ปรากฏการณ์ "แพลงก์ตอนบลูม" ทำน้ำทะเลศรีราชา เปลี่ยนเป็นสีเขียวทั้งหาด และส่งกลิ่นเหม็น ส่งผลให้ปลาตายเป็นจำนวนมาก รวมถึงสัตว์ทะเลชายฝั่งขาดออกซิเจน เนื่องจากสภาพอากาศที่แปรปรวน ชาวประมงต้องหยุดออกหาปลาชั่วคราว
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 19 ส.ค. 66 ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณที่ชายทะเลศรีราชา อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี ได้เกิดปรากฏการณ์น้ำทะเลเปลี่ยนสี ส่งผลให้น้ำทะเลเป็นสีเขียว มีกลิ่นเหม็น และสัตว์ทะเลบางชนิดขาดอากาศลอยตายขึ้นมาเป็นจำนวนมาก ซึ่งปรากฏการณ์ดังกล่าว ชาวบ้านเรียกว่า "ขี้วาฬ" หรือ "แพลงก์ตอนบลูม" ซึ่งที่ผ่านมาปรากฏการณ์ธรรมชาติในลักษณะนี้ก็เคยเกิดขึ้นมาแล้วที่ทะเลศรีราชา
เนื่องจากก่อนหน้านี้ในพื้นที่อำเภอศรีราชา มีสภาพอากาศแปรปรวนและมีคลื่นลมแรง ทำให้ชาวประมงต้องหยุดออกหาสัตว์น้ำ และคลื่นที่แรงซัดแพลงก์ตอนสีเขียวในน้ำทะเลที่มีเป็นจำนวนมากนั้นเสียและลอยขึ้นมา จนทำให้น้ำทะเลเปลี่ยนเป็นสีเขียว และยังส่งผลให้ออกซิเจนในน้ำน้อยลง เป็นเหตุให้สัตว์ทะเลชายฝั่งขาดออกซิเจนและทำให้ปลาบางชนิดลอยตายบนชายหาด เช่น ปลากระบอก ปลาหัวตะกั่ว ปลารังสรรค์
...
ส่วนสาเหตุที่เกิดเนื่องจากสภาพอากาศที่แปรปรวน และ 2-3 วันก่อนที่จะเกิดสภาพอากาศที่หนาวเย็นมาก และในทะเลมีคลื่นสูงกว่า 2-3 เมตร ทำให้ชาวประมงต้องหยุดออกหาปลาชั่วคราวนั้น คลื่นที่มีความแรงบวกกับสภาพอากาศที่แปรปรวนอาจทำให้พืช หรือ แพลงก์ตอนใต้น้ำที่เสียอาจถูกคลื่นซัดขึ้นมา จึงทำให้เกิดปรากฏการณ์ "แพลงก์ตอนบลูม" ทำให้น้ำทะเลเปลี่ยนเป็นสีเขียวเข้ม แต่หลังจากคลื่นลมสงบแล้วประมาณ 7 วัน น้ำทะเลที่เป็นสีเขียวและมีกลิ่นก็จะกลับมาเหมือนเดิม
ด้าน นายนิรุต พัดทอง อายุ 46 ปี เปิดเผยว่า 1 ปีจะมี 1 ครั้งกับเหตุการณ์แบบนี้ โดยสาเหตุที่มาจากการที่ฝนตกชำระล้างสกปรกลงไปทำให้แพลงก์ตอนบลูมเกิดขึ้น โดยช่วงเช้าวันนี้ พบกลุ่มปลาตายลอยเป็นจำนวนมาก สาเหตุเกิดจากขาดออกซิเจนทำให้ปลาขึ้นมาหายใจบนผิวน้ำ และทำให้ปลาน็อก โดยเหตุการณ์นี้จะอยู่ประมาณ 7 วันถึงท้องทะเลจะกลับมาเป็นปกติ.