ดราม่า "สาวซื้อไข่ต้มแก้บน หน้าวัดหลวงพ่อโสธร พบเน่าเกือบทั้งตะกร้า" ล่าสุดผู้เสียหายเข้าแจ้งความแล้ว ที่ สภ.เมืองฉะเชิงเทรา ด้านเจ้าของร้านปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา มั่นใจล้านเปอร์เซ็นต์ไม่ใช่ไข่ร้านตัวเอง คาดถูกพ่อค้าแม่ค้าบางคนดิสเครดิตลดความน่าเชื่อถือ อ้างร้านทำเลดี-แถมขายดีเดือนละเป็นแสนใบ
จากกรณีที่มีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ได้โพสต์ภาพไข่ต้มเน่า โดยอ้างว่า ก่อนหน้านี้ได้เดินทางไปแก้บน ที่วัดโสธรวรารามวรวิหาร อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา และซื้อไข่ต้มแก้บน จากร้านขายไข่ต้มร้านหนึ่ง ภายในตลาดหน้าวัด แต่ปรากฏเป็นไข่ต้มเน่าเกือบทั้งตะกร้า โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลา 07.30 น. วันที่ 30 พ.ค. 66 ที่ผ่านมา ตามที่มีการเสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุด เมื่อช่วงบ่ายวันนี้ (23 พ.ค.) ที่ สภ.เมืองฉะเชิงเทรา คุณม่อน ผู้เสียหาย ซึ่งเป็นเจ้าของโพสต์ดังกล่าว พร้อมแฟนหนุ่ม ได้เดินทางเข้าแจ้งความกับ ร.ต.ท.พิชามญช์ สะตะ รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองฉะเชิงเทรา เพื่อเอาผิดกับแม่ค้าที่ขายไข่ต้ม จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงเชิญตัว น.ส.วรรณทนา สวัสดี อายุ 58 ปี แม่ค้าขายไข่ต้มในวันนั้น มาทำการให้ผู้เสียหายชี้ตัว ก่อนจะพาผู้เสียหายเดินทางไปชี้จุดเกิดเหตุ ที่ร้านขายไข่ต้มดังกล่าว ซึ่งตั้งอยู่ภายในโดมจอดรถ หน้ามหาวิหารหลวงพ่อโสธร ที่วัดโสธรวรารามวรวิหาร อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา และทำการสอบสวนพร้อมแจ้งข้อกล่าวหา
โดย พ.ต.ท.หญิง วรัญญา เกิดเอี่ยม รอง ผกก.สอบสวน สภ.เมืองฉะเชิงเทรา เปิดเผยว่า วันนี้ได้เชิญ น.ส.วรรณทนา แม่ค้าขายไข่ต้ม มารับทราบข้อกล่าวหา โดยหลอกลวงว่า เป็นไข่ต้มที่มีคุณภาพดีอันเป็นเท็จ อันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 271 "ผู้ใดขายของโดยหลอกลวงด้วยประการใดๆ ให้ผู้ซื้อหลงเชื่อในแหล่งกำเนิด สภาพ คุณภาพ หรือปริมาณแห่งของนั้นอันเป็นเท็จ ถ้าการกระทำนั้นไม่เป็นความผิดฐานฉ้อโกง ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ" ซึ่งผู้ถูกกล่าวหาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงทำการผัดฟ้องศาลครั้งแรก เพื่อทำการสืบสวนและรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ ส่งฟ้องศาล
...
จากการสอบถาม คุณม่อน (ผู้เสียหาย) เปิดเผยว่า วันนี้ตนได้เดินทางมาชี้ตัวแม่ค้า ที่เป็นคนขายไข่ต้มเน่าให้ตนในวันนั้น ซึ่งแม่ค้าที่ขายให้ตนก็อยู่ในขั้นตอนการสอบสวนของตำรวจแล้ว ซึ่งครั้งหน้าหากตนต้องเดินทางมาแก้บนที่วัดโสธรอีกยืนยันว่าจะซื้อไข่ต้มหน้าวัดโสธรเหมือนเดิม และจะเลือกซื้อจากร้านประจำที่เคยซื้อมาก่อนหน้านี้ หรือเลือกร้านที่ไว้ใจได้
ขณะที่ น.ส.จรรยา นิ่มสว่าง อายุ 61 ปี เจ้าของร้านไข่ต้มที่เป็นข่าว ได้เดินทางพาแม่ค้าที่ขายวันนั้นมารับทราบข้อกล่าวหา พร้อมปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา โดยกล่าวว่า ตนขายไข่ต้มอยู่หน้าวัดมานานกว่า 42 ปี ไม่เคยมีลูกค้ามาร้องเรียนเรื่องไข่ต้มเน่าแต่อย่างใด ตนมองเห็นภาพไข่ที่ออกไปตามสื่อต่างๆ มั่นใจว่าไม่ใช่ไข่ร้านตนอย่างแน่นอนล้านเปอร์เซ็นต์ เพราะว่าไข่ในถ้วยโฟมมันคนละไซส์กับไข่ในตะกร้า เนื่องจากเวลาตนสั่งไข่จากฟาร์ม ที่ จ.นครนายก เดือนนึงกว่า 2 แสนใบ จะคัดไซส์ไข่เบอร์ 2 นำมาขายให้ลูกค้า ซึ่งสังเกตดูว่าไข่ในตะกร้าเป็นไข่เบอร์ 2 แต่ในชามโฟมที่แกะออกมาให้ดูว่าเป็นไข่เน่านั้น เป็นไข่เบอร์ 3 ทั้งหมด
"ประเด็นที่ผู้เสียหายซื้อไข่ร้านตน จำนวน 100 ฟอง ราคา 400 บาท พร้อมน้ำเปล่าและน้ำปลานั้น ก็ไม่เป็นความจริง ตนคงขายราคานั้นไม่ได้ เนื่องจากต้นทุนไข่ดิบซื้อมาก็ราคา 3.80 บาทแล้ว ตะกร้าใส่ไข่ใบละ 20-22 บาท ไม่รวมน้ำดื่มและน้ำปลา ตนจะไปขายในราคา 400 บาท ตามที่ผู้กล่าวหาอ้างได้อย่างไร ซึ่งข้อสังเกตที่ตนเห็นจากไข่ที่ออกไปตามข่าวในถุงดำนั้น ที่มองเห็นด้วยตาเปล่าน่าจะประมาณไม่ต่ำกว่า 2-3 ร้อยฟอง ไม่มีทางแค่ 100 ฟองตามที่เป็นข่าว ส่วนสาเหตุที่มีการเจาะจงมาที่ร้านตนนั้น คาดว่ามีพ่อค้าแม่ค้าบางคนดิสเครดิตร้านตน พราะร้านตนอยู่ในทำเลที่ดี ขายดีเดือนละเป็นแสนๆ ใบ ซึ่งตอนนี้มีร้านขายไข่ต้มเพิ่มขึ้นมาเป็นร้อยจากในอดีต ก็อาจจะดิสเครดิตให้ร้านตนหมดความน่าเชื่อถือและขายไม่ได้" น.ส.จรรยา เจ้าของร้านไข่ต้ม กล่าว
น.ส.จรรยา กล่าวต่อวา ส่วนเรื่องตะกร้าที่มี 2 ขีดนั้น ทางผู้แจ้งคิดเองเออเอง ตะกร้าที่ร้านสั่งมาทีเป็นคันรถหกล้อหรือสิบล้อ เพราะฉะนั้นตะกร้าจะมาทีเป็นหมื่นใบและห่อกระดาษมาเป็นโหลๆ ตนก็จะไม่ทราบเลยว่าเขาขีดสีเมจิกมาก่อนหน้านั้นหรือไม่ ตนขอปฏิเสธเพราะมันไม่ใช่ความจริง ตนอยากให้ผู้เสพข่าวใช้วิจารณญาณ ไม่ใช่พอเห็นข่าวก็เชื่อไปทุกอย่าง คอมเมนต์อย่างเดียวทำลายครอบครัวของคนอื่น อยากให้วิเคราะห์และแยกแยะให้ดี เพราะไข่ดิบมันเป็นแก๊ส ต้มเมื่อไรมันก็ระเบิด ถ้าจะบอกว่าแม่ค้าเอาไข่ต้มแล้วมาขายเพราะเป็นไข่ค้าง ถ้าเป็นไข่เน่าแบบนี้มาตั้งหน้าร้านไม่ได้หรอก เพราะมันต้องส่งกลิ่นเหม็นไล่ลูกค้า
"ตนยืนยันว่าไม่ใช่ไข่ร้านตนแน่นอน ส่วนไข่ที่เป็นสีแดงที่เขาบอกว่าเราเอาไข่เก่ามาวน และมีการปักธูปลงไปในไข่นั้น ข้อนี้ยิ่งเป็นไปไม่ได้ เพราะภายในวัดไม่อนุญาตให้จุดธูปแต่อย่างใด แล้วไข่จะมีก้านธูปปักลงมามีสีแดงได้อย่างไร ซึ่งร้านตนเป็นร้านดัง มีนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่หรือดาราคนมีชื่อเสียงมาสั่งไข่ที่ร้านเป็นแสนๆ ฟอง สี่แสนฟองก็เคยมี เราก็ทำให้ลูกค้ามาโดยตลอด มันเป็นไปไม่ได้เลยที่ตนจะมาทุบหม้อข้าวตัวเอง เพียงเพื่อเงินแค่ 400 บาท" น.ส.จรรยา เจ้าของร้านไข่ต้ม กล่าว