SPRC เปิดสายด่วน 1567 ให้ความช่วยเหลือด้านการเยียวยา ชี้แจงเตรียมพร้อมอุดรอยรั่วท่อน้ำมันใต้ทะเล และขอโทษชาวระยอง เตรียมประเมินผลกระทบเพื่อ ฟื้นฟูทรัพยากรในทะเลและสิ่งแวดล้อม

เมื่อวันที่ 20 ก.พ. 2565 บริษัท สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด มหาชน ได้ออกแถลงการณ์ โดยนายโรเบิร์ต โดบริค ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SPRC ได้กล่าวว่า “บริษัทฯ ได้จัดเตรียมแผนการทำงานเกี่ยวกับการนำน้ำมันออกจากท่ออ่อนใต้ทะเลและการเก็บกู้ท่อที่เสียหายจากจุดขนถ่ายน้ำมันในทะเล (SPM) รวมถึงแนวทางป้องกันและการตอบโต้อย่างรัดกุม โดยความพยายามในครั้งนี้ บริษัทฯ ได้รับการสนับสนุนจากผู้เชี่ยวชาญ และนักวิชาการทางด้านอุตสาหกรรมทั้งในประเทศ และต่างประเทศ รวมถึงผู้ทรงคุณวุฒิหลายท่าน การปฏิบัติงานในครั้งนี้มีความสำคัญเป็นอย่างมาก บริษัทฯ ขอขอบคุณการสนับสนุนจากกองทัพเรือ กรมเจ้าท่า และหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องที่ได้ร่วมทำงานกับพวกเราอย่างเต็มที่ บริษัทฯ ขอยืนยันว่าจะทำงานร่วมกันกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด และปฏิบัติตามข้อบังคับที่ได้รับจากหน่วยงานทั้งหมดอย่างเคร่งครัด

...

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SPRC กล่าวต่อว่า SPRC ให้ความสำคัญเป็นอย่างมากกับการอยู่ร่วมกัน และความสัมพันธ์อันดีอย่างยาวนานมาโดยตลอดระหว่าง SPRC กับชุมชนชาวระยอง ผมขอโทษทุกท่านที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ครั้งนี้ SPRC จะทำงานร่วมกับหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง เพื่อประเมินผลกระทบและจะดำเนินงานด้านการฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมต่อไป

นายโรเบิร์ต บริษัทฯ พยายามอย่างเต็มที่ในการพิจารณาชดใช้ค่าเสียหายที่สมเหตุสมผลและเป็นธรรมให้กับผู้ที่ได้รับผลกระทบ โดยบริษัทฯ ได้ร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐหลายหน่วยงาน รวมถึงผู้มีส่วนเกี่ยวข้องหลัก โดยได้มีการจัดตั้งคณะทำงาน 4 คณะ เพื่อพิจารณาจัดทำหลักเกณฑ์และกระบวนการชดใช้ค่าเสียหายให้แก่ผู้ได้รับผลกระทบในแต่ละกลุ่ม นอกจากนี้ บริษัทฯ ได้ตั้งสายด่วน 1567 และศูนย์ให้ความช่วยเหลือที่บ้านสบ๊าย สบาย รีสอร์ต หาดแม่รำพึง ตำบลตะพง เพื่อให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการช่วยเหลือเยียวยา

นอกจากนี้ทางบริษัทฯ ยังได้ตั้งคณะกรรมการตรวจพิสูจน์และสืบหาข้อเท็จจริง เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงของปัญหาน้ำมันรั่วในครั้งนี้ โดยคณะกรรมการตรวจพิสูจน์และสืบหาข้อเท็จจริง ประกอบด้วยผู้เชี่ยวชาญด้านวิชาการ 3 ท่าน ที่มีความรู้เฉพาะในสาขาวิศวกรรมเครื่องกล วัสดุศาสตร์ และการวิเคราะห์หาสาเหตุ และผู้แทน ของบริษัทฯ 2 ท่าน โดยขั้นตอนการตรวจพิสูจน์และสืบหาข้อเท็จจริง จะทำขึ้นอย่างเป็นอิสระ โปร่งใส และเป็นไปตามข้อเท็จจริง.