ทสม.ระยองยื่น 5 ข้อเรียกร้องให้ กมธ.จัดการบริษัทต้นตอทำน้ำมันรั่วไหลลงทะเล 2 ครั้งซ้อน เร่งสอบสวนหาสาเหตุและปริมาณน้ำมัน ที่แน่ชัดดำเนินการเอาผิดทั้งแพ่งและอาญา เร่งชดเชยให้ชาวบ้านยึดคำพิพากษาศาลเป็นบรรทัดฐาน บังคับให้ SPRC ตั้งมูลนิธิฟื้นฟูทะเล และยกท่อใต้ทะเลขึ้นบนบก พร้อมตั้งกองทุน 100 ล้านบาทสางปัญหาเบื้องต้น ส่วนปฏิบัติการเก็บกู้คราบน้ำมันในทะเลใกล้แล้วเสร็จ เหลืออีกแค่ไม่กี่สิบลิตรลอยในพื้นที่เพียง 0.1 ตร.กม. ไม่ถูกซัดขึ้นฝั่งแน่นอน บรรยากาศชายหาดแม่รำพึงเริ่มกลับมาคึกคัก นักท่องเที่ยวพาครอบครัวพักผ่อนรับประทานอาหารและลงเล่นน้ำทะเลกันแล้ว

จากเหตุการณ์น้ำมันดิบรั่วไหลครั้งที่ 2 จากทุ่นผูกเรือน้ำลึกจุดขนถ่ายน้ำมันกลางทะเลของบริษัท สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ SPRC กลางทะเลระยอง ขณะเจ้าหน้าที่เคลื่อนย้ายท่อใต้ทะเลในจุดที่น้ำมันรั่วครั้งแรก ทำให้มีน้ำมันค้างท่อกว่า 5,000 ลิตรทะลักออกมา มวลคราบน้ำมันก้อนใหญ่อยู่กลางทะเลอยู่ระหว่างเร่งกำจัด บางส่วนถูกคลื่นซัดขึ้นฝั่งชายหาดแม่รำพึง เจ้าหน้าที่ระดมกำลังเข้ากำจัดแล้ว

ที่ห้องประชุมเทศบาลตำบลบ้านเพ อ.เมืองระยอง เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 13 ก.พ. นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ประธานคณะกรรมาธิการกิจการศาล องค์กรอิสระ องค์กรอัยการ รัฐวิสาหกิจ องค์การมหาชน และกองทุน สภาผู้แทนราษฎร พร้อมคณะ นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายโสภณ ทองดี อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมควบคุมพิษ นายสุพจน์ ต่ออาจหาญ ปลัดจังหวัดระยอง นายไพรัตน์ อรุณเวสสะเศรษฐ นายกเทศมนตรีตำบลบ้านเพ พร้อม 4 องค์กรภาคธุรกิจ ประกอบด้วย สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยว จ.ระยอง สมาคมธุรกิจท่องเที่ยว จ.ระยอง สมาคมท่องเที่ยวเกาะเสม็ด และชมรมผู้ประกอบการร้านอาหาร จ.ระยอง เข้าร่วมประชุมรับฟังความคิดเห็นกรณีเหตุน้ำมันรั่วกลางทะเลระยอง

...

นายจิรายุกล่าวว่า มาพิจารณาและตรวจสอบถึงผลกระทบจากเหตุการณ์น้ำมันรั่วกลางทะเล ที่มีต่อภาคธุรกิจท่องเที่ยวทางทะเลทั้งบนฝั่งและบนเกาะเสม็ด นำเรื่องไปเสนอรัฐบาลเพื่อหาวิธีแก้ไขในทุกมิติให้เกิดความเป็นธรรมสูงสุดและจะเสนอให้สนับสนุนงบประมาณด้านการท่องเที่ยวของ จ.ระยองเพิ่มขึ้นด้วย ขณะที่นายไพโรจน์ ปิติพันธรัตน์ นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยว จ.ระยอง กล่าวว่า ต้องการให้เข้าตรวจสอบพื้นที่หาดแม่รำพึงเป็นอันดับแรก เพราะเป็นศูนย์กลางของผลกระทบที่ได้รับความเสียหายอย่างหนัก ควรเร่งเยียวยาอย่างเป็นธรรมและรวดเร็วที่สุด

ด้านนายสุรินทร์ สินรัตน์ ประธานเครือข่ายอาสาสมัครพิทักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมหมู่บ้าน (ทสม.) จ.ระยอง เสนอข้อเรียกร้อง 5 ข้อคือ 1.เร่งรัดสอบสวนสาเหตุของการรั่วไหลในคืนวันที่ 25 ม.ค. จำนวนที่แน่นอนและแถลงให้ประชาชนทราบ 2.เร่งรัดสอบสวนเอาผิดกับผู้ที่กระทำให้เกิดการรั่วไหลซ้ำในวันที่ 10 ก.พ.ให้เป็นตามกฎหมายแพ่งและอาญา 3.เร่งรัดชดเชยให้ประชาชนที่ได้รับผลกระทบ ยึดคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 2 เป็นบรรทัดฐานจ่ายก่อนเพื่อบรรเทาความเดือดร้อน 4.บังคับให้บริษัท SPRC ตั้งมูลนิธิฟื้นฟูทะเลระยอง มีกรรมการบริหารแบบมีส่วนร่วม และ 5.บังคับให้มีการยกท่อส่งสินค้าใต้ทะเลใต้ดินขึ้นบนบกทั้งหมดเพื่อป้องกันปัญหา นอกจากนี้อยากให้ SPRC ตั้งกองทุนเมื่อมีเหตุการณ์ต่างๆเกิดขึ้น 100 ล้านบาท

หลังรับฟังข้อเสนอนายจิรายุกล่าวว่า จะนำข้อเสนอจากทุกภาคส่วนไปเสนอต่อรัฐบาล พร้อมทั้งไปตรวจสอบพื้นที่เกาะเสม็ด รับทราบปัญหาที่แท้จริงเพื่อหาแนวทางช่วยเหลือต่อไป ส่วนนายโสภณ ทองดี อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กล่าวว่า ความเสียหายระบบนิเวศใต้ทะเล ทั้งปะการัง หญ้าทะเล รวมถึงสัตว์ทะเล เบื้องต้นยังไม่พบเพราะต้องมีการเก็บข้อมูลในระยะยาว 2-3 ปี หากพบผลกระทบต่อระบบนิเวศจะดำเนินคดีตามกฎหมาย

ส่วนความคืบหน้าการเก็บกู้คราบน้ำมันในทะเล นายอนันต์ นาคนิยม รอง ผวจ.ระยอง เผยภายหลังร่วมประชุมว่า ภาพรวมสถานการณ์ดีขึ้น มีคราบน้ำมันเหลืออยู่ในทะเลไม่กี่สิบลิตร ลอยเป็นบริเวณกว้างเพียง 0.1 ตารางกิโลเมตรเท่านั้น ห่างจากชายฝั่งหาดแม่รำพึงประมาณ 4 กม. จัดเรือออกปฏิบัติการ 22 ลำ แบ่งลากวางแนวทุ่น 5 เส้น 10 ลำ ที่เหลือเข้าโจมตีกลุ่มคราบน้ำมันให้แตกและจมลงทะเล ส่วนบนฝั่งยังจัดวางกำลังเฝ้าระวังตามชายหาดเพื่อตรวจสอบคราบน้ำมัน หากพบจะเข้าจัดเก็บไปทำลายทันที ยืนยันว่าปริมาณคราบน้ำมันที่เหลืออยู่ในทะเลขณะนี้จะไม่ขึ้นฝั่งแน่นอน ส่วนการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ ในวันที่ 15 ก.พ.นี้ บริษัท SPRC จะเรียกผู้ที่ได้รับผลกระทบทุกกลุ่มอาชีพที่ลงทะเบียนไว้ประมาณ 7,600 คน เข้าประชุมชี้แจงวางมาตรการแนวทางช่วยเหลือเยียวยาต่อไป

ขณะที่บรรยากาศชายหาดแม่รำพึง ตั้งแต่ลานหินขาวไปถึงก้นอ่าวเริ่มมีนักท่องเที่ยวเข้ามาหนาตากว่าทุกวัน ส่วนใหญ่นั่งรับประทานอาหารในร้านริมชายหาดที่เริ่มเปิดขายกันบ้างแล้ว มีบางส่วนลงเล่นน้ำทะเลกันสนุกสนาน แม่ค้าริมชายหาดต่างดีใจที่เริ่มมีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น อาจเป็นผลพวงจากการจัดงาน “ระยอง อินเลิฟ ชวนชิม ริมเล” ให้กินอาหารทะเลฟรี และมีการแสดงดนตรีตลอดงาน ตั้งแต่วันที่ 12-14 ก.พ. นายอภิรัตน์ ทัศมาลี นักท่องเที่ยวชาวระยอง กล่าวว่า ไม่รู้สึกกังวลกับคราบน้ำมันในทะเล วันนี้พาเพื่อนจากกรุงเทพฯมาเที่ยวกินอาหารทะเลและลงเล่นน้ำ ไม่พบสิ่งแปลกปลอมในน้ำทะเล ขณะที่นางจันทนา คุณาเกื้อ เจ้าของร้านป้าแก่ซีฟู๊ด ตลาดบ้านเพ กล่าวว่า วันนี้ลูกค้าคึกคักมาก ขายดี ต่างจากเมื่อวันเสาร์เงียบมากไม่มีลูกค้าเลย สอบถามลูกค้าส่วนมากยังมั่นใจในคุณภาพและความสะอาดของอาหารทะเลระยองว่ารับประทานได้ปลอดภัย

...