ตำรวจเรียกหนุ่มชาวเยอรมัน 2 คน เพื่อนสนิทนักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ชาวเยอรมันหายตัวไปอย่างลึกลับมาสอบสวนเพื่อหาความเชื่อมโยง ส่วนชุดสืบสวนยึดรถของนายหน้าขายที่ดินมาตรวจสอบพบพิรุธเปลี่ยนล้อแม็กและยาง รองโจ๊กเรียกชุดสืบสวนประชุมสางคดีตรวจเส้นทางการเงินถูกโอนเข้าบัญชี “นายโอลาฟ” เพื่อนสนิทเหยื่อมากกว่า 2 ล้านบาท ขณะนี้รู้ตัวนางนกต่อแล้ว เชื่อคนร้ายมุ่งประสงค์ต่อทรัพย์ ล่าสุดพบตู้แช่อยู่ในบ้าน สงสัยเป็นเซฟเฮาส์อุ้มเหยื่อ

ภายหลังตำรวจพบรถเบนซ์ คูเป้ อี 350 สีบรอนซ์เทา ทะเบียน ญศ 7146 กรุงเทพมหานคร ของนายฮันส์ ปีเตอร์ แรลเตอร์ มัค อายุ 62 ปี นักธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์ ชาวเยอรมัน หายตัวไปอย่างลึกลับ จอดอยู่หน้าคอนโดมิเนียมที่ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ตรวจสอบภายในห้องโดยสารถูกสาดด้วยน้ำยาหล่อเย็นหวังทำลายหลักฐาน พยานเห็นมีผู้หญิง 2 คนขับรถมาจอดทิ้ง ส่วนนายหน้าซื้อขายที่ดินชาวเยอรมันนัดคุยกับนายฮันส์ก่อนหายตัวไป ยืนยันไม่เกี่ยวข้อง ขณะที่ พล.ต.ต.ธีระชัย ชำนาญหมอ ผบก.สส.ภาค 2 เผยอาจมีแนวโน้มเป็นคดีอุ้มฆ่าเร่งระดมกำลังคลี่คลายคดี

ความคืบหน้าเมื่อช่วงดึกวันที่ 9 ก.ค. พล.ต.ต.ธีระชัย ชำนาญหมอ ผบก.สส.ภาค 2 พ.ต.อ.ทวี กุดแถลง ผกก.สภ.หนองปรือ จ.ชลบุรี พร้อมตำรวจฝ่ายสืบสวนเชิญตัวหนุ่มใหญ่ชาวเยอรมัน 2 คน 1 ในนั้นชื่อนายโอลาฟ อายุ 52 ปี เป็นเพื่อนสนิทนายฮันส์มาพร้อมทนายความ เพื่อสอบสวนประเด็นที่ต้องสงสัย จากนั้น พล.ต.ต.ธีระชัยนำกำลังตำรวจสืบสวนภาค 2 ตำรวจ บก.สส.ภ.จ.ชลบุรี ตำรวจบก.ท่องเที่ยว และตำรวจ ตม.พร้อมนำหมายค้นที่ 129/2566 เข้าไปค้นบ้านเลขที่ 21/302 ภายในหมู่บ้านโชคชัย การ์เด้น 2 หมู่ 10 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี เป็นบ้านของ 1 ในผู้ต้องสงสัยแต่ไม่พบสิ่งผิดปกติ ขณะเดียวกันตำรวจเชิญตัว น.ส.พิรญา หรือปาร์ตี้ บุญมาก อายุ 24 ปี ภรรยาชาวไทยนายฮันส์ และลูกของนายฮันส์ 2 คนมาสอบปากคำเพิ่มเติมเพื่อหาจุดเชื่อมโยง ส่วน น.ส.พิรญายังยืนยันว่าจะ มอบ 3 ล้านบาท หากผู้ที่แจ้งเบาะแสนายฮันส์ยังมีชีวิตอยู่และกลับมาหาครอบครัวอย่างปลอดภัย

...

นอกจากนี้ ยังมีรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนตรวจพบ 1 ในผู้ต้องสงสัยมีเส้นทางการเงินที่ผิดปกติ เงินหมุนเวียนเข้าบัญชีกว่า 2 ล้านบาท อาจจะมีส่วนเกี่ยวโยงกันพัวพันกันกับคดีหรือไม่ อยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐาน ขณะนี้ยังไม่รู้ชะตากรรมนายฮันส์ยังมีชีวิตอยู่หรือไม่ เจ้าหน้าที่ระดมกำลังหาตัวอย่างเต็มที่

ต่อมาเวลา 08.00 น. วันที่ 10 ก.ค. ตำรวจฝ่ายสืบสวนยึดรถเชฟโรเลต แคปติวา สีดำ ทะเบียน 2กญ 3634 กรุงเทพมหานคร เป็นรถของนางเพธาน อายุ 54 ปี นายหน้าขายที่ดินชาวเยอรมัน เป็นรถคันเดียวกันที่ปรากฏอยู่ในภาพกล้องวงจรปิด เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานเขต 2 ชลบุรี ตรวจสอบลายนิ้วมือแฝงและตรวจหาดีเอ็นเอ เพื่อหาจุดเชื่อมโยงความสำคัญในการหายตัวของนายฮันส์ พบพิรุธรถคันดังกล่าวถูกนำไปเปลี่ยนล้อแม็กและยาง ดัดแปลงไม่ตรงกับลักษณะรูปรถที่ปรากฏในกล้องวงจรปิด ทราบภายหลังว่านางเพธานนำไปเปลี่ยนล้อแม็กและยางที่ร้านยางแห่งหนึ่งใกล้สี่แยกชัยพฤกษ์ ถนนสุขุมวิท หมู่ 9 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี เมื่อวันที่ 6 ก.ค.ที่ผ่านมา

ผู้สื่อข่าวไปสอบถามเจ้าของร้านยางยืนยันว่า เมื่อวันที่ 5 ก.ค. นางเพธานมาขอซื้อน้ำมันเครื่อแกลลอนเล็กเพื่อเติมใส่เครื่องยนต์ พร้อมสอบถามราคาล้อแม็กและยางใหม่ บอกว่าจะเดินทางไกลอยากจะเปลี่ยนใหม่ยกชุด ต่อมาวันที่ 6 ก.ค. นางเพธานมาซื้อล้อแม็กและยางพร้อมตั้งศูนย์ถ่วงล้อรวมเป็นเงิน 30,000 บาท ส่วนล้อยางชุดเก่าทางร้านไม่รับเทิร์น มีชายและหญิงคนไทยเป็นเพื่อนนางเพธานขับรถกระบะมายกยางเก่ากลับไป ขณะเดียวกันตำรวจชุดสืบสวนได้รับการร้องขอจากญาตินายฮันส์ขอให้อายัดบัญชีของนายฮันส์ หลังพบว่ามีการโอนเงินผ่านแอปพลิเคชันธนาคารในวันที่ 4 ก.ค. จำนวน 500,000 บาท ยิ่งทำให้ญาติไม่สบายใจอาจถูกรีดเงิน

ที่สโมสรตำรวจ สายวันเดียวกัน พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. พล.ต.ต.ธีระชัย ชำนาญหมอ ผบก.สส.ภ.2 และตำรวจชุดสืบสวนประชุมเพื่อติดตามความคืบหน้าคดี ที่หน้าห้องประชุมมีเจ้าหน้าที่จากมูลนิธิวินวิน นำโดย น.ส.ชลิดา พะละมาตย์ ประธานที่ปรึกษามูลนิธิวินวิน พา น.ส.พิรญา หรือปาร์ตี้ บุญมาก อายุ 24 ปี ภรรยาชาวไทยนายฮันส์ รวมทั้งอดีตภรรยาของนายฮันส์ ลูกชายกับอดีตภรรยา 2 คน และเจ้าหน้าที่ของสถานทูตเยอรมนีเข้ามารอพบกับ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ รอง ผบ.ตร.เพื่อขอความช่วยเหลือเร่งรัดคดี

น.ส.พิรญา หรือปาร์ตี้ บุญมาก ภรรยาชาวไทยนายฮันส์ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 4 ก.ค. สามีไปคุยเรื่องซื้อที่ดินนานผิดปกติ ตนโทรศัพท์ไปหาสามีเครื่องเปิดปิดสลับกัน ก่อนจะมีข้อความส่งกลับมาว่า “อยู่กับลูกค้านะ เดี๋ยวโทร.กลับ” ที่ผ่านมายืนยันว่าสามีไม่เคยส่งข้อความมาหาในลักษณะแบบนี้ ต่อมาช่วง 4 ทุ่มมีข้อความส่งมาอีกว่า “วันนี้จะอยู่กับลูกค้านะ คนนี้สำคัญมาก ฉันต้องดีลกับเขา เซ็นสัญญาให้เสร็จ” วันที่ 5 ก.ค. มีข้อความสุดท้ายส่งมาว่า “ต้องอยู่กับลูกค้าและจะต้องไปกินข้าวกับลูกค้า” หลังจากนั้นสามีไม่ได้ส่งอะไรมาอีกเลย ส่วนเรื่องที่ดินในพัทยามีการซื้อ-ขายกันจริง แต่ในเรื่องที่ดินในพื้นที่เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี สามียังไม่ได้มาคุย เชื่อว่าสามีโดนจับตัวไปรีดเงิน ยืนยันว่าไม่ทราบความสัมพันธ์ระหว่างสามีกับสาวใหญ่นายหน้าขายที่ดินเลย อยากบอกไปถึงคนที่อุ้มสามีไปว่าต้องการอะไรให้มาบอก ช่วยเอาสามีกลับมาเถอะ ทุกคนเป็นห่วงมาก เรารอกันอยู่ และจะหาเขาให้เจอ ด้านลูกชายของนายฮันส์เปิดเผยว่า ตอนนี้อยากเจอพ่อเร็วๆ เพราะผ่านมา 6 วันแล้วทุกคนเป็นห่วง

ทั้งนี้ มีรายงานว่า ตำรวจชุดสืบสวนนำตัวชาวเยอรมันเป็นกลุ่มผู้ต้องสงสัยมาสอบปากคำแล้วที่ สภ.หนองปรือ เบื้องต้นไม่ให้การอะไรที่เป็นประโยชน์ จากการตรวจสอบเส้นทางการเงินในบัญชีของผู้สูญหาย นั้น ปรากฏว่าเงินถูกโอนออกจากบัญชีหลายครั้ง ยอดมากกว่า 2 ล้านบาท ส่วนคนที่เป็นคนโอนไม่ได้อยู่ในประเทศไทย เนื่องจากการตรวจสอบพิกัดข้อมูลอยู่ที่กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา

ด้าน พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร.เปิดเผยว่า วันนี้ชุดสืบสวนคลี่คลายคดีนี้เข้ามาประชุมติดตามความคืบหน้าคดี ข้อมูลล่าสุดยังไม่พบตัวนายฮันส์ แต่ในส่วนของบุคคลไม่ว่าจะเป็นคนที่ติดต่อมาหรือเรียกว่า “นกต่อ” ตอนนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจพบตัวแล้ว รวมถึงข้อมูลบุคคลที่เป็นคนรับเงินปลายทางด้วย ทั้งหมดอยู่ระหว่างไล่หาความเชื่อมโยง สิ่งสำคัญต้องหาตัวนายฮันส์ยังมีชีวิตอยู่หรือไม่ มูลเหตุประสงค์ต่อทรัพย์ไม่มีเรื่องอื่นอย่างแน่นอน และเชื่อว่าจะต้องมีคนชี้เป้าว่านายฮันส์มีทรัพย์สินจึงอุ้มรีดเงิน

...

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์เปิดเผยอีกว่า ส่วนรถเบนซ์ของนายฮันส์คนร้ายใช้สารบางอย่างทำลายหลักฐานแน่นอน ขณะนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบว่าสารดังกล่าวเป็นสารชนิดใด นอกจากนี้ สอบปากคำนายโอลาฟยังไม่ให้การใดๆทั้งสิ้น ในเรื่องของกระบวนการนี้เชื่อว่าเตรียมตัวมาพร้อมทนายความ เงินที่โอนมาจากบัญชีของนายฮันส์พบว่านายโอลาฟเป็นคนรับเงินดังกล่าว แต่ต้องไปตรวจดูก่อนว่ารับเงินมาอย่างไร และต้องดูความสัมพันธ์ย้อนหลังไปด้วยว่า ที่ผ่านมารู้จักกันได้อย่างไร และทั้ง 2 ฝ่ายทำธุรกิจผิดกฎหมายหรือไม่ เบื้องต้นตอนนี้พบผู้เกี่ยวข้องเป็นหญิง ทำหน้าที่เป็นนางนกต่อชี้เป้า 1 คน เป็นคนสุดท้ายที่อยู่ในกล้องวงจรปิด และตัวการหลักคือนายโอลาฟ ส่วนคนอื่นอยู่ระหว่างไล่ข้อมูลว่าเป็นใคร แต่ทั้งหมดเป็นชาวต่างชาติ ส่วนประเด็นเรื่องของการอุ้มครั้งนี้ได้เงินค่าจ้างถึง 8 แสนบาทนั้น ยังไม่มีข้อมูลส่วนนี้

ขณะที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ได้เรียกครอบครัวของนายฮันส์ ปีเตอร์ พูดคุยและประชุมกับตำรวจชุดทำงานนานกว่า 2 ชั่วโมงก่อนกล่าวอีกว่า ขณะนี้ชุดสืบสวนพบไทม์ไลน์ในหลายส่วนแล้ว ที่สำคัญคือพบข้อมูลเส้นทางการเงินของนายฮันส์ ปีเตอร์ ที่ถูกโอนไปหลายบัญชี ล่าสุดได้อายัดบัญชีแล้ว หลังพบเงินถูกโอนออกไปประมาณ 3 ล้านบาทหลายบัญชี คาดว่าวันที่ 11 ก.ค.จะขอศาลออกหมายจับบุคคลที่เกี่ยวข้องได้บางส่วน ยังไม่ขอระบุว่าเป็นใครมีจำนวนกี่คน เพราะกลุ่มคนดังกล่าวอยู่ในแก๊ง Outlaws หรือแก๊งนอกรีต ในพื้นที่พัทยาและเป็นชาวต่างชาติ ประกอบกับกลุ่มคนเหล่านี้มักจะพัวพันหลายเรื่องนอกกฎหมาย เป็นมาเฟียและผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ แก๊งนี้มีอยู่ทั่วโลก นอกจากนี้ในเรื่องของการสืบสวนมอบหมายให้ตำรวจชุดคลี่คลายคดีไปหาข้อมูลแล้ว และในวันที่ 12 ก.ค.จะเอาข้อมูลเข้ามาประชุมอีกครั้ง พร้อมทั้งประสานและกำชับไปยัง ผกก.สภ.พัทยา ให้เข้มงวดและมีมาตรการป้องกันเกี่ยวกับเหตุลักษณะนี้ด้วย

...

ต่อมาเวลา 20.00 น. วันเดียวกัน ตำรวจชุดสืบสวนตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณโดยรอบจุดที่นายฮันส์ไปพบนายหน้าขายที่ดินตามเส้นทางที่คาดว่าถูกอุ้ม กระทั่งพบกล้องวงจรปิดของชาวบ้านในวันที่ 5 ก.ค. เวลา 10.54 น. พบรถเชฟโรเลต สีดำ วิ่งนำหน้ามีรถกระบะสีดำวิ่งตาม ที่กระบะท้ายรถพบชายนั่งอยู่ 1 คนและตู้แช่แข็ง 1 เครื่องวิ่งไปด้วยความเร็ว จากนั้นตำรวจตรวจสอบพื้นที่ใกล้เคียงตามบ้านพูลวิลล่า กระทั่งไปพบตู้แช่ตั้งอยู่หน้าบ้านเช่าเลขที่ 22/96 หมู่บ้านโชคชัยการ์เด้น 3 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ลักษณะบ้านเป็นแบบทาวน์โฮมชั้นเดียว เนื้อที่ 40 ตารางวา ภายในบ้านเปิดแอร์ไม่มีคนอยู่ สอบถามเพื่อนบ้านทราบว่า ผู้เช่าเป็นชาวต่างชาติผมยาว เมื่อเจ้าหน้าที่นำรูปถ่ายนายโอลาฟ เพื่อนนายฮันส์ ผู้ต้องสงสัยให้ดูยืนยันว่าเป็นคนเดียวกัน

จากนั้นตำรวจฝ่ายสืบสวนประสานเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานเขต 2 ชลบุรี เพื่อตรวจสอบ พร้อมกันพื้นที่ห้ามเข้าไปภายในบ้านเพื่อตรวจสอบหาร่าง คาดว่านายฮันส์จะถูกฆ่ายัดศพอยู่ในตู้แช่หรือไม่