ผบ.ตร.เซ็นคำสั่งเด้ง “ผู้การชลบุรี” เข้ากรุสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หลังพบมีเอี่ยวสับเปลี่ยนตัวผู้ต้องหาในคดีแก๊ง “หรั่ง พระราม 2” บุกทวงหนี้ทำร้ายคู่อริในพูลวิลล่า เมืองพัทยา ด้านเซียนพระ “เอ็ม ปู่ไปล่” 1 ในทีมทวงหนี้ฉาวมาแปลก พาพวกยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมกับ “บิ๊กตู่” การันตี “รองโจ” พ.ต.อ.กรวัฒน์ หันประดิษฐ์ รองผู้การฯเมืองชล ที่โดนสั่งย้ายไปก่อนหน้านี้ ไม่เคยรับสินบน 1 ล้านบาท ย้ำพร้อมเป็นพยานศาลยืนยันความบริสุทธิ์ให้ด้วย

กลายเป็นเรื่องราวบานปลายใหญ่โต คดีกลุ่มชายฉกรรจ์ 6 คน แก๊ง “หรั่ง พระราม 2” ใช้รถยนต์โตโยต้า อัลพาร์ด ป้ายแดง บุกพลูวิลล่า ริมหาดจอมเทียน เมืองพัทยา จ.ชลบุรี ตามหาตัวลูกหนี้ แต่ไม่พบ สร้างความโกรธแค้นอย่างมาก ใช้ปืนยิงยางรถยนต์ของผู้เสียหาย 3 คัน แล้วใช้ด้ามปืนทุบศีรษะทำร้ายร่างกายจนมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 5 ราย ก่อนแยกย้ายกันเผ่นหนี ต่อมาตำรวจสืบสวนกดดันจนเพื่อนร่วมแก๊งติดต่อขอมอบตัว แต่กลับว่าจ้าง “แพะ” มาตบตาเจ้าหน้าที่หวังรอดคุก ทำให้ พล.ต.อ.พิเชษฐ์ พักพาล รอง ผบ.ตร. สั่งให้ขยายผลและมีหลักฐานว่า พ.ต.อ.กรวัฒน์ หันประดิษฐ์ รอง ผบก.ภ. จ.ชลบุรี มีส่วนเกี่ยวข้องในการกระทำผิดเรียกรับสินบน 1 ล้านบาท เพื่อสับเปลี่ยนตัวผู้ต้องหา 2 คน ถูกแจ้ง 3 ข้อหาหนัก พร้อมตั้งกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง ขณะเดียวกันยังพบมีนายตำรวจระดับ พล.ต.ต.ในพื้นที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการกระทำความผิดด้วยเช่นกัน และเตรียมเด้งเข้ากรุเพื่อสอบสวนหาข้อเท็จจริง

ความคืบหน้าเกี่ยวกับเรื่องนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานเมื่อวันที่ 15 พ.ย.ว่า พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. มีหนังสือคำสั่ง ตร.ที่ 543/2565 ลงวันที่ 14 พ.ย.65 เรื่องข้าราชการตำรวจปฏิบัติราชการ ใจความว่าด้วยตำรวจภูธรภาค 2 ได้รายงานเหตุกรณี พล.ต.ต.กิตติ์ธเนศ ธนนันท์ทวีสิน ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี มีเหตุเป็นที่สงสัยว่าประพฤติบกพร่องต่อหน้าที่และกระทำความผิดทางวินัย หรืออาญา หากปฏิบัติหน้าที่ในหน่วยงานเดิมอาจเป็นอุปสรรคต่อการสอบสวน หรืออาจยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน และก่อให้เกิดความเสียหายต่อทางราชการได้ เพื่อมิให้เกิดความเสียหายต่อทางราชการ และให้การดำเนินการของตำรวจภูธรภาค 2 เป็นไปด้วยความเรียบร้อยและมีประสิทธิภาพ อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 63 และมาตรา 179 แห่งพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2565 และระเบียบสำนักงานตำรวจแห่งชาติว่าด้วยการสั่งให้ข้าราชการตำรวจไปปฏิบัติราชการภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2563 จึงให้ พล.ต.ต.กิตติ์ธเนศ ธนนันท์ทวีสิน ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี ปฏิบัติราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ อาคาร 1 ชั้น 20 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยขาดจากการปฏิบัติหน้าที่ทางตำแหน่งเดิม เพื่อปฏิบัติหน้าที่ตามที่ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติมอบหมาย ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง

...

เวลา 11.00 น. ที่ศูนย์รับเรื่องร้องทุกข์ ทำเนียบรัฐบาล นายอรรถวุฒิ ธินามธรรม หรือเอ็ม ปู่ไปล่ เจ้าของศูนย์พระเครื่องหลวงปู่ไปล่ และนายบุญฤทธิ์ หรือฉุย จิตรมา เข้ายื่นหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและ รมว.กลาโหม เพื่อยืนยันความบริสุทธ์ให้กับ พ.ต.อ.กรวัฒน์ หันประดิษฐ์ รอง ผบก.ภ.จ.ชลบุรี กรณีจับกลุ่มวัยรุ่นที่บ้านพักพูลวิลล่า เมืองพัทยา มีนายสมพาศ นิลพันธ์ ที่ปรึกษาสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นผู้แทนรับหนังสือ

นายอรรถวุฒิกล่าวว่า ตามที่ปรากฏข่าวทางสื่อมวลชน เกี่ยวกับการจับกุมกลุ่มวัยรุ่นบุกบ้านพักพูลวิลล่า พัทยา แล้วทำร้ายนักท่องเที่ยว สาเหตุมาจากการขัดแย้งในเรื่องผลประโยชน์จากเว็บพนัน และมีการอ้างว่าระหว่างการสืบสวนสอบสวนของพนักงานสอบสวน พบขบวนการวางแผนหลอกชุดจับกุม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ของรัฐในการสลับตัวผู้อื่นมามอบตัวแทนผู้ต้องหาตัวจริง ในเรื่องนี้พนักงานสอบสวนได้ยื่นฟ้องตนต่อศาลจังหวัดชลบุรี ตนรับสารภาพ มีคำพิพากษาให้จำคุก 1 ปี ศาลลดโทษจำคุก 6 เดือน โดยไม่รอลงอาญา แต่พนักงานสอบสวนได้กล่าวหาว่าตนให้สินบน พ.ต.อ.กรวัฒน์ หันประดิษฐ์ รอง ผบก.ภ.จ.ชลบุรี จำนวน 1 ล้านบาท ต่อมา พ.ต.อ.กรวัฒน์ ถูกดำเนินคดี

“ขอยืนยันว่า ผมไม่เคยให้เงินจำนวน 1 ล้านบาท หรือทรัพย์สินใด และไม่เคยรู้จักกับ พ.ต.อ.กรวัฒน์เป็นการส่วนตัวแต่อย่างใด นอกจากนี้ผมและครอบครัวยังถูกข่มขู่คุกคาม ได้รับผลกระทบจากอิทธิพลมืดจากตำรวจที่รับผิดชอบในคดีดังกล่าว ข่มขู่ภรรยาผมและอุ้มน้องชายของผมไปเพื่อต่อรองบีบบังคับให้ยอมรับและพาดพิง พ.ต.อ.กรวัฒน์ ตามความต้องการของผู้ไม่หวังดี ผมยินดีที่จะเป็นพยานเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจว่า พ.ต.อ.กรวัฒน์ เป็นข้าราชการที่ดี ไม่มีความพฤติกรรมเสื่อมเสียตามที่ถูกกล่าวหา ตนพร้อมทั้งครอบครัวจะขอเข้าสู่กระบวนคุ้มครองพยานในคดีอาญาของกระทรวงยุติธรรมต่อไป” นายอรรถวุฒิกล่าว