“บุ๋ม-ปนัดดา” พร้อม “เล็ก-ฝันเด่น” ลงดำน้ำพิสูจน์ทะเลระยอง เห็นกับตาพบก้อนกลมสีดำเกลื่อนพื้นทรายใต้ทะเล คาดเป็นผลจากการใช้สารเคมีโปรยจับคราบน้ำมันดิบ ส่วนชายหาดใกล้ฝั่งน้ำใสสะอาดลงเล่นได้แล้ว ชาวอวนปูโวยได้รับผลกระทบเต็มๆ จับปูได้น้อยและปูตายเร็วกว่าปกติ รายได้แทบไม่พอยาไส้ ผู้บริหารบริษัทต้นตอก่อมลพิษลงพื้นที่พบกลุ่มชาวประมง ยกมือไหว้ขอโทษ ยันจะเยียวยาอย่างเป็นธรรม “วราวุธ” ตอบโต้ ส.ส.ก้าวไกล ระบุใช้สารกำจัดน้ำมันไป 8.5 หมื่นลิตร แต่ไม่รู้ระยะยาวจะส่งผลต่อการก่อมะเร็งหรือไม่ชี้เผยแผนฟื้นฟูที่ดีที่สุด ต้องจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยว และปล่อยให้ธรรมชาติฟื้นฟูตัวเอง

สังคมยังเฝ้าจับตาการทำงานของภาครัฐว่าจะเอาจริงเอาจังลงโทษผู้กระทำผิดอย่างไร กรณีบริษัท สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ SPRC ทำน้ำมันดิบรั่วไหลจากท่อใต้ทะเลบริเวณทุ่นผูกเรือน้ำลึก เมื่อคืนวันที่ 25 ม.ค. ส่งผลให้เกิดหายนะทางสิ่งแวดล้อมและระบบนิเวศ สร้างมลพิษต่อท้องทะเล จ.ระยอง มีความเสียหายเป็น วงกว้าง แม้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งกำจัดคราบน้ำมันจนสถานการณ์คลี่คลายไม่พบคราบน้ำมันแล้วนั้น

...

ความคืบหน้าในเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 3 ก.พ. บรรยากาศบริเวณชายหาดแม่รำพึง ต.ตะพง อ.เมืองระยอง ช่วงเช้าน้ำทะเลขึ้นเต็มฝั่ง บางจุดยังพบบูมสีส้มวางอยู่ริมชายหาดเป็นระยะและมีธงสีแดงปักไว้ห้ามลงเล่นน้ำ จากการสังเกตพบน้ำทะเลค่อนข้างใส ไม่มีคราบเขม่าสีดำหรือคราบฟิล์มบางๆที่คาดว่าเป็นคราบน้ำมันลอยบนผิวน้ำเหมือนเมื่อหลายวันก่อน ส่วนที่บ้านสบายสบาย รีสอร์ต ที่จังหวัดระยองจัดเป็นจุดรับลงทะเบียนแจ้งเรื่องร้องทุกข์กรณีคราบน้ำมันดิบรั่วไหล มีชาวบ้านผู้ได้รับผลกระทบทยอยเข้ายื่นเอกสารขอรับเงินชดเชยจากการขาดรายได้ จำนวนมาก

นางจันทร์เพ็ญ พร้อมพงษ์ ชาวประมงบ้านก้นอ่าว-หาดแม่รําพึง ต.ตะพง อ.เมืองระยอง กล่าวว่า ตั้งแต่เกิดเหตุการณ์น้ำมันรั่ว ครอบครัวออกเรือเล็กไปวางอวนปูห่างจากฝั่งราว 2 ไมล์ทะเล ปรากฏว่าแทบไม่มีปูม้าติดอวนเลย ได้แค่ไม่ถึง 10 ตัวต่ออวน 1 หัว แถมยังถูกเรือของเจ้าหน้าที่ที่ไปวางทุ่นดักน้ำมันลากอวนขาดเสียหายไป 1 หัว ราคาอวนต่อหัว 3 พันบาท ไม่รู้ใครจะรับผิดชอบ จับปูก็ไม่ได้มากพอเลี้ยงครอบครัว แถมอวนยังขาดเสียหายอีก ปูม้าที่จับขึ้นมาแล้วก็ขายไม่ได้ เพราะผู้บริโภคกลัวจะปนเปื้อนคราบน้ำมันซ้ำเติมกันอย่างหนัก

ชาวประมงอวนปูคนหนึ่งยังให้ข้อมูลอ้างว่า หลังมีน้ำมันรั่วไหลลงทะเลจับปูได้น้อยลงมาก ปูบางตัวตายคาอวนขายไม่ได้ บางตัวพ่นฟองออกมาเป็นฟองสีดำแล้วตายเร็วกว่าปกติ เมื่อก่อนไม่เคยเป็นแบบนี้ มั่นใจว่ามาจากผลกระทบจากมลพิษของน้ำมันดิบที่รั่วไหล ก่อนปีใหม่ที่ยังไม่เกิดเหตุยังคราดหอยเสียบริมชายฝั่งได้อยู่ แต่ตอนนี้ไม่มีหอยสักตัว เดือดร้อนตามมากันเป็นระบบ จนถึงขณะนี้บริษัทผู้ก่อมลพิษกลับไม่ยอมออกมาแสดงความรับผิดชอบหรือลงมาพูดคุยกับผู้ได้รับความเดือดร้อน ขณะที่ภาครัฐกลับแสดงท่าทีปกป้องบริษัทเอกชน ไม่สนใจชาวบ้านเลย

ต่อมาช่วงสาย พล.ร.ท.พิชัย ล้อชูสกุล ผบ.ทัพเรือภาค 1 และ ผอ.ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์แห่งชาติทางทะเลภาค 1 (ศรชล.ภาค 1) นำทีมนักดำน้ำจากหลายหน่วยงาน เช่น กองทัพเรือ กรมทรัพยากรธรรมชาติทางทะเลและชายฝั่ง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ พร้อม น.ส.ปนัดดา วงศ์ผู้ดี นักแสดง-พิธีกร และนายฝันเด่น จรรยาธนากร นักแสดงจิตอาสา ลงดำน้ำสำรวจท้องทะเลบริเวณแหล่งปะการังน้ำตื้นใกล้กับจุดดำน้ำเกาะเสม็ด จ.ระยอง

บุ๋ม-ปนัดดา กล่าวว่า จากการออกไปดำน้ำยังจุดที่มีแนวปะการัง ห่างจากฝั่งหาดแม่รำพึงไป 10 กม. ลงดำน้ำที่ระดับความลึก 10 เมตร 15 เมตร และ 20 เมตร รวม 3 จุด ในการออกสำรวจครั้งนี้ บริเวณใต้ทะเลพบมีก้อนสีดำกลมๆเล็กๆกระจายอยู่ที่พื้นทะเลเป็นบางจุด ได้เก็บตัวอย่างก้อนกลมขึ้นมาด้วย คาดว่าน่าจะเป็นก้อนน้ำมันดิบที่ถูกกดให้จมจากสารเคมี มีปริมาณมากพอสมควร ยืนยันว่าการดำสำรวจครั้งนี้เพื่อให้เห็นกับตาว่ายังมีก้อนน้ำมันที่ตกค้างอยู่บนพื้นผิวท้องทะเลจริง แต่มันอยู่ไกลจากฝั่งมาก ส่วนบริเวณชายหาดน้ำใส ลงเล่นน้ำได้แล้ว ส่วนที่ไกลออกไปจากชายฝั่งบนผิวน้ำจะมีฟิล์มคราบน้ำมันใสๆบางๆลอยอยู่ เมื่อลงไปสัมผัสคราบนี้ไม่ติดตัว

...

เล็ก-ฝันเด่น กล่าวว่า จากการดำสำรวจใต้ท้องทะเล จุดแรกห่างฝั่ง 10 กม. พื้นทรายใต้น้ำมีเม็ดกลมเล็กๆ น่าจะเกิดจากการใช้สารเคมี ปะการังมีลักษณะผิดปกติจากธรรมชาติ ส่วนระยะที่ 2 ห่างฝั่งประมาณ 5 เมตร พบมีคราบน้ำมันแปะอยู่บนพื้นทราย มีลักษณะเป็นแผ่นใหญ่บ้างเล็กบ้าง ใกล้เข้ามา 3 กม.จากชายฝั่ง พื้นทรายเกลี้ยงสะอาดน้ำใส แสดงว่าตั้งแต่วันที่เริ่มรั่วจนถึงวันนี้ การบริหารจัดการค่อนข้างมีประสิทธิภาพในการสลายคราบน้ำมันตามชายหาดและพื้นน้ำ แต่ในส่วนของใต้น้ำลงไปยังคงมีผลกระทบ หลังจากการใช้สารเคมีน่าจะต้องมีการแก้ไขดูแลทรัพยากรธรรมชาติอย่างใกล้ชิดและต่อเนื่อง ต้องใช้เวลาฟื้นฟู เชื่อมั่นมาเที่ยวระยองได้ อาหารทะเลกินได้

ต่อมาเวลา 14.30 น. นายโรเบิร์ต โดบริค กรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ SPRC และนายจีรศักดิ์ มหาสุคนธ์ ผจก.ฝ่ายทรัพยากรบุคคล พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ของบริษัท เดินทางมาพบกลุ่มประมงเรือเล็กคลองกะเฌอ หาดแม่รำพึง ต.ตะพง อ.เมืองระยอง เพื่อพูดคุยชี้แจงถึงขั้นตอนการเยียวยา พร้อมนำถุงยังชีพมามอบให้ มีชาวประมงราว 50 คน มารอฟังการชี้แจง บรรยากาศค่อนข้างตึงเครียด

...

นายสุนทร แสงเมฆ อายุ 56 ปี ตัวแทนชาวประมง กล่าวว่า ต้องการให้ทาง SPRC รับปากว่าจะเยียวยาเมื่อไหร่ อย่างไร เพราะครั้งที่แล้วรอนานหลายปีและได้เงินเพียงแค่ 30,000 บาทต่อรายเท่านั้น ถือว่าไม่คุ้มกับความเสียหายที่สูญเสียไป ต้องการให้ผู้บริหารรับปากว่าจะเยียวยาอย่างเร็วที่สุดเมื่อไหร่ กลุ่มชาวประมงจะรอ หวังว่าคงจะไม่หนีหายไป เพราะทุกวันนี้ลำบากกันถ้วนหน้า คงจะมาตามสัญญาที่นัดไว้ และเยียวยาให้กับพวกเราโดยเร็วที่สุด

นายจีรศักดิ์ มหาสุคนธ์ ผจก.ฝ่ายทรัพยากรบุคคล SPRC กล่าวต่อหน้ากลุ่มชาวประมงว่า บริษัทจะรับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดขึ้น ส่วนเรื่องการเยียวยา จะตั้งคณะกรรมการขึ้นมา 3 ฝ่าย มี บริษัท SPRC จังหวัดระยอง และตัวแทนผู้ได้รับผลกระทบ เพื่อให้เกิดความโปร่งใสมากที่สุด ระยะเวลาในการเยียวยาคงต้องรอให้มีการสรุปก่อน จะมาให้คำตอบอีกครั้งในสัปดาห์หน้า ในวันนี้ได้เตรียมถุงน้ำใจมามอบให้ ยืนยันจะไม่เงียบหายไปอย่างแน่นอน

ด้านนายโรเบิร์ต โดบริค ผู้บริหาร SPRC กล่าวเป็นภาษาอังกฤษ มีล่ามแปลภาษาไทยว่า “ขอโทษและจะรับผิดชอบอย่างเป็นธรรมที่สุด” พร้อมยกมือไหว้กลุ่มชาวประมง ส่งผลให้บรรยากาศการพูดคุยเป็นไปด้วยดีที่รัฐสภาการประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีนายสุชาติ ตันเจริญ รองประธานสภาฯคนที่หนึ่งทำหน้าที่ประธานการประชุม พิจารณากระทู้ถามสดด้วยวาจา น.ส.เบญจา แสงจันทร์ ส.ส.พรรคก้าวไกล ถาม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และรมว.กลาโหม ถึงการแก้ปัญหาน้ำมันดิบรั่วลงทะเล พื้นที่มาบตาพุด จ.ระยอง มีนายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติเเละสิ่งเเวดล้อม (ทส.) เป็นตัวเเทนชี้เเจง น.ส.เบญจาเรียกร้องให้รัฐบาลรับผิดชอบคำพูดของ รมว.ทรัพยากรฯ และ รมว.อุตสาหกรรม ที่ให้สัมภาษณ์ในวันเกิดเหตุว่าไม่มีผลกระทบกับสิ่งแวดล้อมและประชาชน ตนมองว่าเป็นการปกป้องบริษัทเอกชน ไม่รักษาผลประโยชน์ของชาติ อีกทั้งพบว่าการให้ตัวเลขปริมาณน้ำมันที่รั่วไหลมีปริมาณลดลงจากระดับแสนลิตร เหลือหมื่นลิตร

...

นายวราวุธชี้แจงว่า จากการลงพื้นที่เมื่อสุดสัปดาห์พบเป็นเพียงแผ่นฟิล์มบางๆ ไม่เหมือนกับน้ำมันรั่วเมื่อปี 2556 ที่อ่าวพร้าว ในฐานะ รมว.ทรัพยากรฯต้องไม่สร้างความตระหนก ต้องให้ข้อมูลที่ถูกต้องกับสาธารณะ จากข้อมูลเมื่อวันที่ 2 ก.พ. ตรวจพื้นทะเลพบปะการังมีสภาพสมบูรณ์ จะตรวจทุกระยะ ยืนยันไม่ปกป้องบริษัทจะฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายที่เกิดขึ้นกับการใช้งบประมาณแผ่นดินเพื่อแก้ปัญหา “ผมรักผมหวงผืนป่า รักษาทะเลขนาดไหน เหตุการณ์น้ำมันรั่ว เมื่อวันอาทิตย์ลงพื้นที่ ไม่พบคราบน้ำมันที่เห็นด้วยตาเปล่า น้ำมันกระจายแตกตัวลงสู่ใต้ทะเล ป้องกันคราบน้ำมันขึ้นหาดที่อ่าวพร้าว หาดแม่รำพึงได้” นายวราวุธชี้แจง จากนั้นเกิดการโต้คารมกันอีกหลายครั้ง น.ส.เบญจา ระบุที่บอกว่ารักทะเล รักธรรมชาติ แต่ไม่มีคำว่ารักประชาชน หรือดูแลประชาชนที่เดือดร้อน นายวราวุธ สวนว่า ที่บอกว่าไม่เคยรักประชาชนนั้นเข้าใจผิด ตนดูแลธรรมชาติเพื่อคนไทย 67 ล้านคน

น.ส.เบญจาถามอีกว่าข้อเท็จจริงที่พูดตรงไปตรงมาหรือไม่ เมื่อตอบแบบนี้ ต้องการตั้งคำถามกับนายกฯ ที่กำกับหลายกระทรวงกับภัยพิบัติ เมื่อส่งมาตอบไม่ได้รับคำตอบถูกต้องชัดเจน เมื่อ รมว.ไม่ทราบ ฝากให้รีบรับรายงานจากจังหวัด ประชาชนเดือดร้อนแสนสาหัสมาก กับคำถามสุดท้ายมีบทเรียนปี 2556 ใช้สารเคมีกำจัดคราบน้ำมัน ขอทราบจำนวน และจะกลายเป็นสารปนเปื้อนตกค้างในทะเล กระทบต่อสัตว์น้ำระยะยาว ก่อเป็นสารก่อมะเร็ง กระทบระบบนิเวศ ธรรมชาติ และชาวประมง ไม่ใช่แค่ควบคุมสถานการณ์ ควรต้องชดเชยผลกระทบในระยะยาวให้เป็นธรรม รวมถึงแผนฟื้นฟูธรรมชาติ ทั้งสัตว์ทะเลชายฝั่ง แผนป้องกันภัยพิบัติ ความเสียหายที่เกิดขึ้นในอนาคต

นายวราวุธชี้แจงว่าสารที่ใช้กำจัดน้ำมันมีองค์ประกอบไฮโดรคาร์บอน เมื่อรวมตัวกับน้ำและน้ำมัน จะทำให้น้ำมันแตกตัวลงระดับที่ตาเปล่ามองไม่เห็น จากนั้นจุลินทรีย์ในทะเลจะกัดกินก้อนน้ำมันขนาดเล็ก 1-2 เดือน และย่อยสลาย ระยะยาวจะเป็นสารก่อมะเร็งหรือไม่ ต้องสอบถาม แต่เบื้องต้นสารที่ใช้ปลอดภัยระดับหนึ่งเพราะเป็นฟู้ดเกรดไม่ต่างจากน้ำยาล้างจานที่ใช้ในครัวเรือนใช้สารดังกล่าวไป 8.5 หมื่นลิตรกับปริมาณน้ำมันดิบรั่ว 5 หมื่นลิตร เพราะต้องใช้สารฉีดดักไว้ก่อน แผนฟื้นฟูที่ดีที่สุดคือจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยว ธรรมชาติทรงพลัง หากให้เวลาธรรมชาติจะฟื้นฟูด้วยตัวเอง อย่างไรก็ตาม น.ส.เบญจาได้กล่าวช่วงท้ายว่าตนจะนำปูที่ชาวบ้านพื้นที่ จ.ระยอง ขายไม่ได้ ฝากไปให้ รมว.ทรัพยากรฯ และขอให้โพสต์ลงโซเชียลมีเดียด้วยว่ามีความปลอดภัย นายวราวุธกล่าวตอบว่า “ขอบคุณสำหรับปูและอย่าลืมน้ำจิ้ม เพราะผมชอบน้ำจิ้ม”