ภารกิจช่วยทีมหมูป่าติดถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน จ.เชียงราย ลุล่วงไปแล้ว แต่ภารกิจฟื้นฟูเยียวยาเกษตรกร 128 ราย ใน 7 หมู่บ้าน ผู้ปิดทองหลังพระ ยอมให้สูบน้ำเข้าไร่นาตัวเองจนท่วมเสียหายไป 1,743 ไร่
แม้หลายฝ่ายจะช่วยเหลือจะเร่งสูบน้ำออกจากพื้นที่ แต่ด้วยฝนที่เทลงมาแทบจะทุกวันทำให้ทุกอย่างยังไม่คืบหน้ามากนัก จะให้แล้วเสร็จทุกอย่างคงต้องรอกันหลังหน้าฝน
ปัญหาที่ตามมาหลังสูบน้ำได้แล้ว ต้องฟื้นฟูดินยังไงให้กลับมาเพาะปลูกได้อีกครั้ง
ภูมิพีรพงศ์ พาหิรัญ นักวิชาการอาวุโส บริษัท ยารา ประเทศไทย ผู้เชี่ยวชาญเรื่องดินและปุ๋ยให้คำแนะนำ ...สำหรับในนาข้าว ถ้าน้ำท่วมขังไม่ถึงเดือน ข้าวจะยังอยู่ได้ไม่ถึงกับเน่า อันนี้ไม่น่าห่วง รอให้น้ำลด ข้าวจะค่อยๆ แตกกอทีละน้อย ให้ใส่ปุ๋ยตามโปรแกรมที่เคยทำ หรือตามคำแนะนำในฉลากถุงปุ๋ยได้เลย
แต่หากเกิน 1 เดือน ข้าวจะเริ่มเน่า เมื่อน้ำลดให้ทิ้งไว้เฉยๆ 20-30 วัน แล้วไถกลบหว่านปลูกใหม่ต่อไป ไม่ต้องใส่ปุ๋ยบำรุงดิน เพราะมีต้นข้าวที่ไถกลบเป็นปุ๋ยอยู่แล้ว
ส่วนไม้ผลหรือพืชชนิดอื่น...เมื่อน้ำท่วมขังรากจะเหมือนแช่แข็งตัวเองให้จำศีล พืชหยุดเจริญเติบโต จะทนน้ำได้นานหรือไม่ขึ้นกับชนิดของพืช แต่ส่วนใหญ่ทนได้ไม่เกิน 20 วัน ก็จะตาย
ท่วมไม่เกิน 20 วัน พืชยังไม่ตาย เมื่อน้ำลดแล้วให้ปล่อยไว้เฉยๆ ห้ามพรวนดินเด็ดขาด เพราะช่วงนี้รากกำลังอ่อนแอ หากพรวนไปโดนราก อาจติดโรคที่หมักหมมช่วงน้ำท่วมขังจนพืชอาจตายได้
รอจนเห็นว่าพืชเริ่มแทงยอดใหม่ จากนั้นเริ่มบำรุงด้วยปุ๋ยได้ เริ่มที่สูตร 15-0-0 เล็กน้อย เพื่อเพิ่มไนโตรเจนกระตุ้นให้พืชฟื้นตัว เจริญเติบโตกลับมาเป็นปกติก่อน จึงจะใส่ปุ๋ยตามที่เคยทำมาได้
วิธีการนี้สามารถนำไปใช้กับพื้นที่น้ำท่วมขังได้ทุกกรณี.
...
สะ-เล-เต