ชาวบ้านที่ ต.หนองแก อ.เมืองอุทัยธานี แห่มารอคิวรองน้ำแร่กลับไปดื่มกินที่บ้าน โดยเปิดให้รองน้ำแค่ 2 เวลา เช้ากับเย็นครั้งละ 2 ชม. เผยดีใจมีน้ำแร่ดื่มกินฟรีๆ แถมคุณภาพรสชาติดีเหมือนที่ใส่ขวดขาย

เมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2566 ที่บริเวณหมู่ที่ 1 บ้านห้างนา ตำบลหนองแก อำเภอเมือง จังหวัดอุทัยธานี ซึ่งเป็นจุดบริการน้ำแร่ธรรมชาติของ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้มาขุดบ่อไว้ในโครงการพัฒนาน้ำบาดาลเพื่อความมั่งคงระดับชุมชน มีชาวบ้านที่อยู่บริเวณ บ้านกลางเขา บ้านหนองแก ชาวบ้านที่อยู่ริมเขาสะแกกรังและคนที่อยู่ในอำเภอเมือง นำถังน้ำ ขวดน้ำ มารองน้ำแร่มารองน้ำไปดื่มและหุงข้าวกัน โดยผู้ที่มารองน้ำเพื่อที่จะนำกลับไปบ้านนั้นบางรายก็นำรถกระบะมาใส่ เพราะสมาชิกครอบครัวที่บ้านนั้นมีเยอะ จึงนำภาชนะมาเต็มกระบะหลังรถยนต์ บางรายบ้านอยู่ใกล้ๆ ก็นำขวดน้ำอัดลม ขวดน้ำดื่มที่ผ่านการใช้งานมาแล้วนำมาล้างให้สะอาดแล้วเอาไว้มารองน้ำแร่แห่งนี้นำไปใช้

...

ชาวบ้านที่มารอคิวรองน้ำกลับไปบ้าน กล่าวว่า จุดบริการน้ำแร่บ้านหนองแกแห่งนี้เปิดบริการให้ประชาชนนั้นมาใช้แบบฟรี น้ำนั้นดื่มได้ทันทีโดยไม่ต้องไปกรองอะไรอีก แถมรสชาติของน้ำนั้นเป็นน้ำแร่ธรรมชาติแบบที่ขายกันในท้องตลาดเลยก็ว่าได้ ไม่มีสีหรือกลิ่นอะไรมาเจือปน คุณภาพน้ำนั้นใสบริสุทธิ์อย่างมาก ที่จุดบริการน้ำแร่แห่งนี้จึงเป็นที่นิยมมาก แม้ทางผู้ดูแลเป็นกำนันของหมู่บ้านจึงต้องนำป้ายมาติดไว้ว่า ในช่วงเช้านั้นจะเปิดบริการให้มารองน้ำแร่ในเวลา 07.00 น. ถึง 08.00 น. และในช่วงเย็นนั้นตั้งแต่เวลา 17.00 น. ถึง 18.00 น. หรือวันละ 2 ชั่วโมง

ดังนั้นเวลา 2 ชั่วโมงนี้จึงเป็น 2 ชั่วโมงที่เป็นเวลาทอง หรือมีค่าเลยก็ว่าได้ เพราะต้องนำถังน้ำมารอคิวหากเลยเวลาจากนี้ไปน้ำก็จะหยุดไหล ก็ต้องมาในวันต่อไป แม้จะเป็นแบบนี้ แต่ก็ไม่มีใครต่อว่ากัน ต่างก็ยังมารอคิวกันเหมือนเดิม เพราะในช่วงเข้าหน้าแล้งแบบนี้น้ำประปาในหมู่บ้านนั้นจะไม่ค่อยไหล ก็เพราะแหล่งน้ำดิบหรือบ่อน้ำนั้นจะแห้งขอดเหมือนกันแทบจะทุกที่

...

จุดบริการน้ำแร่แห่งนี้เป็นที่พึงพอใจของชาวบ้านอย่างมาก เพราะประหยัดไม่ต้องซื้อน้ำดื่ม เพราะน้ำนั้นผ่านการกรองจนเป็นน้ำแร่ แถมยังนำไปใช้หุงข้าวทำอาหารได้แบบปลอดภัยอีกด้วย โดยจุดบริการน้ำแร่เหมือนที่บ้านหนองแกแห่งนี้มีทุกอำเภอซึ่งเป็นโครงการของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นับว่าเป็นประโยชน์ต่อชาวบ้าน หรือชุมชนอย่างแท้จริง.