ชาวบ้านที่อยู่ใกล้โกดังเก็บกากสารเคมีระเบิดที่ จ.ระยอง ผวาสารพิษตกค้างตามแหล่งน้ำ หลังเกิดผื่นคันและตุ่มใสตามผิวหนัง ไม่เว้นแม้แต่พระสงฆ์มีอาการเดียวกัน สาธารณสุขจังหวัดต้องนำเจ้าหน้าที่ไปตรวจดูอาการ ขณะที่กรมทรัพยากรน้ำบาดาลนำรถขุดเจาะบาดาลไปเก็บตัวอย่างน้ำใต้ดินและดินรอบโกดังตรวจพิสูจน์ ด้านเอสซีจีซีแจงกรณีโซเชียลตีข่าวบริษัทไล่พนักงานวิ่งหนีไฟออกหลังเกิดระเบิดไฟไหม้แท็งก์เก็บสารเคมีที่มาบตาพุด ยันทุกคนยังทำงานปกติ ไม่มีการไล่ใครออกทั้งสิ้น

เจ้าหน้าที่กรมทรัพยากรน้ำบาดาลนำรถขุดเจาะบาดาลเก็บตัวอย่างน้ำสงสัยปนเปื้อนสารพิษจากเหตุเพลิงไหม้โกดังเก็บกากสารเคมี ทำชาวบ้านข้างเคียงที่ใช้น้ำมีอาการผื่นคัน โดยเมื่อช่วงสายวันที่ 14 พ.ค. เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการตรวจคุณภาพน้ำใต้ดินเคลื่อนที่ กรมทรัพยากรน้ำบาดาล นำรถขุดเจาะบาดาลไปขุดเจาะน้ำบาดาลเพื่อเก็บตัวอย่างน้ำใต้ดินและดินรอบโกดังเก็บกากสารเคมีอุตสาหกรรม บริษัท วิน โพรเสส ต.บางบุตร อ.บ้านค่าย จ.ระยอง ที่เกิดเหตุเพลิงไหม้เมื่อวันที่ 22 เม.ย.ที่ผ่านมา เพื่อนำไปตรวจหาสารเคมีซึมใต้ดิน มีการรังวัดพื้นที่เทียบความสูงของภูมิประเทศและการขุดเจาะ เพื่อตรวจสอบหาทิศทางน้ำไหล หลังมีชาวบ้านที่อาศัยอยู่ใกล้โกดังใช้แหล่งน้ำแล้วเกิดผื่นคันและตุ่มขึ้นตามผิวหนัง

...

ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัดระยองเปิดบริการตรวจสุขภาพให้ประชาชนในพื้นที่ใกล้เคียงที่ได้รับผลกระทบจากเหตุไฟไหม้ดังกล่าวที่ รพ.สต.หนองพะวา ต.บางบุตร อ.บ้านค่าย มีชาวบ้านทยอยมาตรวจจำนวนมาก หลายรายเกิดผื่นคันตามผิวหนัง โดยเฉพาะนายรุ่งโรจน์ ช้อนกลาง อายุ 40 ปี มีตุ่มขึ้นรอบขาหัวเข่าเกิดอาการคันจนเกาเป็นแผล หลังตกสะเก็ดเกิดน้ำหนอง เชื่อว่าสาเหตุมาจากลงจับปลาในสระน้ำใกล้โรงงานไฟไหม้ หลังจากนั้นเกิดคันตามผิวหนังอยู่หลายวัน ยิงเกายิ่งแสบ ไม่ยอมหาย

ส่วนพระวัดหนองพะวา ต.บางบุตร อ.บ้านค่าย ที่อยู่ใกล้กับโรงงานได้รับผลกระทบจากเหตุเพลิงไหม้เช่นกันมีอาการคันตุ่มขึ้นตามผิวหนัง สอบถามพระลูกวัดทราบว่าที่วัดมีพระจำวัด 15 รูป หลังเกิดเหตุเจ้าอาวาสเสนอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งแก้ปัญหาจัดการกับสารเคมี เพราะตอนนี้พระบางรูปเกิดผิวหนังระคายเคือง มีผื่นขึ้นและตุ่มใส โดยไม่ทราบสาเหตุ บริเวณวัดก็มีกลิ่นฉุนคล้ายสารเคมีลอยคลุ้งจนต้องสวมแมสก์ป้องกัน และต้องซื้อเครื่องฟอกอากาศมาบรรเทาไปก่อน เนื่องจากตอนนี้ยังไม่มีหน่วยงานใดมาช่วยแก้ไขปัญหา ขณะที่ชาวบ้านในพื้นที่มีผื่นขึ้นไปหาหมอก็แค่ให้ยามาทา เชื่อว่าสาเหตุสารเคมีน่าจะเข้าไปอยู่ในเส้นเลือด

ส่วนกรณีเกิดเหตุระเบิดไฟไหม้แท็งก์เก็บสารไพโรไลซิส แก๊สโซลีน บริษัท มาบตาพุด แทงค์ เทอร์มินัล จำกัด บริษัทย่อยเครือเอสซีจี ภายในท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด อ.เมืองระยอง เมื่อสายวันที่ 9 พ.ค.ที่ผ่านมา ทำให้พนักงานเสียชีวิต 1 ศพ บาดเจ็บ 3 คนนั้น ล่าสุดนายศักดิ์ชัย ปฏิภาณปรีชาวุฒิ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทเอสซีจี เคมิคอลส์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCGC เปิดเผยกรณมีการนำเสนอข่าวผ่านสื่อสังคมออนไลน์ว่ามีพนักงานที่มาบตาพุดถูกไล่ออก เพราะพากันหนีไฟไหม้แทงค์ เทอร์มินัล SCGC ขอยืนยันว่า กระแสข่าวที่ออกมาไม่เกี่ยวข้องกับบริษัทแต่อย่างใด บริษัทไม่มีการไล่พนักงานคนใดออกทั้งสิ้น ปัจจุบันพนักงานบริษัททุกคนยังคงปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่าเมื่อวันที่ 13 พ.ค.ที่ผ่านมา นายศักดิ์ชัย ประธานฯเอสซีจี เคมิคอลส์ หรือ SCGC พร้อมด้วยนายยุทธศักดิ์ สุภสร ประธานกรรมการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ลงพื้นที่ชุมชนที่ได้รับผลกระทบเพื่อขออภัยและรับฟังปัญหาต่างๆ ทั้งนี้เอสซีจี เคมิคอลส์เชื่อมั่นว่าชุมชนกับโรงงานจะต้องอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขด้วยความเข้าใจและเดินหน้าเฝ้าระวังคุณภาพสิ่งแวดล้อม อย่างต่อเนื่อง ขณะนี้อยู่ระหว่างการเฝ้าระวังผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น ทั้งในด้านสุขภาพของชุมชนที่ได้รับผลกระทบและคุณภาพสิ่งแวดล้อม

อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่