดีแค่ไหน
Business On My Way สัปดาห์นี้ขอพาผู้อ่านไปสัมผัสแนวคิดริเริ่มผู้ก่อตั้ง “Hinoki Land” (ฮิโนกิ แลนด์) อาณาจักรไม้หอมฮิโนกิแห่งแรกและแห่งเดียวในประเทศไทย ที่วันนี้เป็นแลนด์มาร์กแห่งใหม่ที่ใครไปแอ่วเชียงใหม่ต้องแวะไปเช็กอิน
“คุณตี๋” (อนิรุทธิ์ จึงสุดประเสริฐ) เจ้าของและผู้ก่อตั้งฮิโนกิ แลนด์ เล่าถึงความเป็นมาของอาณาจักรไม้หอมว่า เป็นความฝันเมื่อ 10 ปีที่แล้ว หลังจากที่ตนเคยทำบ้านไม้หอมฮิโนกิ ไชยปราการ จนเป็นที่รู้จักมาแล้ว ซึ่งก็มีความฝันอีก โดยเกิดขึ้นตอนไปใช้ชีวิตอยู่ที่ประเทศญี่ปุ่นกว่า 21 ปี ทำให้ได้สัมผัสเกิดความชื่นชอบและความชื่นชมในวิถีชีวิตของชาวญี่ปุ่น รักวัฒนธรรมของคนญี่ปุ่น จึงเกิดความคิดว่าหากมีโอกาส อยากจะเอาวัฒนธรรม ความเชื่อ สิ่งที่สวยๆ งามๆ ของคนญี่ปุ่นมาให้คนไทยได้รู้จักและได้ชื่นชม
...
“ความฝันตอนอยู่ที่ญี่ปุ่นเป็นเพียงความฝันของเด็กคนหนึ่ง แต่หลังจากที่ได้สัมผัสคำว่าไม้หอมฮิโนกิ ทำให้เห็นความฝันที่ค่อนข้างชัดเจน โดยคิดว่าหากอยากทำฝันให้สำเร็จ จะต้องพยายาม ขยัน อดทน ที่จะเดินไปสู่ความฝันนั้นให้ได้”
คุณตี๋ เล่าว่า หลังจากตั้งความฝันที่อยากจะทำก็ไม่รอช้า ได้นำไม้ฮิโนกิมาต่อยอดสร้างงานให้กับชุมชนและยึดหลักปฏิบัติมาโดยตลอดว่าเราจะพัฒนางาน พัฒนาคน สู่ชุมชน ประจวบเหมาะกับช่วงที่ทำบ้านไม้หอมฮิโนกิ ได้รับความเมตตาจากมูลนิธิชัยพัฒนา ยื่นมือเข้ามาช่วยโดยนำเอาผลิตภัณฑ์บ้านไม้หอมฮิโนกิ ไชยปราการ ไปจำหน่ายที่สนามเสือป่า นั่นเป็นจุดเริ่มต้นหลังจากได้ทำการวิจัย ทดลองว่าการสกัดน้ำมันจากไม้ฮิโนกิ สามารถเอาไปทำสบู่รักษาสิวได้นั่นคือจุดเริ่มต้น
จากนั้นก็มาถึงวันที่ฝันไว้ คือการเปิดตัว “ฮิโนกิ แลนด์” มูลค่าโครงการ 1,300 ล้านบาท บนพื้นที่ 83 ไร่ ที่ อ.ไชยปราการ จ.เชียงใหม่ โอบล้อมด้วยลำน้ำฝาง มีขุนเขาล้อมรอบ และพื้นที่เกษตรกรรมของชาวบ้าน คุณตี๋ เล่าว่า สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่ธรรมชาติสร้างขึ้น โดยบางอย่างมีเงินก็ไม่สามารถเนรมิตได้
คุณตี๋ เล่าว่า จุดเด่นสำคัญๆของฮิโนกิ แลนด์ คือเมื่อเข้ามาถึงด้านหน้าโครงการ จะพบกับซุ้มประตูโคมแดงขนาดใหญ่จำลองมาจากซุ้มประตูคามินาริมง หรือฟุไรจิน–มง จากวัดอาซากุสะ ซึ่งใต้โคม แดงนั้นมีประติมากรรมมังกรแกะสลัก และเมื่อเดินผ่านซุ้มประตูมา ก็จะเจออุโมงค์เสาโทริอิ (Torii Gate) จำลองมาจากศาลเจ้า Fushimi Inari Taisha (ฟูชิมิ อินาริ) หรืออีกชื่อหนึ่งว่าศาลเจ้าจิ้งจอก เป็นศาลเจ้าที่มีชื่อเสียงโด่งดังของเกียวโต
โดยฮิโนกิ แลนด์ ได้สร้างอุโมงค์เสาโทริอิจำนวน 88 คู่ตามหลักเลขมงคลทอดยาวเรียงรายไปจนถึงตัวปราสาทฮิโนกิ และเมื่อเดินสุดอุโมงค์จะได้พบกับเสาโทริอิต้นใหญ่ด้านหน้าปราสาทฮิโนกิเป็นการนำเสาโทริอิเสาประตู Romon Gate ต้นที่ใหญ่ที่สุดในศาลเจ้าฟูชิมิมาประยุกต์สร้างขึ้น
“จุดที่เป็นไฮไลต์ของโครงการคือปราสาทฮิโนกิ 4 ชั้น ที่สร้างขึ้นจากไม้สนฮิโนกิ ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นไม้ชั้นสูงของญี่ปุ่น เป็นไม้ศักดิ์สิทธิ์ แรงบันดาลใจมาจากปราสาทคินคาคุจิ หรือปราสาททอง ชั้นบนสุดประดิษฐานพระพุทธชินราชไว้ให้นักท่องเที่ยวได้กราบไหว้สักการะ ชั้น 3 ประดิษฐานเจ้าแม่กวนอิมแกะสลักจากไม้ท่อนฮิโนกิท่อนเดียว โดยเป็นการแกะสลักด้วยมือทั้งหมด”
...
สำหรับค่าบัตรเข้าชม ผู้ใหญ่ราคา 130 บาท เด็กราคา 30 บาท เปิดทำการเวลา 08.00-18.00 น. โดยเปิดทุกวันไม่เว้นวันหยุดราชการ ทั้งนี้ภายในโครงการยังมีให้ผู้ไปเที่ยวเช่าชุดสไตล์ญี่ปุ่นใส่เที่ยวถ่ายรูปอีกด้วย อีกทั้งฮิโนกิ ช็อป ให้เลือกซื้อของน่ารักๆ แบบญี่ปุ่นกลับบ้านด้วย หรือแวะไปชิมของอร่อยๆที่ศูนย์อาหารฮิโนกิ ฟู้ด เซ็นเตอร์ ก็ได้
งานนี้ไม่ต้องเสียเวลาบินลัดฟ้าไปถึงญี่ปุ่น ใครวางแผนเตรียมไปแอ่วเหนือ ก็แวะไปสัมผัสบรรยากาศเจแปนสไตล์ที่ฮิโนกิ แลนด์ กันได้เลย.
...