เอ็มมี่ อมลวรรณ เข้าร้องผู้ว่าฯ นครนายก โดนนักการเมืองท้องถิ่น จ้างวานคนแอบติด GPS ติดตามถึง 3 ครั้ง โดยถูกจับได้และแจ้งความไปแต่ก็ไม่ยอมหยุดคุกคาม ย้ำออกมาสู้ตายเพื่อลูกน้อยวัย 10 เดือน
เมื่อวันที่ 29 มี.ค. 2565 ที่ศาลากลางจังหวัดนครนายก เอ็มมี่ อมลวรรณ ศิริกิตติรัตน์ พร้อมนายณัฐธีร์ พัสวีดิลกภัทร์ หัวหน้าพรรคไทยเป็นหนึ่ง และทนาย โจ้ ปริญญา เดินทางมาพบกับผู้ว่าราชการจังหวัดนครนายก เพื่อมาพูดคุยหลังถูกนักการเมืองท้องถิ่นระดับจังหวัดนครนายกคุกคามจนกระทั่งมีการแจ้งความดำเนินคดีแต่ก็ยังไม่หยุดพฤติกรรม โดยผู้ว่าราชการจังหวัดนครนายกได้มอบหมายให้รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครนายกเป็นผู้ดูแล โดยเอ็มมี่และพร้อมนายณัฐธีร์ พัสวีดิลกภัทร์ หัวหน้าพรรคไทยเป็นหนึ่ง และทนาย โจ้ ปริญญา ได้เข้าพูดคุยกับรองผู้ว่าฯ ประมาณ 1 ชั่วโมง
เอ็มมี่ อมลวรรณ ผู้เสียหาย กล่าวว่า โดยเมื่อปี 2564 ที่ผ่านมา ได้มีการเข้าแจ้งความ แต่นักการเมืองท้องถิ่นในจังหวัดนครนายกก็ยังไม่หยุด และล่าสุดเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2565 ก็ได้มีการแสดงพฤติกรรมพูดปั่นถึงกระทั่งแฟนเก่าของเอ็มมี่ที่มีลูกด้วยกัน โดยพูดในเชิงว่าให้ระวังตัวไว้นะ ซึ่งเค้านั้นเป็นคนมีครอบครัว มีภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมาย ได้บอกต่ออีกว่านักการเมืองท้องถิ่นในจังหวัดนครนายก คือ ชอบเอ็มมี่ และเมื่อเอ็มมี่รู้ว่าเขานั้นมีภรรยาแล้วเอ็มมี่ก็ได้บอกปฏิเสธ และไม่ให้มายุ่งเกี่ยว แต่เค้าก็ไม่ยอม มีอีโก้สูง แม้กระทั่งตอนพิธีบวงสรวงพญานาคก็ได้เคยขู่ว่า จะเข้าไปทำลายงานซึ่งก็ได้โผล่ไปที่งานจริงๆ ตอนนั้นแฟนของเอ็มมี่ก็ได้ถ่ายคลิปเอาไว้ คือตอนนั้นเอ็มมี่ตั้งท้องอยู่ และไม่อยากให้กระทบกับลูก แต่ตอนนี้เรื่องนี้ได้กระทบลูกเอ็มมี่มากที่ตอนนี้อายุ 10 เดือน กลายเป็นคนขี้กลัว หวาดผวาตลอด และตนตั้งใจว่าเมื่อไหร่ที่ตนคลอดและสุขภาพดีแล้วตนก็จะสู้ให้ถึงที่สุด และตั้งใจจะแถลงข่าวก่อนวันสืบพยานในเดือนหน้า
...
เอ็มมี่ อมลวรรณ กล่าวถึงที่มาที่ไปของเรื่องนี้ว่า เนื่องจากมีนักการเมืองท้องถิ่นในจังหวัดนครนายก ได้ติดเครื่องบอกพิกัดที่รถของเอ็มมี่ทั้งหมด 3 ครั้ง โดยสามารถจับได้ครั้งที่ 1 และ 2 ส่วนครั้งที่สามารถรวบตัวผู้กระทำความผิดจ้างวานไว้ได้ โดยสาเหตุที่นักการเมืองท้องถิ่นคนนี้กระทำเพราะว่าชอบพอตน แต่ตนนั้นมีครอบครัวและลูกแล้วเค้าจึงไม่ยอม และได้ทำการปั่นป่วนชีวิตตน ซึ่งช่วงที่นักการเมืองท้องถิ่นคนนี้ได้กระทำตอนนั้นตนตั้งท้องอยู่ และในตอนนี้ส่งผลกระทบต่อลูกตนมาก จึงทำให้ตนตัดสินใจที่จะสู้ตายเพื่อลูก โดยนักการเมืองท้องถิ่นจังหวัดนครนายกคนนี้ได้ก่อเหตุมานานประมาณ 2 ปี ตั้งแต่ตนตั้งครรภ์จนคลอดลูก
ผู้เสียหาย กล่าวต่อว่า ตนรู้จักกับนักการเมืองท้องถิ่นคนนี้ จากการที่เมื่อก่อนตนได้โพสต์ขายรถ จากนั้นนักการเมืองท้องถิ่นจังหวัดนครนายกได้ติดต่อขอซื้อรถ และได้มีการพูดคุยกันมาเป็นปีและได้มีการช่วยเหลือกันเกิดขึ้น ซึ่งในช่วงนั้นเอ็มมี่แย่ ซึ่งตนก็ไม่ได้ลืมบุญคุณ แต่บางสิ่งเขาก็ได้กระทำมากเกินไป ทั้งนี้ตั้งใจที่จะแถลงข่าวแต่ก็ยังมีความกลัว ซึ่งเอ็มมี่ไม่มีเพื่อนไม่มีใครจนกระทั่งได้คุณหนึ่ง ณัฐธีร์ พัสวีดิลกภัทร์ หัวหน้าพรรคไทยเป็นหนึ่ง และทนาย โจ้ ปริญญา เข้ามาช่วย จึงเกิดความรู้สึกอบอุ่นและเป็นเซฟโซนให้ตนได้ในระดับหนึ่ง ซึ่งหลังจากที่นักการเมืองท้องถิ่นรายนี้รู้ว่าได้มีการแจ้งความก็ยิ่งกระทำกับตนหนักขึ้น
...
"จริงแล้วการที่ถูกจับได้ตั้งแต่ติดจีพีเอสตัวที่สองก็ควรหยุดแต่ไม่เลย เค้าพยายามที่จะติดตัวที่ 3 แต่ตัวที่ 3 แฟนเอ็มมี่จับได้ก่อน ซึ่งที่จับได้เพราะว่าจำชุดที่เค้าใส่มาติดได้ในครั้งที่ 2 และตอนนั้นตนขับรถจะเข้าบ้านเมื่อถึงปากซอยตอนนั้นเห็นคนหนึ่งมาดักท่าทางลุกลี้ลุกลน ตอนนั้นจึงได้จอดรถและลงจากรถ ชายคนนั้นตกใจและทำอะไรไม่ถูกน่าจะเกิดความกลัวด้วย และสิ่งหนึ่งที่เราเห็นคือชายคนดังกล่าวได้โทรหาคนที่จ้างวานเค้าว่าถูกจับได้แล้วนะ และชายคนดังกล่าวก็ยอมรับและเปิดเผยทุกอย่าง และลงนามเอกสารที่สถานีตำรวจ ซึ่งก็ได้คัดสำเนามาทั้งหมดแล้ว" เอ็มมี่ อมลวรรณ กล่าว
ด้านนายณัฐธีร์ พัสวีดิลกภัทร์ หัวหน้าพรรคไทยเป็นหนึ่ง กล่าวว่า จากที่เข้ายื่นเรื่องกับท่านรองผู้ว่าฯ แนวโน้มไปในทางที่ดี โดยทางผู้ใหญ่ของจังหวัด อาจมีการพูดคุยและหาทางออกร่วมกันภายใน จากนั้นจะแจ้งกลับมาทางตนว่าทางออกจะเป็นยังไง สำหรับความพยายาม ครั้งล่าสุด หรือครั้งที่ 3 ที่ทางเอ็มมี่จับได้นั้น จับได้ที่ปากซอยเข้าบ้านตัวเองที่ย่านอ่อนนุช ทุกอย่างอยู่ในสำนวนของตำรวจ แต่ว่าตำรวจเองก็เกรงในอิทธิพลของนักการเมืองท้องถิ่นระดับจังหวัด โดยวันนี้ได้นำหลักฐาน คำร้องมามอบให้กับทางจังหวัด ที่ผ่านมา เอ็มมี่ได้ฟ้องแพ่งคดีละเมิดไปที่ศาลแพ่ง ซึ่งจะมีการไต่สวนมูลฟ้องในเดือนหน้า ในส่วนที่สองมองว่า สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นการใช้รถหลวงเข้ามาก่อเหตุกระทำความผิดมันเลยเป็นการประพฤติมิชอบของข้าราชการทางการเมือง จึงได้นำมาคุยกับท่านผู้ว่าฯ
...
หัวหน้าพรรคไทยเป็นหนึ่ง ในฐานะเพื่อนของผู้เสียหาย กล่าวอีกว่า ในความเป็นจริงเมื่อเอ็มมี่ได้มีการแจ้งความเอาผิด นักการเมืองท้องถิ่นคนนั้นน่าที่จะหยุดพฤติกรรมและยุติ แต่ก็ไม่ยอมหยุด ดังนั้นในเมื่อคุณสู้ ทางเอ็มมี่ก็จะสู้ ส่วนที่บอกว่าหนักกว่าเดิมคือเริ่มมีการข่มขู่ไปทางแฟนเอ็มมี่ให้ระวังตัว.