"เกย์นที" นำกลุ่มเกย์-กะเทยและสตรีเฮลั่นเมืองเชียงใหม่ ฉลองชัยชนะ หลังคำสั่งศาลปกครองเชียงใหม่สั่งทุเลา ห้ามกระเทยนั่งกระทงในเทศกาลยี่เป็ง ชี้เป็นชัยชนะทางการต่อสู้เพื่อสิทธิของเพศที่ 3 กู้ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์กลับคืนมา...
เมื่อวันที่ 15 พ.ย. นายนที ธีระโรจนพงษ์ หรือ "เกย์นที" ประธานกลุ่มเกย์การเมืองไทยและเลขาธิการกลุ่มเชียงใหม่อารยะ ได้นำกลุ่มกะเทย เกย์ และสาวเสริมสวย มารวมตัวยังบริเวณจัดแสดงโคมยี่เป็งหน้าข่วงอนุสาวรีย์สามกษัตริย์ ประกอบพิธีกราบไหว้อนุสาวรีย์ จากนั้นได้ใช้วิทยุเทปเปิดเพลงรำวงลอยกระทง พร้อมกับนำสำเนา เรื่องการทุเลาการบังคับตามคำสั่งศาลปกครองออกมาโชว์ให้ผู้คนเห็น และร่ายรำวงตามจังหวะเพลงลอยกระทง โดยมีนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศจำนวนหนึ่ง ที่มาชมลายโคมยี่เป็งและอนุสาวรีย์สามกษัตริย์ เร่เข้ามายืนดูด้วยสนใจ
นายนที กล่าวว่า การออกมาร่ายรำครั้งนี้ เป็นการแสดงชัยชนะของบรรดากลุ่มเกย์และกะเทย หลังศาลได้มีคำสั่งทุเลาให้เพศที่ 3 สามารถนั่งกระทงในงานประเพณียี่เป็งเมืองเชียงใหม่ได้ ทางกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศ ก็ร่วมแสดงความยินดีด้วยและร่วมฟ้อนรำเพลงลอยกระทงอย่างสนุกสนาน โดยทางศาลปกครองได้นัดไต่สวนในกรณีที่พวกเราได้ยื่นฟ้องทางนายกเทศบาลนครเชียงใหม่ เรื่องข้อที่ระบุว่าผู้ที่นั่งบนกระทงจะต้องเป็นสุภาพบุรุษและสุภาพสตรีเท่านั้น ถือว่าเป็นการจำกัดสิทธิของเพศที่ 3 คือ กะเทยจึงได้ยื่นฟ้องต่อศาลปกครองเชียงใหม่ จนมีคำตัดสินออกมา
เลขาธิการกลุ่มเชียงใหม่อารยะ กล่าวต่อว่า ศาลได้มีคำสั่งทุเลาข้อบังคับข้อ 2 ตามคำฟ้องไว้ชั่วคราว จนกว่าศาลจะมีคำพิพากษาหรือคำสั่งเป็นอย่างอื่น หมายถึงว่าทางเทศบาลฯไม่สามารถจำกัดสิทธิ์เฉพาะสุภาพบุรุษและสุภาพสตรี ให้นั่งกระทงเท่านั้น แต่ให้หมายถึงบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศใครก็ได้ที่เป็นสุภาพชนสามารถขึ้นนั่งบนกระทงได้ จึงเป็นความชื่นใจของพวกเราเพราะเมืองเชียงใหม่เป็นเมืองอารยะ เป็นเมืองท่องเที่ยวติดอันดับโลก ดังนั้นความแตกแยกที่ทำให้บ้านเมืองปั่นป่วน ตนจึงเห็นว่าเรื่องที่ศาลได้มีคำสั่งในการบรรเทาในครั้งนี้ ทำให้ต่อไปเรื่องการแตกแยกก็คงไม่เกิดขึ้นแล้ว เรื่องอคติต่อกันจะไม่มีก็จะทำให้บ้านเมืองสงบขึ้น และศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของกลุ่มคนหลากหลายทางเพศก็จะได้กลับคืนมา
"พวกเขาจะได้ทำแต่สิ่งดีๆไม่ได้ไปขายเนื้อขายตัวกัน หรือลดปริมาณที่จะไปทำสิ่งไม่ดี จึงถือเป็นเรื่องที่น่าดีใจถือว่าเป็นสิ่งที่สร้างความปรองดองในบ้านเมืองขึ้น โดยพวกเราไม่หวังที่จะนั่งเป็นนางนพมาศ เพราะผู้หญิงเท่านั้นที่จะเป็นนางนพมาศ พวกเราเข้าใจในกติกาไม่ไปละเมิดในข้อนี้ หากกะเทยปลอมตัวไปประกวดหากทางตนรู้ก็จะประท้วงเช่นกัน สำหรับข่าวดีที่ศาลปกครองบรรเทาในครั้งนี้ตนก็ได้แจ้งข่าวดีไปตามสื่อต่างๆ ถึงชัยชนะของกะเทยในครั้งนี้แล้ว" นายนที กล่าว
ด้าน นายทัศนัย บูรณุปกรณ์ นายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ กล่าวว่า เรื่องการที่ศาลปกครองสั่งทุเลาในเรื่องที่ทางผู้ฟ้องไป ตนยังไม่ทราบแต่เมื่อมีคำสั่งตนก็ไม่ได้ว่าอะไร เพราะกฎระเบียบนั้นคณะกรรมการจากหลายองค์กรเป็นผู้ร่วมกันออกกฎระเบียบไว้ หากทางบุคคลหลากหลายเพศจะเข้ามาร่วมขบวนแห่ ก็ขอให้มีการแต่งกายตามประเพณีวัฒนธรรมล้านนาเพื่อส่งเสริมสิ่งทีดีงามของบ้านเมืองเราด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มูลเหตุของเรื่องที่เกิดขึ้นนี้ มาจากการที่คณะกรรมการประกวดกระทงใหญ่ ที่เป็นภารกิจของทางเทศบาลนครเชียงใหม่ ตามพระราชบัญญัติของเทศบาลฯ เกี่ยวกับการบำรุงศิลปะ จารีตประเพณี ภูมิปัญญาท้องถิ่นและวัฒนธรรมอันดีของท้องถิ่นซึ่งถือปฏิบัติสืบทอดกันมานานแล้ว เกี่ยวกับประกาศเทศบาลนครเชียงใหม่ที่พิพาทนั้น ที่มีการแก้ไขระบุเฉพาะสุภาพบุรุษและสุภาพสตรีเท่านั้น ที่เป็นผู้นั่งประกอบกระทงโดยออกกฎมาเมื่อ พ.ศ. 2550 เป็นต้นมา เนื่องจากที่ผ่านมาความหลากหลายอาชีพบางคนที่เข้าร่วมประกวดกระทง มีการแต่งกายไม่สุภาพ และแสดงกิริยาไม่เหมาะสม ทำให้เสื่อมเสียประเพณีท้องถิ่น ที่ได้สมญานามว่า "สาวงามเอื้องเหนือ" เมื่อภาพลักษณ์การประกวดกระทางเผยแพร่ออกไป ทางเทศบาลได้รับคำตำหนิจากสาธารณชนและสื่อมวลชน ว่า" หาคนสวยในจังหวัดเชียงใหม่ไม่มีอีกแล้วหรือ" จึงได้มีการประชุมกันจนมีการออกกฎระเบียบออกมาดังกล่าว
สำหรับการประกวดกระทงใหญ่ในงานประเพณี เดือนยี่เป็ง เชียงใหม่ในปีนี้ตรงกับวันที่ 22 พ.ย.จะมีกระทงใหญ่ตามหน่วยงานองค์กรต่างส่งเข้าประกวดมากกว่า 30 กระทง โดยแห่จากข่วงประตูท่าแพไปจนถึงหน้าเทศบาลนครเชียงใหม่ โดยทุกปีจะมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศชมขบวนแห่ที่แต่ละขบวนงดงามตระการตา เคลื่อนขบวนไปตามถนนท่าแพ ที่มีความยาวของขบวนกว่า 2 กิโลเมตร เพื่อได้ชมกันโดยจะมีทั้งประเภทสวยงาม และประเภทความคิด มีบางกระทงใหญ่บางขบวนจะลอยโชว์ลงในแม่น้ำปิงด้วย.
...