กลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกทุเรียน ต.บ้านส้อง อ.เวียงสระ จ.สุราษฎร์ธานี ผนึกกำลังควบคุมคุณภาพพันธุ์หมอนทอง สร้างรายได้ให้กับสมาชิกได้ถึง 300 กว่าล้านบาท มากกว่าปีที่แล้ว 2 เท่า
เมื่อวันที่ 28 มิ.ย.64 นายบุญเลื่อง หนูช่วย ประธานกลุ่มแปลงใหญ่ทุเรียน ต.บ้านส้อง อ.เวียงสระ จ.สุราษฎร์ธานี เปิดเผยว่า แต่เดิมเกษตรกรในพื้นที่ปลูกทุเรียนพันธุ์ชะนีกันอยู่แล้ว ปกติจะสามารถจำหน่ายได้เพียง ก.ก.ละ 20-30 บาท ทำให้ประสบปัญหาขาดทุน และขาดรายได้ที่เป็นธรรม เนื่องจากขาดองค์ความรู้ในการพัฒนาคุณภาพผลผลิต รวมไปถึงตลาดที่จะจำหน่ายผลผลิตให้ได้ราคาตามที่ควรจะได้รับ จนกระทั่งในปี 2560 กรมส่งเสริมการเกษตร โดยสำนักงานเกษตร จ.สุราษฎร์ธานี และสำนักงานเกษตร อ.เวียงสระ ได้เข้ามาส่งเสริมสนับสนุนให้เกษตรกรรวมกลุ่มกันเป็น "แปลงใหญ่ทุเรียนตำบลบ้านส้อง" เริ่มแรกมีสมาชิกจำนวน 30 ราย พื้นที่ปลูกจำนวน 312 ไร่ สามารถรวบรวมผลผลิตไปจำหน่ายได้ราคาอยู่ที่ 80-100 บาทต่อก.ก. จึงมีการพัฒนาผลผลิตกันมาอย่างต่อเนื่อง

ซึ่งปัจจุบันมีสมาชิกเพิ่มขึ้นเป็น 56 ราย พื้นที่ปลูกรวมจำนวน 560 ไร่ แบ่งเป็นปลูกทุเรียนพันธุ์หมอนทอง 95% และทุเรียนพันธุ์ชะนี 5% ได้ผลผลิตทุเรียนพันธุ์หมอนทอง รวมทั้งหมดประมาณ 1,400 ตันต่อปี ในขณะที่ทุเรียนพันธุ์ชะนี เกษตรกรจะปลูกเพื่อบริโภคในครอบครัว และตัดขายในพื้นที่ ซึ่งผลผลิตของกลุ่มฯได้รับการรับรองมาตรฐาน GAP ทุกแปลง โดยในปี 2564 นี้ผลผลิตทุเรียนพันธุ์หมอนทองสามารถจำหน่ายได้ถึง 150-160 บาทต่อก.ก. สามารถสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรสมาชิกได้ถึง 300 กว่าล้านบาท ซึ่งมากกว่าปีที่แล้วถึง 2 เท่า และมีการควบคุมคุณภาพผลผลิต ตั้งแต่การออกดอกของทุเรียน โดยจะคัดเลือกตัดดอกที่อยู่ปลายกิ่งทุเรียนทิ้ง เน้นลูกที่อยู่โคนกิ่ง และดูแลคุณภาพตอนออกลูก ซึ่งผลผลิตต้องมี 4 พูขึ้นไป น้ำหนักอยู่ที่ 2-6 ก.ก.ต่อลูก จึงจะเป็นที่ต้องการของตลาด
...

ด้านนายชัยพร นุภักดิ์ เกษตรจังหวัดสุราษฎร์ธานี กล่าวว่า ในปี 2564 กรมส่งเสริมการเกษตรมีส่งเสริมการพัฒนาคุณภาพผลผลิตให้ได้รับการรับรองคุณภาพมาตรฐานอย่างต่อเนื่อง โดยส่งเสริมให้เกษตรกรใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามาช่วย ประกอบกับในขณะนี้ในพื้นที่ประสบปัญหาขาดแคลนแรงงาน เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค COVID-19 กรมส่งเสริมการเกษตรจึงสนับสนุนการใช้เครื่องจักรที่ทันสมัยมาช่วยทุ่นแรงในการผลิตปุ๋ยชีวภาพ อีกทั้งกลุ่มแปลงใหญ่ทุเรียน ต.บ้านส้อง ได้รับเงินทุนสนับสนุนจากโครงการยกระดับแปลงใหญ่ด้วยเกษตรสมัยใหม่และเชื่อมโยงตลาด จำนวนเงิน 2,900,000 บาท ซึ่งอยู่ในช่วงดำเนินการในการจัดซื้อเครื่องผสมปุ๋ยชีวภาพ เพื่อจะผลิตและกระจายปุ๋ยให้กับสมาชิกได้นำไปใช้ เพื่อลดต้นทุนการผลิตต่อไป.
