ผนึกกำลังกำลังอุ้ม สับปะรดภูแล-นางแล ทั้งแจกและช่วยกันระบายสู่งตลาดเชียงราย ส่งเข้ากรุงเทพฯ วังระยะยาวยกระดับเป็นพืชยุทธศาสตร์ มีการรับรอง GI บูรณาการบอกเล่าเรื่องราว แปรรูป เพิ่มมูลค่าพัฒนาพร้อมท่องเที่ยวชุมชน...

เมื่อวันที่ 22 มิ.ย. ที่อู่จอดรถบริษัทสมบัติทัวร์ จ.เชียงราย พระเมธาวินทร์ แสนธิ สำนักปฏิบัติธรรมพระธาตุดอยโอ่ง ที่ปรึกษากลุ่มเกษตรพุทธ ต.นางแล และนายนวย แสงแก้ว ผจก.สมบัติทัวร์ ร่วมกันดูแลการจัดส่งสับปะรดจำนวน 7.2 ตัน จากสวนแปลงสับปะรดอินทรีย์ ต.นางแล เพื่อส่งไปยัง สวนลุมไนท์บาร์ซ่า ถนนรัชดาภิเษก

พระเมธาวินทร์ กล่าวว่า สับปะรดจำนวนนี้จะวางจำหน่ายในช่วงวันเสาร์-อาทิตย์ ที่ 23-24 มิ.ย.นี้ ตั้งแต่ 10.00 น. ช่วยกันอุดหนุนชาวสวนด้วย ราคาถุงละ 200 บาท ถุงละ 10 กก. มีทั้งพันธุ์ภูแล และนางแลน้ำผึ้ง ที่หวานกรอบและหวานฉ่ำ ผลไม้ขึ้นชื่อของจังหวัดเชียงราย แต่ถุงขนาดนี้ถ้าซื้อที่เชียงรายราคาถุงละ 50 บาท เพราะการขนไป กทม.ต้องมีค่าขนส่งและค่าการจัดการ อย่างไรก็ตามส่วนหนึ่ง บริษัทสมบัติทัวร์ ได้ร่วมอาสาช่วยขนส่งฟรีจำนวน 1 ตันต่อวัน หากชาวสวนมีออเดอร์จากกรุงเทพฯ โดยให้บริการฟรีจนถึงหมดฤดูกาล ทำให้ชาวสวนสับปะรด โดยเฉพาะที่ ต.นางแล ได้ยิ้มออกได้บ้าง หลังจากต้องเททิ้งไปเกือบครึ่งสวนแล้ว 

ผศ.ดร.เสริมศิริ นิลดำ คณบดีคณะวิทยาการจัดการ ม.ราชภัฎเชียงราย กล่าวว่า นอกจากการแก้ปัญหาที่ปลายทาง ซึ่งหลายฝ่ายช่วยกันซื้อไปแจก และช่วยจำหน่ายกันอย่างเข้มแข็ง กลยุทธ์หนึ่งของเชียงราย ที่จะร่วมกันแก้ไขปัญหาระยะยาว ได้มีหน่วยงานรัฐและเอกชนทั้งสภาหอการค้า และอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัด ร่วมกับ มหาวิทยาลัยราชภัฎเชียงราย ร่วมกันยกระดับให้สับปะรด ต.นางแล เป็นพืชยุทธศาสตร์ของเชียงราย มีการรับรองสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ เหมือนชากาแฟ เพราะ ต.นางแลเป็นแหล่งปลูกสายพันธุ์นางแลน้ำผึ้ง และภูแล เป็นที่รู้จักและยอมรับในรสชาติ ให้เป็นที่นิยมและมีมูลค่า ควบคู่ไปกับการท่องเที่ยวแบบโฮมสเตย์ โดยจะมีทั้งการแปรรูป ส่วนผลที่เหลืองรับประทานไม่ทันสามารถนำไปทำน้ำยาทำความสะอาดไร้สารเคมี เป็นการบูรณาการร่วมกันหลายฝ่าย ผนึกกำลังกันช่วยชาวสวน รวมถึงวิธีการจัดการ ช่องทางการจำหน่ายที่จะใช้เทคโนโลยีเข้าไปช่วย และให้ชาวสวนสามารถบอกเล่าเรื่องราวเองได้ 

...

นางจันทร์หล้า ปินตาสืบ ประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนชาวสวนสับปะรดเพื่อการส่งออก ต.นางแล กล่าวว่า ราคารับซื้อที่เคยซื้อสูงสุดช่วยเดือน มี.ค. ถึงต้น เม.ย. ซื้อผลสดจากชาวสวน ราคา กก.ละ 19 บาท แต่ขณะนี้รับซื้อ กก.ละ 4 บาท ราคาขายต่อกล่อง ปริมาณ 8 กก. ราคาขณะนี้จะอยู่ที่ 330-340 บาท จากที่เคยสูงถึง 580 บาท ต่อกล่อง เนื่องจากตอนนี้ ออเดอร์แทบไม่มีเลย เพราะมีผลไม้หลายอย่างออกพร้อมกันโดยเฉพาะทุเรียนที่พ่อค้าจีนจะหันไปขนทุเรียนตั้งแต่ช่วงกลางเดือน เม.ย. และช่วงปีที่ผ่านคนหันมาปลูกพันธุ์ภูแลกันมากขึ้นด้วย แบ่งออเดอร์กันไปอีก หลายครั้งต้องเททิ้ง เมื่อออเดอร์ไม่มีหรือถูกยกเลิก ตอนนี้หน่วยงานพยายามช่วยหาที่ระบายสู่ผู้บริโภค แต่อยากให้ช่วยระบายผลที่เป็นสีเหลืองด้วย เพราะช่วงนี้ส่วนใหญ่จะเหลือแล้ว ถ้าระบายไม่ทันสุดท้ายต้องเททิ้งทั้งหมด 

อย่างไรก็ตามผู้สื่อข่าวรายงานว่า ปัจจุบันเชียงราย มีล้งของคนจีนมาตั้งเข้ามารับซื้อสับปะรดในจังหวัดเชียงราย เป็นล้งขนาดใหญ่ รับซื้ออยู่กระจายออเดอร์ให้กับผู้ส่งออกคนท้องถิ่นและเอกชน และยังมีการกระจายสนับสนุนให้ปลูกสับปะรดพันธุ์ภูแล ในหลายอำเภอ เช่น อ.เวียงเชียงรุ้ง เชียงของ เชียงแสน ซึ่งเป็นพื้นที่อำเภอที่อยู่ใกล้การขนส่งเส้น R3A มากกว่า ทำให้สับปะรดภูแล มีสภาพล้นตลาดมากในปีนี้.