ชาวบ้านหนองพะวา จ.ระยอง อุ้มพระไม้แกะสลักรูปเหมือนอดีตเจ้าอาวาสวัดหนองพะวา มาฟังผลตรวจเลือด เอกซเรย์ปอด หวังขอให้ปกปักรักษาชาวบ้าน และผ่านพ้นวิกฤติสารเคมีโรงงานวินโพรเสสไปได้โดยเร็ว หลังต่อสู้มา 10 ปี วันนี้ขอให้จับมือร่วมกันสู้ให้ชนะ
วันที่ 23 พ.ค. 67 นายวิเชียร ทวีวงศ์ อายุ 52 ปี นายฉลวย รัตนเกตุ อายุ 61 ปี นายกมล ประกอบสุข อายุ 56 ปี ชาวบ้านหนองพะวา ได้พากันอุ้มพระไม้แกะสลักรูปเหมือนหลวงพ่อนาค นาคเสโน อดีตเจ้าอาวาสวัดหนองพะวา ซึ่งแกะจากไม้ทั้งชิ้นด้วยฝีมือตัวเอง เดินทางมาฟังผลการตรวจเลือดจากเจ้าหน้าที่ รพ.บ้านค่ายและ รพ.เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี (มาบตาพุด) ซึ่งมีชาวบ้านหนองพะวา มาฟังผลเลือด และเอกซเรย์ปอดกว่า 200 คน
นายวิเชียร เปิดเผยว่า สาเหตุที่อุ้มพระไม้แกะสลักรูปเหมือนอดีตเจ้าอาวาสวัด เนื่องจากต้องการให้สื่อถึงการเป็นที่พึ่งทางใจของชาวบ้านที่กำลังประสบอยู่ในขณะนี้ ซึ่งอยากให้ท่านได้ช่วยปกปักรักษาชาวบ้านหนองพะวาให้อยู่รอดปลอดภัยทุกคน และให้ผ่านพ้นวิกฤตินี้ไปโดยเร็วที่สุดด้วย
"ปัญหา โรงงานวินโพรเสส ชาวบ้านได้ต่อสู้มานับ 10 ปี ตั้งแต่ปี 2556 เริ่มตั้งแต่การทำประชาพิจารณ์สร้างโรงงาน ซึ่งชาวบ้านไม่เห็นด้วย 180 เสียง โดยกลุ่มชาวบ้านหนองพะวา รักษ์บ้านเกิด ต่อต้านรวม 10 วัน 10 คืน แต่ก็ต้องพ่ายแพ้ในขณะนั้น จนถึงปัจจุบันแกนนำล้มหายตายจากไปหลายคนแล้ว ซึ่งชาวบ้านรู้ทั้งหมดว่าที่แพ้ตอนนั้นเกิดจากสาเหตุอะไร มาถึงวันนี้ก็อยากให้ผู้นำชุมชนยอมรับความจริงและทำตามที่ชาวบ้านต้องการ ซึ่งการต่อสู้แบบไม่จริงใจชาวบ้านไม่ต้องการอีกแล้ว อยากให้หันหน้ามาคุยแก้ไขปัญหากันให้มันเป็นบทเรียนสำหรับพื้นที่อื่นด้วย"
อย่างไรก็ตามอยากฝากรัฐบาล หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้เร่งนำสารเคมีออกไปให้เร็วที่สุด แล้วก็ดูดน้ำไปให้หมดด้วย และขอให้เยียวยาประชาชนทุกครัวเรือน รวมทั้งอยากจะให้เห็นภาพการเอาคนผิดมาลงโทษโดยเร็ว
...
ส่วนนายกมล กล่าวว่า ก่อนโรงงานมาตั้ง ชาวบ้านหนองพะวาแตกเป็น 2 ฝั่ง มีชาวบ้านต่อต้านโรงงาน และมีชาวบ้านกลุ่มไม่เห็นดัวยกับชาวบ้านที่ไม่เอาโรงงาน มีเพียงชาวบ้านในพื้นที่ ต.หนองบัว ที่มาช่วยต่อต้านโรงงาน จนปัจจุบันเหตุการณ์ถึงได้เป็นแบบนี้ ที่ผ่านมาพวกเราไม่ได้นิ่งนอนใจ ไปร้องทุกส่วนราชการ แต่ไม่เคยประสบความสำเร็จแม้แต่ครั้งเดียว แต่ก็ยังสู้มาตลอด ซึ่งในเมื่อเหตุการณ์มันเป็นแบบนี้แล้ว อยากให้ชาวบ้านได้ร่วมมือ ร่วมใจ สามัคคีกัน เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าวให้ผ่านพ้นไปโดยเร็วที่สุด.