2 ผัวเมีย รับซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าเก่า ผงะ พบโครงกระดูกปริศนาในตู้แช่แข็งเก่า เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบเบื้องต้น ยังไม่มีส่วนไหนบ่งชี้ได้ว่าเป็นของมนุษย์
จากกรณีที่มีผู้ใช้เฟซบุ๊ก "Ta Ta" ได้โพสต์ข้อความลงในกลุ่มปราจีนบุรี เล่าถึงกรณีที่มีลูกค้าโทรมาขายตู้แช่ ซึ่งมีถุงปุ๋ยอยู่ด้านใน แต่พอเปิดดูก็พบกับชิ้นส่วนของกระดูกซี่โครงจำนวนมาก จึงตัดสินใจที่จะไม่ซื้อแล้วพากันขึ้นรถกลับ ซึ่งหลังจากเรื่องราวดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไป ต่างก็มีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมากนั้น
ต่อมา ผู้สื่อข่าวได้สอบถามผู้โพสต์ ให้ข้อมูลว่า ตนเองเป็นคนรับซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าเก่า ซึ่งได้มีการโพสต์รับซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าเก่าในเขตพื้นที่ปราจีนบุรี หลังจากนั้นได้มีลูกค้าท่านหนึ่งโทรมาแล้วบอกว่าจะขายตู้แช่เก่า หลังจากนั้นก็ได้โทรคุยกัน แต่ขอไลน์ ขอเฟซก็ไม่ให้ ได้ติดต่อกันทางเบอร์โทรเท่านั้น และนัดกันให้ไปเจอแถว อบต.บ้านพระ เขตเมืองปราจีนบุรี หลังจากที่ไปตามนัด ทางลูกค้าก็ได้ขี่รถจักรยานยนต์มารับ ขับไปตามทางไม่ไกลมาก ซึ่งสถานที่ที่จะไปดูตู้ เบื้องต้นคาดว่าน่าจะเป็นฟาร์มเก่าร้าง
หลังจากที่คุยเรื่องราคาอะไรกันเสร็จสรรพเรียบร้อย ได้เปิดตู้แช่ทีแรกก็ไม่มีอะไร เห็นมีถุงกระสอบปุ๋ยวางอยู่ในตู้ ได้หยิบขึ้นมาพบว่า มีโครงกระดูกคล้ายกระดูกมนุษย์ ไม่มีหัว แต่ตนเองค่อนข้างที่จะมั่นใจว่าเป็นโครงกระดูกมนุษย์
จากการสอบถามคนที่พาเข้าไปซื้อตู้แช่ ได้เล่าบอกว่าไม่เคยเปิดตู้หลังนี้ และอ้างว่าไม่ใช่เจ้าของตู้แช่ แต่เป็นคนดูแล ซึ่งเบื้องต้นตนเห็นสภาพและเห็นโครงกระดูกก็เลยไม่ซื้อ ได้ถามว่าเจ้าของฟาร์มหมูเป็นใคร ทางผู้ที่พามาบอกว่า บอกไม่ได้ ตนเลยตอบกลับไปว่า ถ้าไม่บอกว่าเจ้าของเป็นใครก็ซื้อไม่ได้ เพราะถ้าซื้อไปก็เท่ากับรักของโจร
...
หลังจากนั้นตนและแฟนก็ได้ออกมาจากที่เกิดเหตุ แต่มันไม่หยุดเพียงเท่านั้น มันมีเรื่องประหลาดเกิดขึ้น อยู่ดีๆ ตู้ลำโพงที่ตนเองใช้ฟังข่าวอยู่นั้นได้ร่วงลงมา ทำให้ตนและแฟนตกใจ ซึ่งก็ได้กล่าวลอยๆ คิดในใจไปว่า ที่ตนไปไม่ได้กะว่าไปลบหลู่ เพียงแต่จะไปดูสินค้า แต่อย่างไร ถ้าเกิดเป็นโครงกระดูกมนุษย์ หรือรับรู้ในเรื่องนี้ตนและแฟนจะทำบุญไปให้
ต่อมา เมื่อช่วงสายของวันที่ 12 พฤศจิกายน 2567 พ.ต.อ.ทนงศักดิ์ คำมาตย์ ผกก.สภ.เมืองปราจีนบุรี ได้ประสานทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ผู้นำชุมชน พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ทำการตรวจสอบบริเวณฟาร์มหมูร้าง ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่หมู่ 7 ต.บ้านพระ อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี พบว่าจุดที่ได้รับแจ้ง เป็นฟาร์มหมูเก่ามีต้นไม้ขึ้นรกหนาทึบ บริเวณจุดที่พบกระดูกปริศนา อยู่บริเวณใต้หลังคาใกล้กับคอกหมูโดยพบตู้แช่สีขาววางอยู่
จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ พบกระสอบปุ๋ยจำนวน 2 กระสอบ มีคราบเลือดอยู่ โดยบริเวณใต้กระสอบพบกระดูก ไม่ทราบว่าเป็นกระดูกของมนุษย์ หรือกระดูกสัตว์ ทางเจ้าหน้าที่ได้นำกระดูกที่พบมาเรียงใส่ผ้าสีขาว โดยพบว่าเป็นกระดูกลักษณะคล้ายซี่โครง และกระดูกช่วงสันหลัง จำนวน 67 ชิ้น และยังมีกระดูกข้อต่อที่เป็นชิ้นเล็กๆ อีกจำนวนหนึ่ง
เบื้องต้น จากการสอบถามทางเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน แจ้งว่า กระดูกที่พบ ยืนยันว่าไม่ใช่กระดูกของมนุษย์ เนื่องจาก กระดูกรยางค์ พบว่าเป็นกระดูกที่สั้นไม่คล้ายกับกระดูกของมนุษย์ ส่วนกระดูกสันหลัง หรือสไปนัสโพรเซส ลักษณะที่ยาวเกินไป ไม่คล้ายกับกระดูกของคน และกระดูกที่พบในจุดที่รับแจ้งไม่พบกระดูกเชิงกราน หรือกะโหลกของมนุษย์
ทางด้าน นายไพรวัลย์ สุขยิ่ง คนดูแลฟาร์ม ให้ข้อมูลว่า ตนเองได้ดูแลฟาร์มอย่างนี้มาเป็นเวลานานแล้ว ซึ่งเท่าที่ผ่านมา ก็ไม่เคยมาเปิดตู้หลังนี้ โดยเมื่อวานนี้จะขายตู้จึงได้ติดต่อทางผู้รับซื้อ หลังจากมาเปิดตู้ พบเห็นว่าเป็นโครงกระดูก ตนและผู้ซื้อเองก็ตกใจ ซึ่งตนดูแล้วถ้าเป็นโครงกระดูกมนุษย์ ก็จะต้องมีกะโหลกศีรษะ ตนจึงไม่ได้เอะใจอะไร เลยไม่แจ้งให้หน่วยงานเข้ามาตรวจสอบ เพราะยังไม่มั่นใจว่าเป็นโครงกระดูกอะไร
ซึ่งตนเองยังเชื่อมั่นว่าเป็นกระดูกหมู เพราะเนื่องจากที่นี่เป็นฟาร์มหมูเก่า แล้วตอนนี้เชื่อมั่นว่ากระดูกที่พบหน้าจะเป็นโครงกระดูกหมู ส่วนการเข้าออกของฟาร์มแห่งนี้ หลังจากที่ปล่อยร้างไป ก็จะมีเพียงแต่พวกที่มาลักขโมยของเท่านั้น ที่จะเข้าออกในฟาร์มแห่งนี้ได้
...
ทางด้าน พ.ต.อ.ทนงศักดิ์ คำมาตย์ ผกก.สภ.เมืองปราจีนบุรี ที่ลงตรวจสอบพื้นที่ กล่าวว่า เบื้องต้นจากการตรวจสอบในที่เกิดเหตุ พร้อมกับแพทย์เวรโรงพยาบาลศูนย์เจ้าพระยาอภัยภูเบศร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หลังจากมีการเผยแพร่เป็นวงกว้างในโซเชียล โดยในวันนี้หน่วยงานฝ่ายความมั่นคงและเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมด้วยแพทย์เวรโรงพยาบาลศูนย์เจ้าพระยาอภัยภูเบศรได้เข้าตรวจสอบในที่เกิดเหตุ
โดยเข้าทำการตรวจสอบพิสูจน์ให้กระจ่างว่า โครงกระดูกที่พบในตู้แช่นั้น เป็นโครงกระดูกมนุษย์หรือสัตว์ จากการส่งภาพให้กับทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญได้พิสูจน์ในเบื้องต้นแล้ว โครงกระดูกดังกล่าวไม่สามารถเข้ากันได้กับโครงกระดูกของมนุษย์ทั่วไป โดยไม่มีส่วนไหนบ่งชี้ได้ว่าเป็นโครงกระดูกมนุษย์ แต่อย่างไรก็ตาม จะได้ทำการส่งให้กองพิสูจน์หลักฐานเพื่อตรวจสอบอีกครั้ง ทั้งนี้อยากจะฝากการลงข้อมูลข่าวสารในโลกโซเชียล ให้ท่านแจ้งทางเจ้าหน้าที่ให้รับทราบ เพื่อที่จะได้ส่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบ เพื่อที่จะไม่ให้เกิดความแตกตื่น
เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้นำกระดูกที่พบในจุดที่ได้รับแจ้ง ส่งมอบให้กับทางตำรวจพิสูจน์หลักฐาน นำไปทำการพิสูจน์ เพื่อระบุว่าเป็นกระดูกของมนุษย์ หรือกระดูกสัตว์ชนิดใด เพื่อให้หายความเคลือบใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น.