“บิ๊กก้อง” ฉุนเรือน้ำมันเถื่อนของกลางหายคืนเดียว 3 ลำ พร้อมน้ำมัน 3.3 แสนลิตร ขณะจอด เก็บไว้ที่สถานีตำรวจน้ำสัตหีบ ชี้ตำรวจบกพร่องสั่งตั้งกรรมการสอบพร้อมมอบ “รองเต่า” มือปราบตงฉินไขคดี เบื้องต้นพบเรือทั้งหมดถูกตำรวจ ปอศ. จับมา 5 ลำ ก่อนเกิดเหตุมีพายุเข้า สะพานตำรวจน้ำ รับน้ำหนักไม่ได้สั่งให้เรือทั้งหมดไปทอดสมอห่างสะพาน 100 เมตร เมื่อคืนยังพบว่าเปิดไฟอยู่จนช่วง 4 ทุ่ม ถึงดับไฟ เช้ามาถึงรู้ว่าเรือที่มีน้ำมันเถื่อน 3 ลำหายจ้อย เหลือแต่เรือเปล่า 2 ลำให้ดูต่างหน้า แฉทั้งหมดเป็นเครือข่าย “โจ้ปัตตานี” เจ้าพ่อน้ำมันเถื่อน ที่ยังหลบหนี
ผบช.ก.ยัวะ เรือน้ำมันเถื่อนของกลางหาย 3 ลำ พร้อมน้ำมัน 3.3 แสนลิตร เปิดเผยขึ้นเมื่อวันที่ 12 มิ.ย. ที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. เปิดเผยว่า ได้รับแจ้งจากกองบังคับการตำรวจน้ำ (บก.รน.) ว่า เรือบรรทุกน้ำมันของกลางขนาดใหญ่ 3 ลำ บรรจุน้ำมันรวมกว่า 3 แสนลิตร หายไปจากท่าเทียบเรือ ตำรวจน้ำสัตหีบ จ.ชลบุรี ขณะนี้กำลังสืบสวนหาข้อเท็จจริง เบื้องต้นสั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก.ไปตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยด่วน พร้อมให้กองบังคับการตำรวจน้ำ ตั้งกรรมการสอบสวน เป็นการด่วน ให้รายงานผลให้ตนทราบโดยเร็วที่สุด
สำหรับที่มาของเรื่องนี้ เมื่อเช้าวันที่ 12 มิ.ย. พ.ต.ท.กอบชัย โตอ่อน สารวัตรสถานีตำรวจน้ำ 3 กองกำกับการ 5 กองบังคับการตำรวจน้ำ (สว.ส.รน.3 กก.5 บก.รน.) สถานีตำรวจน้ำสัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ทำหนังสือรายงานถึง บก.รน.ระบุว่า เรือของกลาง 3 ลำ จอดทิ้งสมอในระยะปลอดภัย ระยะห่างจากสะพาน ตำรวจน้ำประมาณ 100 เมตร ได้หายไป เหตุเกิดเมื่อ วันที่ 12 มิ.ย. เวลา 06.00 น. โดยเรือของกลาง 3 ลำ ประกอบด้วย 1.เรือเจ.พี. พร้อมของกลางน้ำมันเถื่อนประมาณ 80,000 ลิตร พร้อมลูกเรือ 7 คน เรือซีฮอต พร้อมน้ำมันเถื่อนประมาณ 150,000 ลิตร พร้อมลูกเรือ 6 คน และเรือดาวรุ่ง พร้อมน้ำมันเถื่อนประมาณ 100,000 ลิตร พร้อมลูกเรือ 5 คน หายไปจากจุด ทิ้งสมอ เนื่องจากตั้งแต่วันอาทิตย์ที่ 9 มิ.ย. มีพายุเข้า ในพื้นที่ อ.สัตหีบ มีกระแสลมแรง สะพานตำรวจน้ำ ไม่สามารถรองรับน้ำหนักเรือของกลางที่จอดอยู่หัวสะพานได้ จึงให้เรือของกลางออกลอยลำทิ้งสมอในระยะปลอดภัยระยะห่างจากสะพานท่าเทียบเรือตำรวจน้ำประมาณ 100 เมตร หลังทราบเรื่อง ตำรวจน้ำ สัตหีบนำเรือตรวจการณ์ 815 และเรือตรวจการณ์ 632 ออกค้นหาแต่ยังไม่พบ
...
ด้าน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก.กล่าวว่า ในวันที่ 13 มิ.ย. จะไปตรวจสอบจุดเกิดเหตุ บริเวณท่าเทียบเรือตำรวจน้ำ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี เบื้องต้นได้รับรายงานว่า เมื่อวันที่ 17 มี.ค.ที่ผ่านมา ตำรวจ กก.2 บก.ปอศ. จับกุมเรือบรรทุกน้ำมันเถื่อนได้ทั้งหมด 5 ลำ เป็นเรือเปล่า 2 ลำ โดยเรือของกลางทั้งหมดจอดรวมกันที่สะพานตำรวจน้ำสัตหีบ ในวัน เกิดเหตุได้เกิดพายุลมแรง ตำรวจให้ลูกเรือนำเรือของกลางทั้งหมดออกไปทอดสมอห่างจากฝั่งประมาณ 100 เมตร เบื้องต้นทราบว่าตำรวจที่เข้าเวรยังมองเห็น เรือดังกล่าวเปิดไฟเมื่อเวลา 20.00 น. วันที่ 11 มิ.ย. กระทั่งช่วงเวลา 22.00 น. เรือทั้งหมดได้ดับไฟจนถึง ช่วงเช้าถึงพบว่าเรือที่มีน้ำมันเถื่อน 3 ลำ หายไปแล้ว กำลังเร่งคลี่คลายคดีอย่างเร็วที่สุดโดยประสานงานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องออกค้นหาทั้งทางเรือและทางอากาศ เนื่องจากของกลางหายเป็นสิ่งที่ไม่ควรเกิดขึ้น เพราะอยู่ในความควบคุมของตำรวจ สั่งการให้เร่งหา ลูกเรือมาสอบสวน ขณะเดียวกันสั่งการให้ พล.ต.ต.พฤทธิพงศ์ นุชนารถ ผบก.รน. ตั้งกรรมการสอบสวนให้ได้ข้อเท็จจริงโดยเร็วที่สุด และหาผู้กระทำผิดมารับผิดชอบต่อไป
มีรายงานว่า สำหรับเรือทั้ง 3 ลำที่หายไปครั้งนี้ เป็นเครือข่ายของ “โจ้ น้ำมันเถื่อน” หรือ “โจ้ ปัตตานี” ซึ่งเป็นขบวนการค้าน้ำมันเถื่อนรายใหญ่ในภาคใต้ ที่หลบหนีหมายจับคดีน้ำมันเถื่อนหลายคดีอยู่ในต่างประเทศ