เจ้าของบ้านแมวไทยโบราณ จ.ปทุมธานี เชื่อ แมวศุภลักษณ์ ได้รับรองสายพันธุ์จาก WCF เป็นซอฟต์พาวเวอร์ไทย สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศ เผยเอกลักษณ์เด่น เป็นแมวสีน้ำตาลประกายแดง ขี้อ้อน ขี้เล่น รักที่ หวงถิ่น และรักเจ้าของ

จากกรณีที่ แมวสายพันธุ์ศุภลักษณ์ ได้รับการรับรองสายพันธุ์จาก WCF อย่างเป็นทางการในการประชุมใหญ่ WCF General Assembly 2024 โดย แมวศุภลักษณ์ เป็นแมวพื้นถิ่นสายพันธุ์ไทยโบราณ ที่เรามีความภาคภูมิใจอย่างยาวนานในที่ประชุม โดยขั้นตอนการขออนุมัติรับรองสายพันธุ์ในระบบของ WCF จะต้องมีการรวบรวมข้อมูลของสายพันธุ์นั้นๆ โดยละเอียด ทั้งในด้านประวัติความเป็นมา ลักษณะของสายพันธุ์ และข้อมูลทางพันธุกรรม เพื่อกำหนดเป็นมาตรฐานของสายพันธุ์ (Breed Standard) และยังต้องมีการจัดการประกวดที่เรียกว่า Pre-Recognition Show เพื่อให้กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิจาก WCF ตรวจสอบสายพันธุ์ จนแมว ศุภลักษณ์ ได้การรับรองจาก WCF เมื่อไม่กี่วันที่ผ่าน 

ความคืบหน้าเกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 21 ส.ค. 2567 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่บริเวณ บ้านแมวไทยโบราณ CN Cattery ตำบลรังสิต อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี เพื่อพบกับ นายชนินทร์ มาศสุพงศ์ หรือพี่บอล อายุ 50 ปี เจ้าของบ้านแมวไทยโบราณ CN Cattery (รังสิต) พร้อมทั้งได้พาชมแมวภายในบ้านที่เลี้ยงไว้กว่า 40 ตัว ซึ่งมีหลายสายพันธุ์มาก แต่แมวที่ตามหานั้น คือ แมวศุภลักษณ์ ที่เลี้ยงไว้ที่บ้านนี้จำนวน 2 ตัว และอีก 4 ตัวอยู่ที่บ้านญาติ 

...

นายชนินทร์ กล่าวว่า แมวศุภลักษณ์ของเราทั้งหมดมี 6 ตัว ซึ่งจะเป็นพ่อแมวและแม่แมวจำนวน 3 ตัว สำหรับแมวศุภลักษณ์ลักษณ์ ประวัติคร่าวๆ สมัยก่อนด็อกเตอร์โนรัน ได้นำแมวมาให้กับพี่ปรีชา วัฒนา หรืออาจารย์ปรีชา พร้อมกับจะให้มีการเพาะพันธุ์ให้แมวศุภลักษณ์กลับคืนมาอีกครั้ง เพราะเมื่อสมัยก่อนแมวศุภลักษณ์ได้สูญหายไปสักระยะหนึ่งแล้ว โดยทางอาจารย์ปรีชาก็ได้สืบเสาะหาแมวศุภลักษณ์ และไปได้แมวเพศเมียมาจากทางภาคเหนือ หลังจากนั้นประมาณสองปี แมวศุภลักษณ์คู่แรกของไทยก็ได้กลับมาซึ่งลูกทั้งหมดที่ออกมาจะเป็นสีแดงทั้งหมดนะครับ หลังจากนั้นอาจารย์ปรีชาได้นำแมวศุภลักษณ์ออกมาแจกจ่ายให้กับฟาร์มแมวซึ่งเป็นระดับต้นๆ ของเมืองไทยจำนวนทั้งหมด 14 ฟาร์ม ซึ่งหนึ่งในนั้นคือที่นี่ด้วย 

เจ้าของบ้านแมวไทยโบราณ CN Cattery กล่าวต่อว่า ราคาลูกแมวนั้นปกติเราจะขายอยู่กันที่ประมาณ 15,000 บาท โดยอันนี้จะเป็นราคาที่ขายให้กับประชาชนคนไทยทั่วไป และส่วนพ่อแม่พันธุ์นั้นส่วนใหญ่ฟาร์มแมวจะไม่นิยมขาย จะจำหน่ายเฉพาะลูกแมวทั้งหมด ซึ่งแมวจะเข้าสู่วัยผสมพันธุ์ด้วยอายุประมาณหนึ่งปีขึ้นไป เราก็จะสามารถสืบพันธุ์ได้ ซึ่งช่วงนั้นจะเป็นวัยที่แมวโตเต็มที่ และแมวศุภลักษณ์จะมีอายุอยู่ได้ประมาณ 12 ปี แล้วเวลาให้ลูกออกมา ลูกของแมวก็จะสมบูรณ์แข็งแรง โดยการผสมพันธุ์หนึ่งครั้งจะได้ลูกแมวประมาณ 5-6 ตัว 

นายชนินทร์ กล่าวถึงต้นกำเนิดแมวศุภลักษณ์ว่า แมวชนิดนี้เป็นแมวไทยมาตั้งแต่สมัยโบราณ โดยจริงๆ แล้วแมวศุภลักษณ์โดนบันทึกไว้ในสมุดข่อยโบราณ ซึ่งสมุดดังกล่าวมีอายุไม่ต่ำกว่า 300 ปี แล้วเก็บรักษาไว้ที่หอสมุดแห่งชาติ ซึ่งเป็นฉบับจริง โดยเจ้าแมวศุภลักษณ์จะถูกบันทึกอยู่ในแมวมงคล 17 สายพันธุ์ โดยแมวศุภลักษณ์จะมีคำกลอนอยู่ว่า “หามาเลี้ยงอุปถัมภ์จะได้ยศถาบรรดาศักดิ์โชคลาภ” เพราะฉะนั้นแมวศุภลักษณ์จะเสริมให้คนเลี้ยง เรื่องตำแหน่ง หน้าที่การงาน

...

เมื่อถามว่า แมวศุภลักษณ์ ได้รับการรับรองสายพันธุ์ จาก WCF แล้ว จะเป็นผลดีอย่างไรบ้าง ทั้งในเรื่องการพัฒนา และอนุรักษ์สายพันธุ์เจ้าของบ้านแมวไทยโบราณ CN Cattery กล่าวว่า ส่วนตัวคิดว่าต้องเล่าให้ฟังก่อนว่า เรานำแมวศุภลักษณ์ขึ้นสมาคมแมวโลก โดยเฉพาะ WCF หลายครั้งมาก โดยการพิจารณารองรับไม่ต่ำกว่าสามปี โดยล่าสุดได้รับการอนุมัติที่ประเทศเยอรมนี และผลดีต่อไปก็คือประชาคมโลก ก็จะได้รู้จักแมวศุภลักษณ์มากขึ้น โดยที่เป็นแมวไทยและเป็นต้นตระกูลของแมวไทย ซึ่งหลังจากการรับรองสายพันธุ์แล้วนั้นคนทั่วโลกก็จะหามาเลี้ยงมากขึ้น ซึ่งแมวศุภลักษณ์ที่มีต้นกำเนิดจากประเทศไทย ก็จะสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทย ถ้ามองในมุมของซอฟต์พาวเวอร์ก็ถือว่าเป็นซอฟต์พาวเวอร์ได้ครับ 

...

นายชนินทร์ กล่าวอีกว่า ส่วนจะมีแมวไทยสายพันธุ์ไหนที่จะได้รับการรับรองอีกนั้น โดยปกติการรับรองจากสมาคมแมวโลก ก็จะเป็นแมวโกญจา หรือ โกนจา หรือ แมวดำนำโชค ในอนาคตสมาคมแมวไทยโบราณนานาชาติร่วมกับทางฟาร์มแมวไทยจะร่วมกันผลักดัน แมวโกญจา หรือ โกนจา หรือแมวดำ ให้ขึ้นทะเบียนรับรองของสมาคมแมวโลกให้ได้ครับ  

ส่วนนิสัยและลักษณะเด่นของแมวศุภลักษณ์ก็คือ เป็นแมวที่ขี้อ้อนขี้เล่นรักที่ หวงถิ่น รักเจ้าของ เพราะฉะนั้นลักษณะของแมวศุภลักษณ์จะเป็นสีน้ำตาลประกายแดงทั้งตัว ไม่มีสีอื่นเจือปน และตาก็จะเป็นสีเหลืองหรือสีเหลืองอำพัน ถุงเท้าฝ่าเท้าจะเป็นสีชมพู ร่างกายกำยำล่ำสันอีกด้วย.