ชาวประมงพื้นบ้าน อ.ละงู จ.สตูล โอดช่วงนี้ราคาปูม้าตกต่ำสุดในรอบ 10 ปี ทำให้ออกเรือไปเก็บลอบแต่ละครั้งรายได้หายกว่าครึ่ง สวนกระแสค่าครองชีพและราคาน้ำมันที่สูงขึ้น โดยราคาตกไป 50-60 บาทต่อ กก. ทำให้ต้องลดค่าใช้จ่ายลงเพื่อให้อยู่ได้ ฝากภาครัฐแก้ปัญหาค่าครองชีพด้วย

ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ ต.แหลมสน อ.ละงู จ.สตูล พบชาวบ้านนำเรือออกกู้ลอบปูม้า ซึ่งถือเป็นวิถีชาวประมงของชาวบ้านในพื้นที่ โดยในทะเลจะมีเรือประมงพื้นบ้านที่ออกไปวางลอบปูม้ากว่า 100 ลำ ปรากฏว่าขณะนี้ชาวประมงอวนปูม้าและลอบปูม้ากำลังได้รับผลกระทบจากปูม้าราคาตกต่ำ สวนกระแสกับค่าครองชีพที่สูงขึ้น โดยปูใหญ่ราคา กก.ละ 300 บาท ปัจจุบันเหลือ 250 บาท ปูกลาง 230 บาท ลดเหลือ 180 บาท และปูเล็กราคา 180 บาท ลดเหลือ 120 บาท ปรับลด กก.ละ 50-60 บาท สวนกระแสกับน้ำมัน และค่าครองชีพที่ปรับสูงขึ้นตลอดเวลา

...

นายดาหรูด หมีนแดง ชาวประมงพื้นบ้าน ต.แหลมสน อ.ละงู กล่าวว่า ตนทำอาชีพประมงพื้นบ้านเรือเล็กออกวางลอบปูม้ามากว่า 20 ปี ปีนี้เป็นปีที่ราคาปูม้าลดราคาต่ำสุดในรอบ 10 ปี ส่งผลกระทบให้ครอบครัวขาดรายได้ไปเกือบครึ่ง จากตอนที่ราคาปกติตนเองมีรายได้อยู่ที่ประมาณ 2,000 บาทต่อวัน หักค่าน้ำมัน ค่าเหยื่อ ค่าลูกน้อง ก็เหลือประมาณ 1,000 บาทต่อวัน ถือว่าเป็นรายได้ที่พอเลี้ยงครอบครัวได้ แต่เมื่อราคาปรับลด ตนเองขายปูได้แค่ประมาณ 1,000 ไม่เกิน 1,200 บาทต่อวัน

ชาวประมงพื้นบ้าน ต.แหลมสน อ.ละงู กล่าวต่อว่า เมื่อหักต้นทุนและค่าลูกน้อง จะมีรายได้เหลือแค่ไม่เกิน 400 บาท ถือว่ารายได้ขาดหายไปมาก เมื่อเปรียบเทียบกับค่าครองชีพที่สูงขึ้นก็แทบจะไม่พอเลี้ยงครอบครัว อยากฝากภาครัฐหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ช่วยหาแนวทางปรับรถค่าครองชีพลงบ้าง จะได้เกิดความสมดุลกับรายได้ที่ชาวประมงพื้นบ้านมี เพื่อให้สามารถเลี้ยงครอบครัวได้ไม่ต้องเป็นหนี้สิน

ส่วน นายอาริส ง๊ะสมัน เจ้าของแพกะเส๊าะ จุดรับซื้อปูม้าในพื้นที่ กล่าวว่า ปีนี้ราคาปูม้าตกต่ำกว่าทุกปี โดยปรับลดจากปีที่แล้วประมาณ 50-60 บาทต่อกิโลกรัม โดยปกติแล้วในช่วงเดือนพฤษภาคมของทุกปีจะเป็นช่วงที่ประมงพื้นบ้านสามารถจับปูได้มากกว่าปกติ ราคาก็จะปรับลดลงแต่ก็ไม่สูงถึงขนาดนี้ หากถามว่าปีนี้ถือว่าปูม้าที่ชาวประมงจับได้หากเปรียบเทียบกับปีที่แล้วยังน้อยกว่ามาก แต่ปีนี้ราคากลับตกต่ำกว่าปีที่ผ่านมาทำให้เดือดร้อนทั้งชาวประมงและแพที่รับซื้อ เนื่องจากทางแพต้องแบกราคาไว้ จะปรับลดมากตามราคาปลายทางที่ส่งไม่ได้

เจ้าของแพกะเส๊าะ กล่าวต่อว่า จากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้บางวันต้องซื้อเท่าราคาส่ง หรือบางวันได้กำไรไม่เกิน 10 บาทต่อกิโลกรัม ซึ่งไม่คุ้มกับความเสี่ยงที่เกิดขึ้น เนื่องจากต้องเสี่ยงกับปูที่ตายด้วย เพราะปูม้าถ้าตายก็จะไม่มีราคาจนปัจจุบันนี้แพรับซื้อบางแพต้องหยุดรับซื้อเพราะไม่สามารถแบกรับภาระได้ นอกจากราคาปูม้าแล้ว ราคาอาหารทะเลต่างๆ ก็ปรับลดเช่นกัน แต่ปูม้าลดมากสุด

...

นายอาริส กล่าวด้วยว่า ชาวประมงในพื้นที่เดือดร้อนมาก เพราะช่วงนี้เป็นช่วงมรสุม ประมงพื้นบ้านเป็นเรือเล็กไม่สามารถออกทำประมงประเภทอื่นได้ จึงอยากฝากภาครัฐช่วยปรับลดราคาสินค้าและค่าครองชีพอื่นๆ ลง โดยเฉพาะค่าน้ำมันซึ่งเป็นปัจจัยหลักของอาชีพประมง ถ้าน้ำมันปรับลดกำไรจากการทำประมงก็จะได้เพิ่มขึ้นมาบ้าง.