สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ นครย่างกุ้ง ยก เลิกการประทับตราวีซ่าหันมาใช้สติกเกอร์แทน หลังเกิดปัญหา “วีซ่าเมียนมาปลอม” ระบาด หนัก เผยตำรวจ ปคม.เมียนมาจับนายหน้าทำวีซ่าได้ คุมตัวสอบขยายผลพบผู้ต้องหาในขบวนการอีกคนเผ่นหนีมาซ่อนตัวในกรุงเทพฯ ด้านกระทรวงการต่างประเทศไทย ยันมีมาตรฐานด้านกงสุล ย้ำ “วีซ่าปลอมพม่า” ทำเป็นขบวนการปลอมจากคนนอก กระทบความมั่นคง

กรณีด่าน ตม.แม่สอด จ.ตาก เป็นด่านแรกที่ตรวจพบการปลอมตราประทับวีซ่าของสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงย่างกุ้ง จับกุมชาวเมียนมาที่ใช้วีซ่าปลอมได้ 67 คน ดำเนินคดีข้อหาใช้เอกสารปลอมและนำตัวส่งฟ้องศาลจังหวัดแม่สอดไปแล้วนั้น

เมื่อวันที่ 24 ก.ค. พ.ต.อ.แมน รัตนประทีป ผกก.ตม.จ.ตาก เผยว่า ขณะนี้สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ นครย่างกุ้ง ได้ยกเลิกการประทับตราวีซ่ามาใช้สติกเกอร์แทน ทำให้การปลอมแปลงยังไม่มี ส่วนวีซ่าปลอมก่อนหน้านี้ หลังมีการจับกุมและตรวจเข้มงวดมากขึ้น ทำให้ไม่มีใครกล้านำมาใช้อีก

ขณะเดียวกัน มีรายงานว่า เจ้าหน้าที่ ตม.จังหวัดเมียวดี ประเทศเมียนมา จับกุมนายหน้ารับทำวีซ่าปลอม 2 คน คือนายซอเต็งยุ้น อายุ 17 ปี และนางเกเตาอ่อง อายุ 25 ปี ทั้งคู่เป็นชาวจังหวัดผาอัน รัฐกะเหรี่ยง นำตัวไปเค้นสอบสวนแต่รายละเอียดยังไม่เป็นที่เปิดเผย

ส่วนที่ด่าน ตม.สระแก้ว ที่มีการจับกุมชาวเมียนมา 3 คน ใช้วีซ่าปลอมนั้น วันเดียวกัน พ.ต.อ.เบญจพล รอดสวาสดิ์ ผกก.ตม.จ.สระแก้วสั่งการให้ พ.ต.ต.จิรเดช พุฒินาทพัฒน์ สว.ตม.จ.สระแก้ว ประสานกับ พ.ต.ท.ไชยา มณีสุทธิ์ สว.(สอบสวน) สภ.อรัญประเทศ สอบถามความคืบหน้าการดำเนินคดี 3 ชาวเมียนมาที่ใช้วีซ่าปลอมและรายงานให้ พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น ผบช.สตม. พล.ต.ต.สิทธิชัย โล่กันภัย ผบก.สตม.3 ทราบ

พ.ต.อ.เบญจพลเผยว่า หลังจากเมื่อวันที่ 19 ก.ค. เจ้าหน้าที่ ตม.จ.สระแก้ว จับกุมชาวเมียนมา 3 คน ใช้ตราประทับวีซ่าของสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ นครย่างกุ้ง ปลอม สอบสวนทั้ง 3 คน รับสารภาพว่าไม่ได้เดินทางไปทำพาสปอร์ตและขอวีซ่าเข้าประเทศไทยด้วยตัวเอง แต่ไปติดต่อกับนายหน้าชาวเมียนมา ชื่อนายซี ตู ที่ร้านอาหารหน้าสถานทูตไทย ณ นครย่างกุ้ง เสียค่าใช้จ่ายคนละ 8,500 บาท เจ้าหน้าที่คาดว่าเป็นขบวนการเดียวกับที่รับจ้างทำตราประทับวีซ่าปลอม ขณะนี้กระทรวงการต่างประเทศและสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ นครย่างกุ้ง กำลังดำเนินการร่วมกับรัฐบาลเมียนมาอยู่ ส่วนผู้ต้องหาชาวเมียนมาทั้ง 3 คน พนักงานสอบสวน สภ.อรัญประเทศ ทำประวัติพิมพ์ลายนิ้วมือส่งไปตรวจประวัติอาชญากรรมที่สถานทูตเมียนมาประจำประเทศไทย แต่ยังไม่ได้รับคำตอบมา หากไม่เคยก่อคดีจะเร่งส่งฟ้องศาลทันที ขณะนี้ 3 ชาวเมียนมายังถูกฝากขังอยู่ในเรือนจำจังหวัดสระแก้ว

...

ขณะที่เจ้าหน้าที่ยังเดินหน้าตรวจสอบตราประทับวีซ่าปลอมในหนังสือเดินทางชาวเมียนมา โดย ผกก.ตม. จ.สระแก้ว สั่งการชุดสืบสวนปราบปราม ไปประสานกับนายวสันต์ ปาลาส จัดหางานจังหวัดสระแก้ว นำกำลังร่วมกันออกตรวจสถานประกอบการใน จ.สระแก้ว ที่จ้างแรงงานชาวเมียนมา 546 คน เป็นผู้ประกอบการชาวเมียนมา 238 คน เพื่อตรวจรอยตราประทับวีซ่าในหนังสือเดินทางทุกคนไม่พบว่ามีรอยตราประทับวีซ่าปลอมแต่อย่างใด

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า หลังจากตำรวจปราบปรามการค้ามนุษย์ของเมียนมา แจ้งว่าได้ดำเนินการจับกุมผู้ต้องหาปลอมวีซ่าได้ 2 คน ที่เมืองเมียวดีและดำเนินการขยายผลร่วมกับกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางเมียนมา ทราบว่ามีผู้ต้องหาในขบวนการอีกหนึ่งคนหลบซ่อนตัวอยู่ในกรุงเทพฯ และส่งชื่อมาให้กับทางการไทยแล้ว เพื่อประสานงานให้สำนักงานตำรวจตรวจคนเข้าเมืองสืบสวนจับกุมมาดำเนินคดีต่อไป

วันเดียวกัน น.ส.บุษฎี สันติพิทักษ์ อธิบดีกรมสารนิเทศ และโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า สถานเอกอัครราชทูตไทยประจำนครย่างกุ้ง รับทราบกรณีดังกล่าวและแจ้งต่อกระทรวงการต่างประเทศเมียนมาให้รับทราบและรายงานต่อกระทรวงการต่างประเทศไทยถึงกรณีดังกล่าวแล้ว ทั้งนี้ สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ นครย่างกุ้ง ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องนี้และยืนยันว่าการปลอมวีซ่าดังกล่าวเป็นการปลอมจากบุคคลภายนอก กระบวนการดังกล่าวที่ไม่มีความเกี่ยวพัน หรือเกี่ยวข้องกับข้าราชการของสถานเอกอัครราชทูต หรือเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นของสถานทูต โดยทางการเมียนมายินดีและพร้อมให้ความร่วมมือการสืบสวนสอบสวนบุคคลหรือกลุ่มบุคคลมาดำเนินคดีต่อไป ต่อกรณีดังกล่าว สถานเอกอัครราชทูตฯแจ้งข้อมูลเบาะแส ถึงการปลอมแปลงการตรวจลงตราจนสามารถนำไปสู่การจับกุมและขยายผลของหน่วยงานไทยในประเทศไทย โดยที่เรื่องนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับความมั่นคง ขอเรียนว่า สถานเอกอัครราชทูต ณ นครย่างกุ้ง ตลอดจนสถานเอกอัครราชทูตและสถานกงสุลใหญ่ไทยที่ประจำการทั่วโลกมีการดำเนินการตามขั้นตอน รวมถึงการตรวจสอบที่รัดกุม และให้บริการด้านกงสุลที่มีมาตรฐาน