"กรมชลประทาน" ร่วมมือ "ADCA" ภายใต้การสนับสนุนจากรัฐบาลญี่ปุ่น ศึกษาวิจัยแนวทางบริหารจัดการน้ำที่เหมาะสมสำหรับประเทศไทย นำร่องที่อ่างเก็บน้ำบางพระ จ.ชลบุรี จนประสบผลสำเร็จ เตรียมขยายผลต่อยอดไปใช้ในลุ่มน้ำอื่นทั่วประเทศ

เมื่อวันที่ 23 เม.ย. 65 นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า กรมชลประทานได้ร่วมมือกับ Agriculture Development Consultant Association (ADCA) แห่งรัฐบาลญี่ปุ่น ดำเนินการศึกษาวิจัยแนวทางบริหารจัดการน้ำที่เหมาะสมสำหรับประเทศไทย ภายใต้โครงการ "The Study of Efficient Water Management System Based On the Advance Telemetry Technology" โดยเลือก จ.ชลบุรี ที่แนวโน้มความต้องการใช้น้ำเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพื่อพัฒนาด้านอุตสาหกรรมและการท่องเที่ยวในการศึกษาวิจัยครั้งนี้

ทั้งนี้ จ.ชลบุรี เป็น 1 ใน 3 จังหวัดในเขตพื้นที่พัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ที่มีความต้องการใช้น้ำเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากเป็นที่ตั้งของท่าเรือแหลมฉบัง ท่าเรือขนส่งสินค้าที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย นอกจากนี้ยังเป็นที่ตั้งของนิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบัง นิคมอุตสาหกรรมอมตะนครและเมืองพัทยา เมืองท่องเที่ยวที่สำคัญของไทย หากไม่มีการเสริมความมั่นคงให้น้ำต้นทุน และดูแลคุณภาพน้ำในอนาคต ย่อมเกิดความเสี่ยงต่อปัญหาการขาดแคลนน้ำได้ โดยมีอ่างเก็บน้ำบางพระเป็นแหล่งน้ำต้นทุนขนาดใหญ่ที่จะใช้สนับสนุนการใช้น้ำของทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นการอุปโภคบริโภค การอุตสาหกรรม การท่องเที่ยว และการเกษตร

...

สำหรับการศึกษาวิจัยในครั้งนี้เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2560 โดย ADCA ได้นำเทคโนโลยีการวัดปริมาณน้ำไหลลงอ่างเก็บน้ำ (Inflow) พร้อมระบบประมวลผลมาติดตั้งบริเวณลำห้วยต่างๆ ที่ไหลลงอ่างเก็บน้ำบางพระ รวมทั้งการติดตั้งสถานีวัดน้ำฝน การติดตั้งระบบการวัดคุณภาพน้ำในอ่างเก็บน้ำ และการวัดปริมาณน้ำไหลออก (Outflow)

โดยผลการติดตามพฤติกรรมน้ำ และศึกษาคุณภาพน้ำที่อ่างฯบางพระในระยะเวลาเกือบ 5 ปีที่ผ่านมานั้น พบความสัมพันธ์ระหว่างค่าความเค็มกับปริมาณน้ำอย่างมีนัย ซึ่งกรมชลประทานได้นำผลลัพธ์ที่ได้ไปใช้ในการวางแผนบริหารจัดการน้ำในอ่างเก็บน้ำบางพระได้อย่างมีประสิทธิภาพ อาทิ ในช่วงที่ประเทศไทยประสบปัญหาภัยแล้งปี 2562-2563 แม้จะมีปริมาณน้ำต้นทุนน้อย แต่กรมชลประทานสามารถวางแผนส่งน้ำและสูบน้ำทั้งจากแม่น้ำบางปะกง คลองพระองค์เจ้าไชยานุชิต และอ่างเก็บน้ำหนองค้อมาเติมให้กับอ่างเก็บน้ำบางพระ จนสามารถจัดสรรน้ำให้ทุกภาคส่วนได้อย่างเพียงพอ ไม่ว่าจะเป็นการผลิตประปา การอุปโภคบริโภค รักษาระบบนิเวศ รวมไปถึงภาคอุตสาหกรรม ภาคการเกษตร และภาคการท่องเที่ยวของ จ.ชลบุรี ด้วย

สำหรับเทคโนโลยีที่ ACDA นำมาใช้เพื่อทำให้ได้ข้อมูลที่สามารถนำมากำหนดเวลาที่เหมาะสมในการผันน้ำมาใช้ในแต่ละช่วงเวลาของปี รวมไปถึงการส่งน้ำที่มีคุณภาพเหมาะสมต่อทุกกิจกรรมใช้น้ำ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการน้ำในระบบอ่างฯพวงได้เป็นอย่างดีในระยะยาว นอกจากนี้ยังช่วยเรื่องการวางแผนดูแลรักษาสมดุลระหว่างน้ำไหลเข้า (Inflow) และน้ำระบายออก (Outflow) ของแหล่งน้ำ ทำให้ค่าความเค็มสะสมในน้ำไม่เกินค่ามาตรฐาน ซึ่งยากต่อการแก้ไข ซึ่งหลังจากการศึกษาร่วมกันแล้ว ภายในปี 2565 นี้ ADCA จะส่งมอบอุปกรณ์ต่างๆ พร้อมจัดทำคู่มือดูแลบำรุงรักษา Software และ Hardware ทั้งระบบให้กับกรมชลประทานเพื่อใช้งานต่อไป

"ปัจจุบันการบริหารจัดการน้ำในอ่างเก็บน้ำ จะให้ความสำคัญกับน้ำกินน้ำใช้เป็นอันดับต้นๆ เนื่องจากมีความต้องการใช้สูงขึ้นเรื่อยๆ ในขณะที่แหล่งเก็บกักน้ำต้นทุนมีจำกัด ดังนั้นหากสามารถควบคุมจัดการน้ำต้นทุนที่มีอยู่อย่างมีคุณภาพได้ จะช่วยขับเคลื่อนการใช้น้ำในทุกภาคส่วนให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดอย่างพอเพียง สอดรับกับการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ โดยกรมชลประทานมีแผนที่จะนำเทคโนโลยีและความรู้ที่ได้จากศึกษาวิจัยร่วมกับประเทศญี่ปุ่นในครั้งนี้ไปต่อยอดขยายผลนำไปใช้ในการบริหารจัดการน้ำในลุ่มน้ำอื่นๆ ทั่วประเทศ เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดต่อไป" อธิบดีกรมชลฯ กล่าว.

...