"หนุ่มโรคอ้วน" อาจได้เปลี่ยนชีวิตเป็นคนผอม เมื่ออธิบดีกรมการแพทย์ และเจ้าหน้าที่แพทย์หลายฝ่ายได้เข้าเยี่ยม พร้อมจะส่งตัว "น้องอ๊อฟ" เข้าไปผ่าตัดกระเพาะอาหาร และลำไส้ใหญ่ ที่โรงพยาบาลรามาธิบดีในวันพรุ่งนี้ (24 ม.ค.) คาดว่าหลังผ่าตัดจะสามารถใช้ชีวิตใหม่ และผอมลงจนใช้ชีวิตได้ปกติ...



เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 23 ม.ค.61 นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ นพ.ปิยะ ศิริลักษณ์ นายแพทย์ สสจ.พิษณุโลก นพ.ไชยนันท์ ทยาวิวัฒน์ สาธารณสุขนิเทศน์ เขต 2 นพ.อารีย์ เจษฎาณาณเมธา รอง ผอ.ฝ่ายการแพทย์ รพ.พุทธชินราช พิษณุโลก นายก อบต.วัดจันทร์ และเจ้าหน้าที่ พมจ.พิษณุโลก ได้เดินทางมาเยี่ยม นายลัทธพล พุกนุ่น หรือน้องอ๊อฟ อายุ 20 ปี ซึ่งเป็นโรคอ้วนมีน้ำหนักตัว 250 กก. ส่งผลทำให้มีปัญหาเรื่องการใช้ชีวิตประจำวัน หากลุกยืนเป็นเวลานานก็จะล้ม เนื่องจากข้อเท้าเริ่มเสื่อมรับน้ำหนักตัวไม่ไหว โดยมีมารดา นางสมจิตร พุกนุ่น อายุ 55 ปี เป็นผู้เลี้ยงดูด้วยการตระเวนขายขนมจีนน้ำยา หารายได้เพียงคนเดียวเพื่อเลี้ยงดูน้องอ๊อฟ ไม่มีเงินเหลือเพียงพอกับการรักษาอาการป่วย เนื่องจากทางโรงพยาบาลพุทธชินราชได้ส่งตัวไปรักษาที่ โรงพยาบาลรามาธิบดี เพื่อให้แพทย์ทำการผ่าตัดกระเพาะอาหาร แต่ต้องมีค่าใช้จ่ายในการเหมารถตู้ไปกลับครั้งละ 4,500 บาท จึงไม่ได้เดินทางไปรักษาอย่างต่อเนื่องจนน้ำหนักเพิ่มมากขึ้นและเสี่ยงกับอาการกึ่งหัวใจวายได้ขณะนอนหลับ ที่หมู่บ้านบัวสีเงิน บ้านพักเลขที่ 100/118 หมู่ 2 ต.วัดจันทร์ อ.เมือง จ.พิษณุโลก ตามที่ได้มีการเสนอข่าวให้ทราบไปแล้วนั้น



...

นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ เปิดเผยว่า จากการสอบ พญ.ศศิธร ศรีโพธิ์ทอง ผู้ให้การรักษาน้องอ๊อฟพบว่า น้องอ๊อฟมีน้ำหนักตัวมาก จนเป็นผลทำให้ระบบการหายใจบางครั้งหยุดการหายใจไปชั่วขณะ มีปัญหาหัวใจโต กึ่งหัวใจจะหัวใจวาย ไขมันสูงเล็กน้อย ตับดี ไตดี มีโรคเบาหวานไม่มาก โชคยังดีเนื่องจากมีอายุน้อยทำให้มีโอกาสในการรักษาให้หายขาดได้ เพื่อเป็นการเตรียมการก่อนช่วยเหลือน้องอ๊อฟที่น้ำหนักตัวมากกว่า 250 กก. นั้น ในการส่งตัวไปผ่าตัดกระเพาะอาหาร ที่โรงพยาบาลรามาธิบดี ในวันพรุ่งนี้ (24 ม.ค.61) ทางแพทย์หญิงศศิธร แพทย์เจ้าของไข้ ได้นัดตรวจอาการป่วยน้องอ๊อฟ ที่โรงพยาบาลพุทธชินราช ด้วยติดปัญหาเรื่องเตียงผู้ป่วยไม่เพียงพอ จึงได้ประสานขอไปยังโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวร เพื่อเตรียมร่างกายน้องอ๊อฟก่อนทำการผ่าตัด



โดยจะมีการควบคุมน้องอ๊อฟ ด้านอาหาร ให้วิตามิน น้ำเกลือ เพื่อลดน้ำหนักลงอีกอย่างน้อย 10 เปอร์เซ็นต์ หรือประมาณ 225 กก. เพื่อให้สะดวกในการใส่อุปกรณ์ทำการผ่าตัด ซึ่งอาจใช้เวลาในการนอนรักษาที่ โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวรอย่างน้อย 1 เดือน จากนั้นจะประสานขอรถพยาบาลจากโรงพยาบาล หรืออาจใช้รถตู้จากการประสานของ อบต.วัดจันทร์ เพื่อนำตัวน้องอ๊อฟส่งโรงพยาบาลรามาธิบดี ทำการผ่าตัดกระเพาะอาหารออก 90 เปอร์เซ็นต์ เหลือไว้เพียง 10 เปอร์เซ็นต์ จะได้อิ่มเร็วขึ้น และตัดลำไส้ออกเพื่อลดการดูดซึม ซึ่งในผู้ป่วยโรคอ้วนมีหลายรายผ่าตัดแล้ว ประสบความสำเร็จ สามารถเปลี่ยนชีวิตใหม่ และผอมลงจนใช้ชีวิตได้ปกติเช่นคนทั่วไป

หลังจากนั้น อธิบดีกรมการแพทย์ ได้มอบกระเช้าสุขภาพ ขณะที่ พมจ.พิษณุโลก มอบเงินช่วยเหลือเป็นการเบื้องต้น เพื่อเป็นกำลังใจให้น้องอ๊อฟในการรักษาโรคอ้วนให้หายขาด และกลับมาใช้ชีวิตเช่นคนปกติทั่วไปอีกด้วย.