กลุ่มแปรรูป "กล้วยลืมเบรก" เจ้าดัง จ.ราชบุรี ยอมขาดทุนรักษาฐานลูกค้า หลังราคากล้วยหอมทองพุ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ตกหวีละ 50-80 บาท เนื่องจากผลผลิตออกมาน้อยจากอากาศร้อนจัด โดยต้องทำตามออเดอร์เท่านั้น รวมทั้งหาอาชีพอื่นทำเป็นรายได้เสริมชั่วคราว

จากกรณีภัยแล้งน้ำขาดแคลน ทำกล้วยหอมและกล้วยน้ำว้าขาดตลาดถึงจุดพีก จนราคาพุ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ทำผู้บริโภคและผู้ประกอบการแปรรูปกล้วยได้รับผลกระทบอย่างหนัก  

ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่สำรวจราคากล้วยหอมและกล้วยน้ำว้า พบในช่วงเดือน ก.ค.-ส.ค. ที่เป็นช่วงกล้วยทุกชนิดมีผลผลิตออกตลาดน้อย ราคาขายหวีละ 25-35 บาท แต่ ณ ปัจจุบันเกิดภัยแล้งตั้งแต่ช่วงต้นปี 67 ที่ผ่านมา ทำให้ราคากล้วยพุ่งสูงตกหวีละ 50-80 บาท ส่วนเหตุผลที่ทำให้กล้วยหอมและกล้วยน้ำว้าพุ่งสูงเป็นประวัติการณ์ เพราะสภาพอาการที่ร้อนจัดในช่วงหน้าแล้ง จนทำให้กล้วยชาวสวนยืนต้นตายเยอะ ส่วนความต้องการเท่าเดิมแต่ผลผลิตแทบไม่มี

...

ทำให้ช่วงเดือน เม.ย.-พ.ค. ที่ผ่านมา มีการนำเข้ากล้วยจากประเทศเวียดนาม ทำให้มีค่าขนส่ง ค่าใช้จ่าย จึงมีการปรับราคาสูงขึ้นจากเดิมมาก ทำให้กล้วยมีราคาแพงขึ้นส่วนหนึ่ง ส่วนกล้วยไทยก็มีผลผลิตบางแต่แพงมาก และแพงที่สุดตั้งแต่เคยขายมา นอกจากนี้ กล้วยหอมมีความต้องการมากในช่วงเทศกาลสารทจีน ทำให้กล้วยหอมยิ่งขาดตลาดหนักและปรับราคาสูงขึ้นไปอีก ซึ่งช่วงนี้กล้วยไทยเริ่มออกผลผลิตแล้ว เพราะฝนตกลงมาแต่คาคการณ์คงอีกหลายเดือน กว่ากล้วยจะกลับเข้าสู่ภาวะราคาปกติ

สภาวะราคากล้วยพุ่งสูงขึ้น ส่งผลให้ผู้บริโภคและผู้ประกอบการแปรรูปได้รับผลกระทบ โดยเฉพาะผู้ประกอบการแปรรูปกล้วย บางรายถึงกับต้องประกาศหยุดกิจการชั่วคราว อย่างผู้ประกอบการแปรรูปกลุ่มแปรรูป (กล้วยลืมเบรก) หมู่ที่ 9 ต.วัดเพลง อ.วัดเพลง จ.ราชบุรี ที่เป็นแหล่งปลูกกล้วยน้ำหอมและกล้วยน้ำหว้ารายใหญ่ ทั้งเป็นผู้ประกอบการรับซื้อกล้วยเพื่อนำมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ โดยเฉพาะนำกล้วยหอมมาแปรรูปเป็นกล้วยฉาบรสชาติต่างๆ มีรสชาติอร่อยจนได้เป็นสินค้าโอทอปของดีประจำ อ.วัดเพลง จ.ราชบุรี ของ น.ส.ปัทมาพร แก้วเลื่อนมา อายุ 57 ปี เจ้าของกลุ่ม

น.ส.ปัทมาพร กล่าวว่า ช่วงหน้าแล้งปี 2567 ที่ผ่านมาแล้งหนักมาก ทำให้กล้วยออกผลผลิตน้อย จึงส่งผลให้ราคากล้วยพุ่งสูงขึ้นเป็นเท่าตัวและเป็นประวัติการณ์ กล้วยที่นำมาแปรรูปเป็นกล้วยฉาบ "กล้วยลืมเบรก" เป็นกล้วยหอม โดยมีราคาที่สูงมาก จากเดิม กก.ละประมาณ 150-200 บาท เพิ่มเป็น กก.ละ 350 บาท ที่สำคัญช่วงตั้งแต่ต้นปี 67 จากสภาวะภัยแล้ง ทำให้กล้วยหอมของเกษตรกรขาดน้ำและยืนต้นตายเป็นจำนวนมาก ส่งผลให้ผู้ปลูกกล้วยหอมได้กล้วยที่ไม่สมบูรณ์และขายไม่ได้ จึงทำให้กล้วยแพงขึ้น ในส่วนของเธอต้องนำกล้วยหอมมาคัดทิ้งอีกครั้ง สมมติกล้วยหอม 5 กก. จะได้เนื้อกล้วยที่นำมาใช้ได้จริงๆ ประมาณ 2.5 กก.เท่านั้นในช่วงนี้ โดยตอนนี้เธอต้องแบกรับต้นทุนวัตถุดิบที่สูงขึ้นแบบก้าวกระโดด เพราะต้องรักษาฐานลูกค้าไว้ ถ้าหยุดทำก็จะเสียลูกค้าไปทันที

...

เจ้าของกลุ่มแปรรูป (กล้วยลืมเบรก) กล่าวต่อว่า ทั้งเธอยังต้องรักษาคนงานของเธอไม่ให้ตกงานไปด้วย ส่วนสาเหตุที่เธอไม่ยอมปรับราคากล้วยที่แปรรูปขึ้น เพราะถ้าขึ้นราคาลูกค้าก็อาจจะเปลี่ยนร้านซื้อ เพราะการปรับราคาขึ้นเป็นเรื่องใหญ่กับสภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ ช่วงนี้ยอมรับว่า มีกล้วยหอมที่จะนำมาแปรรูปเป็นกล้วยฉาบน้อยมาก จึงต้องแก้ปัญหาทำกล้วยฉาบตามออเดอร์เท่านั้น จากที่เคยทำกล้วยฉาบทุกวัน เหลือทำเพียงสัปดาห์ละ 2-3 วันเท่านั้น เพื่อลดต้นทุนเรื่องค่าใช้จ่ายต่างๆ ส่วนคนงานได้หาอาชีพเสริมให้ทำชั่วคราว คือ เหลาก้านไม้กวาดส่งร้านทำไม้กวาด และเย็บกระทงขายเพื่อหารายได้ยามว่าง

...

น.ส.ปัทมาพร กล่าวด้วยว่า กลุ่มอื่นๆ ที่ทำสินค้าแปรรูปจากกล้วยบางราย ถึงขนาดปิดรับออเดอร์และงดทำ เพราะแบกรับราคาวัตถุดิบและผลผลิตที่มีน้อยไม่ไหว เธอคาดว่าหลังจากนี้ประมาณ 2 สัปดาห์ ราคากล้วยหอมอาจจะกลับมาเป็นปกติ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องรอดูสภาพภูมิอากาศร่วมด้วย

สำหรับลูกค้าที่อยากช่วยอุดหนุนกลุ่มแปรรูป "กล้วยลืมเบรก" ซึ่งเป็นผลิตจากกล้วยหอมทอง มีเอกลักษณ์แผ่นบางกรอบ ทานแล้วอร่อยจนเบรกไม่อยู่ เป็นสินค้าโอทอป ของดีประจำ อ.วัดเพลง จ.ราชบุรี สามารถติดต่อสอบถามมาได้ที่เบอร์โทร 032-399059 หรือ 087-1652585 ได้ทุกวัน.