ไกด์นำเที่ยวภาษาจีน จ.ราชบุรี ขานรับนโยบายฟรีวีซ่า เชื่อกระตุ้นการท่องเที่ยว คนจีนสนใจกลับเที่ยวไทยอีก ชี้ปัญหาค้ามนุษย์ คอลเซ็นเตอร์ บ่อนทำลายความเชื่อมั่น แนะรัฐปรับปรุงแหล่งท่องเที่ยว ห้องน้ำสาธารณะให้มีมาตรฐาน

ตามที่ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่ประกาศกระทรวงมหาดไทย ให้ผู้ถือหนังสือเดินทางหรือเอกสารใช้แทนหนังสือเดินทางจากประเทศจีน และคาซัคสถาน ที่เข้ามาในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวเพื่อการท่องเที่ยว ได้รับการยกเว้นการตรวจลงตรา และให้อยู่ในราชอาณาจักรได้ไม่เกินสามสิบวันเป็นกรณีพิเศษ หรือ “ฟรีวีซ่า” โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 25 ก.ย.66-29 ก.พ. 67 รวมระยะเวลา 5 เดือน

...

ต่อมา เมื่อวันที่ 21 ก.ย. 2566 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ตลาดน้ำดำเนินสะดวก อ.ดำเนินสะดวก จ.ราชบุรี หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวของไทย ที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ พบกับ นายธวัชพนธ์ เปี่ยมสกุล มัคคุเทศก์ภาษาจีน ที่ทำงานด้านท่องเที่ยวมาแล้ว 15 ปี ให้ข้อคิดเห็นประเด็นดังกล่าวว่า แม้วิกฤติโควิด-19 ทั่วโลกจะผ่านพ้นมาได้ระยะหนึ่งแล้ว แต่สถานการณ์การท่องเที่ยวของไทย ยังไม่ฟื้นตัวมากนัก โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจากประเทศจีน ซึ่งถือเป็นกลุ่มที่มีการจับจ่ายซื้อสินค้ามากเป็นอันดับหนึ่ง ทั้งนี้ นโยบายฟรีวีซ่าของรัฐบาล อาจเป็นแนวทางหนึ่งที่ช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ได้มากขึ้น 

มัคคุเทศก์ภาษาจีน กล่าวอีกว่า ส่วนตัวมีโอกาสพูดคุย กับลูกทัวร์ชาวจีนหลายคนที่ทราบถึงนโยบายนี้ ต่างบอกว่าจะกลับมาเที่ยวอีกในเร็วๆ นี้ อย่างแน่นอน เพราะช่วยทำให้สะดวกในการเดินทางมากขึ้น แม้ปัญหาข่าวเรื่องการค้ามนุษย์ ระหว่างคนจีนกับคนจีนเอง โดยใช้สถานที่ก่อเหตุในประเทศไทย ทั้งถูกจับเรียกค่าไถ่ ไกด์เถื่อน และลวงไปเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ตามตะเข็บชายแดนประเทศเพื่อนบ้าน เป็นอีกหนึ่งสาเหตุสำคัญ ที่ทำลายบรรยากาศและความเชื่อมั่น ทำให้นักท่องเที่ยวจีนส่วนหนึ่ง กังวลที่จะเดินทางมายังประเทศไทย ดังนั้นหากรัฐบาลสร้างภาพลักษณ์ และเพิ่มมาตรการความปลอดภัยให้นักท่องเที่ยว ก็จะสามารถแก้ปัญหา และช่วยเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวได้มากขึ้น

นายธวัชพนธ์ กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ อยากฝากถึงรัฐบาลเพิ่มเติม ในเรื่องของการฟื้นฟูสถานที่ท่องเที่ยวให้มีความสะดวก สะอาด และปลอดภัย ก็เป็นสิ่งสำคัญ ที่จะดึงดูดให้นักท่องเที่ยวมีความประทับใจ และอยากกลับมาท่องเที่ยวอีกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นแม่น้ำลำคลอง ถนน และห้องน้ำที่ปัจจุบันในสถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่ง ยังมีไม่เพียงพอและไม่ได้มาตรฐาน รวมถึงมาตรการควบคุมราคาสินค้าตามแหล่งท่องเที่ยว เพื่อไม่ให้เป็นการเอาเปรียบนักท่องเที่ยว จนส่งผลเสียต่อภาพลักษณ์ของประเทศ.