ชาวบ้านที่อุทัยธานี เข้าป่าเก็บผักหวานป่าและเห็ดหากินยาก มาขายให้แม่ค้านำมานั่งขายในตลาดสดช่วงฤดูฝน สร้างรายได้เพียงแค่ออกหาก็ได้เงินใช้ โดยผักพื้นบ้านขายกันกำละ 10-20 บาท ส่วนเห็ดเผาะราคาสูงพุ่งถึง 600 คนกินไม่บ่นเพราะหายาก

บรรยากาศที่ตลาดสดเทศบาลเมืองอุทัยธานี ริมแม่น้ำสะแกกรัง ในช่วงนี้จะมีผู้ที่ออกหาผักที่ขึ้นเองธรรมชาติตามป่า หรือเขามาวางขายกันเยอะมากซึ่งบรรดาแม่ค้าที่มานั่งขายบอกว่า ฝนที่ตกลงมานั้นส่งผลดีอย่างมากเนื่องจากผักดังกล่าวนั้นแตกยอด เช่น ผักหวานป่า ช่วงนี้ยอดงามมากเขียวขจี ซึ่งในฤดูนี้ผักหวานจะมีรสชาติอร่อยนำมาผัดน้ำมัน หรือนำมาจิ้มกับน้ำพริก ผู้ที่เคยกินแล้วต่างก็ติดใจในรสชาติ

นอกจากนี้ ยังมีพืชผักที่ขึ้นเองตามหัวไร่ปลายนา เช่น ดอกสลิด ดอกโสน ดอกแค ตำลึง และยังมีผักสวนครัวที่ชาวบ้านปลูกเองปลอดสารพิษ นำมาวางขายกันเยอะมากจนเกลื่อนตลาด ซึ่งในช่วงนี้ราคาผักที่ชาวสวนปลูกแล้วส่งมาขายนั้นแพงมาก ซึ่งผู้บริโภคที่มาเดินตลาดหันมาซื้อพืชผักพื้นบ้านเหล่านี้ และผักที่ขึ้นเองตามธรรมชาติไปรับประทานกัน โดยขายกำละ 10-20 บาท เท่านั้น ส่วนพริกขี้หนูสวนราคาที่แพงลิ่วถึงกิโลกรัมละ 600 บาท ในตอนนี้บรรดาแม่บ้านต่างก็มาเลือกซื้อพริกที่ชาวบ้านปลูกกันเองขายเองราคานั้นถูกกว่ามาก ซึ่งเป็นทางเลือกที่ดีอีกทางหนึ่ง และยังมีผักอย่างอื่นที่ถูกกว่าให้เลือกไปทำกับข้าวกินกันอีกเยอะมาก

...

ในด้านเห็ดเผาะก็ยังมีให้เห็นในตลาดแห่งนี้ โดยเปิดราคาช่วงเริ่มต้นกิโลกรัมละ 600 บาท แต่คนกินก็ไม่เคยจะบ่นเพราะนานๆ จะได้กินเพียงครั้งเดียว และถือว่ายังเป็นของหายากมาก ซึ่งจะมีเพียงแค่คนที่ชำนาญในพื้นที่ป่าเขาเท่านั้นที่จะหาเห็ดชนิดนี้ได้ และต้องรู้ว่าเห็ดนั้นขึ้นบริเวณไหนนั่นเอง โดยคนที่ไม่เคยไปหาเห็ดเผาะก็จะเป็นเรื่องที่ยากมากกว่าจะเจอ

ส่วนเห็ดตับเต่าที่มีสีดำดอกใหญ่ ถือเห็ดอีกหนึ่งชนิดที่หากินยาก และจะมีผู้ที่เคยกินเท่านั้นถึงจะซื้อไปทำอาหารโดยทำได้สารพัดหลากหลาย เช่น แกง ลวกกินกับน้ำพริก ทำแกงอ่อม ซึ่งเป็นแกงของภาคอีสาน ราคากิโลกรัมละ 200 บาท ซึ่งนับว่าตลาดสดแห่งนี้เป็นแหล่งรวบรวมของกิน ตั้งแต่แม่ค้าทำมาขายอย่างอาหารสำเร็จรูป และพืชผักที่ขึ้นเองตามป่าเขาซึ่งยังคงเอกลักษณ์ของวิถีการกินอยู่อย่างชัดเจน.