ยุติปฏิบัติการขจัดคราบน้ำมันดิบรั่วทะเลระยอง โดยจังหวัด ศรชล.ภาค1 พร้อมคณะกรรมการ ลงตรวจสอบหาดแม่รำพึงไม่พบคราบใดๆ พร้อมเตรียมปิดศูนย์บัญชาการสถานการณ์ฉุกเฉินส่วนหน้า


เมื่อวันที่ 3 ก.พ. 65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีเกิดเหตุน้ำมันดิบของ บริษัท สตาร์ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน) รั่วไหลจากท่อใต้ทะเลบริเวณทุ่นผูกเรือน้ำลึก หรือจุดขนถ่ายน้ำมันในทะเล (SPM) จำนวน 160,000 ลิตร เมื่อวันที่ 25 ม.ค. 65 ที่ผ่านมา พัดเข้าชายหาดแม่รำพึง สร้างความเสียหายเป็นวงกว้าง ซึ่งทางจังหวัดระยอง ได้ร่วมกับทัพเรือภาคที่ 1/ศรชล.ภาค 1 และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้เร่งกำจัดคราบน้ำมันจนสถานการณ์คลี่คลาย ไม่พบคราบน้ำมันในทะเล และบริเวณหาดแม่รำพึงที่เจ้าหน้าที่ ได้จัดเก็บและเคลียร์พื้นที่แล้ว จนไม่มีคราบน้ำมันแล้ว



ล่าสุดทางจังหวัดระยอง ทัพเรือภาคที่ 1/ ศรชล.ภาค 1 และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จะมีการตั้งคณะกรรมการจาก 3 ฝ่าย ประกอบด้วย ภาครัฐ ภาคผู้ประกอบการท่องเที่ยว ประชาชน ร้านอาหารริมชายหาด และภาคประชาสังคมด้านสิ่งแวดล้อม ตรวจสอบบริเวณชายหาดแม่รำพึงและในทะเล เพื่อประเมินสถานการณ์พื้นที่จริง ช่วงน้ำทะเลลง เพื่อให้มั่นใจว่าไม่พบคราบน้ำมันบริเวณชายหาดและในทะเลแล้วจริงๆ พร้อมจะมีการประกาศ ปิดศูนย์บัญชาการสถานการณ์ฉุกเฉินส่วนหน้าและศูนย์ปฏิบัติงาน ของส่วนราชการทุกหน่วยงาน ที่มาเปิดปฏิบัติการกู้คราบน้ำมัน ดังกล่าว อย่างไรก็ตาม การเฝ้าระวังปัญหาคราบน้ำมันบริเวณชายหาดแม่รำพึงทั้งในทะเลและพื้นที่อื่นๆ จะยังคงมีชุดเจ้าหน้าที่ติดตามเฝ้าสังเกตการณ์ คราบน้ำมันที่อาจจะหลงเหลือและเล็ดลอดพัดเข้าฝั่ง ตลอด 24 ชม.

...



และตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา กองทัพเรือ โดยทัพเรือภาคที่ 1 ศรชล.ภาค 1 และศูนย์บัญชาการเหตุการณ์จังหวัดระยอง กรณีน้ำมันดิบรั่วไหลในทะเล (ชายหาดแม่รำพึง อำเภอเมือง จังหวัดระยอง) ศูนย์ติดตามสถานการณ์แก้ไขปัญหามลพิษทางน้ำเนื่องจากน้ำมันจังหวัดระยอง ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลจังหวัดระยอง (ศรชล.จว.ระยอง) ได้ดำเนินการในกรณีน้ำมันดิบรั่วไหลในทะเล ร่วมกับ หน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง อาทิ ศคปน.ทรภ.1 กรมเจ้าท่า ทช. กรมควบคุมมลพิษ อุทยานแห่งชาติ เขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด IESG และ ทสม.ระยอง มาอย่างต่อเนื่อง มีกำลังพลของกองทัพเรือ จากหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน จำนวน 600 นาย จากหน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและชายฝั่ง จำนวน 600 นาย รวม 1,200 นาย จนท.จากกรมวิทยาศาสตร์ทหารเรือ จากทัพเรือภาคที่ 1 ส่งกำลังพล เรือรบและอากาศยาน สนับสนุนการปฏิบัติทั้งผิวพื้นทะเลและชายฝัง ทีมนักประดาน้ำจากกองทัพเรือ และจาก SPRC ดำน้ำลงสำรวจพื้นที่ใต้ทะเล ซึ่งการปฏิบัติทั้งมวล เป็นการปฏิบัติที่มีการบูรณาการร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ในการกำจัดคราบน้ำมัน จนสถานการณ์คลี่คลายไปได้ในที่สุด.